กทม. สู้วิกฤติฝุ่น PM 2.5
Written by ทันข่าวToday
Highlights
ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่รอบนี้รุนแรง เข้มข้นกว่าเดิม แม้ว่ายังอยู่ในช่วงเวลาของ COVID-19 ที่หลายกิจกรรมสะดุด หยุดชะงักลง
ฝุ่นรอบนี้มาจากไหน ?
ทันข่าวToday ชวนมาหาคำตอบ
5 ปัจจัยก่อฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ (ทุกปี)
▪️ 72% มาจากระบบคมนาคมขนส่งทางบก
▪️ 17% มาจากภาคอุตสาหกรรม
▪️ 5% มาจากการเผาในที่โล่ง
▪️ 2% มาจากภาคครัวเรือน
▪️ 2.5% มาจากอื่นๆ
ข้อมูลจาก กรุงเทพมหานคร
ฝุ่น PM 2.5 กลับมาอีกระลอก มีสัญญาณเตือนสีแดง สีแดงเข้ม หลายเขต หลายพื้นที่มีค่าเกินมาตรฐาน แม้จะเป็นช่วง Work From Home ที่การจราจรหรือกิจกรรมของผู้คนไม่มากนัก
ฝุ่นรอบนี้มาจากไหน ?
วิกฤติฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม ที่แม้ว่าผู้คน Work From Home กันนั้น หลักๆ มาจาก 2 ปัจจัย ก็คือ
1. อากาศปิด – สภาพกำลังลมอ่อน ลมพื้นผิว ที่อยู่ในระดับรอบตัวเราแผ่วลง แต่ลมที่อยู่เหนือพื้นผิวสูงขึ้นไปกว่า 900 เมตร พัดแรงมากขึ้น โดยมีทิศทางมาจาก ประเทศเพื่อนบ้านเรา ซึ่งก็คือ ประเทศกัมพูชา และพื้นที่โดยรอบ
2. มลพิษข้ามแดนจาก "เพื่อนบ้าน" ซึ่งตอนนี้หลายๆ ประเทศที่อยู่ทางทิศตะวันออกของไทย มีการ “เผา” ค่อนข้างมาก
เมื่อพัดเข้าในพื้นที่กทม. ที่อากาศปิดเหมือนฝาชีครอบ ประกอบกับฝุ่นจากการคมนาคมที่อากาศไม่หมุนเวียน จึงเป็นที่มาของค่าฝุ่นที่กลับมาพุ่งสูงอีกระลอก
กางแผน 3 มาตรการแน่นๆ ของกทม. กับการจัดการปัญหาฝุ่น
ติดตั้งเครื่องตรวจวัดฝุ่นละออง PM 2.5
เพื่อให้ทุกคนรู้ว่ามีฝุ่นมากน้อยแค่ไหน จะได้วางแผนทำกิจกรรมและป้องกันตนเองได้ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ด้วย
พร้อมกับรณรงค์ให้ทุกคนใช้แอปพลิเคชั่น AirBKK ซึ่งจะรายงานค่าฝุ่น PM 2.5 โดยตรงตามค่ามาตรฐานขององค์กรอนามัยโลก ซึ่งค่าจะแตกต่างจากการรายงานดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ที่เป็นการรายงานค่าคุณภาพอากาศโดยรวม เพื่อตรวจคุณภาพอากาศได้ด้วยตนเอง พร้อมให้คำแนะนำในการป้องกันฝุ่นอย่างถูกวิธี
แก้ไขปัญหาทันที
- ออกมาตรการเข้มงวดการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5
- ฉีดพ่นน้ำล้างถนน ทางเท้า ต้นไม้ พุ่มไม้ ทุกวัน ทุกเขต
- เช็ดทำความสะอาดป้ายรถเมล์ สะพานลอย และพื้นที่สาธารณะ
- ควบคุมเขตก่อสร้างให้ดำเนินการป้องกันฝุ่นจากทำงาน
- ควบคุมโรงงานที่ปล่อยควันไม่ให้เกินมาตรฐาน
- ตรวจจับรถบรรทุกดินและวัสดุก่อสร้างที่ไม่มีการป้องกันฝุ่น
- รณรงค์ทุกภาคส่วนให้ช่วยกันลดฝุ่น จอดดับเครื่อง ตรวจสภาพรถ ไม่เผาในพื้นที่โล่ง และแนะนำวิธีป้องกันตนเองจากฝุ่น
- ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันวินัยรถยนต์ที่ปล่อยควันดำ
- กทม. เข้มงวดบุคลากรลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ทำงานเหลื่อมเวลา
แก้ไขปัญหาฝุ่นระยะยาว
- พลังงานสะอาด
- เพิ่มพื้นที่สีเขียว
- เพิ่มพื้นที่สีเขียวจากปี 62 จำนวน 632 ไร่ 3 งาน 31.85 ตร.วา เฉลี่ยอัตราต่อจำนวนประชากรเป็น 7.08 ตร.ม./คน
- เพิ่มการขนส่งมวลชนที่ใช้พลังงานสะอาด ลดจำนวนคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวและรถเมล์ได้วันละ 237,700 คน/วัน
- เพิ่มสถานีรถไฟฟ้า BTS จากปี 62 จำนวน 28 สถานี
- โครงการห้องเรียนปลอดฝุ่น ในสังกัด กทม.นำแผ่น HEPA สำหรับกรองฝุ่น PM 2.5 มาติดที่ห้องเรียน
- ให้บริการเรือโดยสารคลองผดุงกรุงเกษม พลังงานสะอาด 100% ลดฝุ่น ลดเสียง ไม่มีควัน จำนวน 10 ลำ
- ให้บริการรถ shuttle bus ไฟฟ้า ลดรอยต่อการเดินทาง จำนวน 2 เส้นทาง ทำให้คนหันมาใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น
3 แนวทางสู้ฝุ่น อยู่หมัดแบบฉบับ กทม.
วิกฤติฝุ่นในแต่ละระดับความรุนแรงที่ต่างกัน
แนวทางการรับมือของกทม. จะแบ่งออกเป็น 3 แนวทาง คือ
ระดับ1 : สถานการณ์ฝุ่นละอองไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.
กำกับดูแลสถานที่ก่อสร้าง บริการตรวจเช็คควันดำเครื่องยนต์ฟรี ควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมในการปล่อยควันดำ การล้างถนน กวดขัน ตรวจตราไม่ให้มีการเผาในที่โล่ง งดกิจกรรมกลางแจ้งของเด็กเล็ก และประชาสัมพันธ์ให้สวมหน้ากากอนามัย ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณฝุ่น 50 สำนักงานเขต และสวนสาธารณะ 20 แห่งทั่วกรุงเทพฯ เปิดคลินิกมลพิษทางอากาศในโรงพยาบาลสังกัด กทม. ฉีดพ่นละอองน้ำบนอาคารสูง เปิดสายด่วน 1584 เพื่อแจ้งเบาะแสรถควันดำ และการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้บริการติดตามคุณภาพอากาศผ่านแอพพลิเคชั่น
ระดับ2 : มาตรการสำหรับสถานการณ์ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 ระหว่าง 50-75 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.
จะดำเนินการปิดการเรียนการสอนโรงเรียนสังกัด กทม. ครั้งละไม่เกิน 3 วัน การบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดในการเผา การงดกิจกรรมก่อสร้างทุกประเภทที่เกิดฝุ่น การห้ามจอดรถริมถนนในถนนหลัก ถนนรอง การจัดให้มี Safe Zone ในทุกโรงเรียน และศูนย์เด็กเล็กสังกัด กทม. เก็บขยะมูลฝอยให้แล้วเสร็จก่อนเวลา 04.00 น. และการออกหน่วยบริการสาธารณสุขและหน่วยบริการเคลื่อนที่ กทม.
ระดับ 3: มาตรการสำหรับสถานการณ์ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 เกิน 76 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.
