ว่าด้วยเรื่อง น้ำมันดีเซล B10 …ใครสงสัยบ้าง ?

Highlight

📍 หลังจากรัฐบาลประกาศให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐานของประเทศไทย ผู้ใช้รถยนต์ดีเซลน่าจะเกิดคำถามว่า

• ทำไมต้องมี B10 ทำออกมาเพื่ออะไร !!
• รถที่ตัวเองมีอยู่สามารถใช้ได้หรือไม่ ?
• แตกต่างจากของเดิม ยังไง?

📍 ประเทศไทยมีรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงพลังงานดีเซลกว่า 10 ล้านคัน!!

ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนว่า น้ำมันดีเซลในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

• น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา B7
• น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 (น้องใหม่)
• น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20

📍 แตกต่างจากของเดิมยังไง?

⛽️ น้ำมันดีเซลทั้ง 3 ประเภท แตกต่างกันที่สัดส่วนผสมไบโอดีเซล คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา B7 มีสัดส่วนไบโอดีเซล 6.6 – 7.0% น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 มีสัดส่วนไบโอดีเซล 9 – 10% และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 มีสัดส่วนไบโอดีเซล 19 – 20%

📍 B10 ♻️ คือ สายรักษ์โลกตัวจริง‼️

• ตัวช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้อีกด้วย โดยผลการศึกษาพบว่า การใช้น้ำมันดีเซล B10 จะช่วยลดฝุ่นละออง (PM) ลงได้ประมาณ 15% และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ลงได้ประมาณ 3.5% หรือ 300 ตันต่อปี
• ช่วยสร้างสมดุลปาล์มน้ำมันทั้งระบบ และยังสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมัน ทำให้ราคาสูงขึ้น

📍 รถรุ่นไหน 🚘ใช้น้ำมัน B10 ได้บ้าง?

• สำหรับใครที่ไม่ทราบข้อมูลรุ่นรถ และต้องการทราบรถยนต์ที่ตนเองมีอยู่ใช้กับน้ำมัน B10 ได้หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์กรมธุรกิจพลังงาน www.doeb.go.th หรือติดต่อสอบถามโดยตรงที่ศูนย์บริการหรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ของผู้ผลิตรถยนต์แต่ละยี่ห้อ
• จากการทดสอบตามมาตรฐานสากล โดยร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก ทั้งผู้ผลิตรถยนต์ ผู้ผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ และหน่วยราชการ พบว่า ไม่ส่งผลต่อการสึกหรอของเครื่องยนต์ รวมถึงไม่มีผลกระทบต่อระบบจ่ายเชื้อเพลิงและระบบหล่อลื่นเครื่องยนต์…สบายใจได้ แถมถูกกว่าน้ำมันดีเซลทั่วไปตั้งลิตรละ 2บาท  ลองกันแล้วหรือยัง ?