จะดำเนินการสั่งหยุดการก่อสร้างรถไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 5-7 วัน ปิดการเรียนการสอนครั้งละไม่เกิน 15 วัน ให้บุคลากรของ กทม. เหลื่อมเวลาการทำงานและลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ใช้มาตรการจับปรับจอดรถไม่ดับเครื่อง และประสานให้หน่วยงานราชการใช้ระบบขนส่งมวลชน การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้กระทำผิดในการเผา การตรวจวัดควันดำรถโดยสารไม่ประจำทางทุกคัน
เปิด 3 แนวทาง กู้สุขภาพคนไทย จากภัยเงียบฝุ่น PM 2.5
จากสถิติขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้สำรวจพบว่า ในแต่ละปีมีประชากรที่ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เนื่องจากมลพิษในอากาศทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านคนในจำนวนนี้ เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ถึงร้อยละ 10 หรือประมาณ 600,000 คน
กลุ่มไหนเสี่ยง - ไม่เสี่ยง ดูยังไง?
ถ้าคุณอยู่ในลิสข้างล่างนี้
▪️ เด็ก
▪️ ผู้สูงอายุ
▪️ หญิงตั้งครรภ์
▪️ ผู้ป่วยทางเดินหายใจ
▪️ ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด
กทม. ได้จัดหน่วยงานดูแล
1. สำนักการแพทย์ ได้จัดหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่สูงจนมีผลกระทบต่อสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเพื่อช่วยเหลือและให้ความรู้ประชาชน แนะนำการป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก
รวมถึงให้คำแนะนำการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องแก่ประชาชน
2. พร้อมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขกรณีฝุ่นละออง PM 2.5 เกิน 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเกิน 3 วัน
โดยสั่งการให้ 3 โรงพยาบาลเปิดคลินิกมลพิษทางอากาศที่
- โรงพยาบาลตากสิน (วันจันทร์ และ วันพฤหัสเวลา 08.00 – 12.00 น.)
- โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ (วันพุธ เวลา 13.00 – 15.30 น.)
- โรงพยาบาลกลาง (วันพฤหัสบดี เวลา 13.00 – 15.30 น.)
เพื่อให้คำปรึกษาและนำไปสู่การรักษาพยาบาลต่อไป
Facebook : สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร LINE : ศูนย์ข้อมูลข่าวสารสุขภาพ MIL Center
Hotline 1646 สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ตอบปัญหาและให้คำปรึกษาเรื่องโรคที่มีสาเหตุจากฝุ่นละออง
- หากต้องการปรึกษาแพทย์จะประสานต่อสายผ่านไปยังศูนย์ BFC : Bangkok Fast & Clear ศูนย์บริหารราชการฉับไว ใสสะอาด ของแต่ละโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อนัดพบแพทย์ต่อไป
สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 - ไม่ไปในพื้นที่ ที่ ค่า PM 2.5สูง - งดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง เช่น การใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว การห้ามเผาขยะหรือการเผาในที่โล่งทุกประเภท เป็นต้น
สิ่งสำคัญที่สุดในวิกฤติฝุ่น PM 2.5 ก็คือการป้องกันตนเอง ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองแบบ Real Time ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่
www.bangkokairquality.com
www.prbangkok.com
www.air4bangkok.com
Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม
Facebook : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ และแอปพลิเคชัน AirBKK
ข่าวยอดนิยม

รพ.เอราวัณ 2 โรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ กทม. เปิดแล้ววันนี้ (19 เม.ย.)

กทม. ปักหมุด นำร่อง 5 โครงการ เชื่อมย่านสำคัญต่างๆ เริ่มเปิดบริการปลาย ธ.ค.นี้

“เรื่องเล่าดีดี ของคนกรุงเทพฯ” ตอน พาชม “สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา” จากสะพานร้าง สู่จุดชมวิว 360 องศา เหนือแม่น้ำเจ้า...

10 ปัญหาที่คนกรุงอยากให้ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่แก้ไขเร่งด่วน!
