15 กุมภาพันธ์ 2565
1,586

ครม. เคาะแพคเกจอีวี รถยนต์ กระบะ 70,000-150,000 บาท ลดภาษีน้ำมันดีเซลไม่เกิน 3 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน

ครม. เคาะแพคเกจอีวี รถยนต์ กระบะ 70,000-150,000 บาท ลดภาษีน้ำมันดีเซลไม่เกิน 3 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน
Highlight

คณะรัฐมนตรี (ครม.) คลอดแพคเกจรถอีวีตามคาด จัดเงินอุดหนุนรถยนต์และรถกระบะคันละ 70,000-150,000 บาทต่อคัน และรถจักรยานยนต์ 18,000 บาทต่อคัน พร้อมลดภาษีสรรพสามิต นอกจากนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผ่านราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศที่ลดลงโดยตรง โดยลดภาษีน้ำมันดีเซลลง ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับลดประมาณ 3 บาทต่อลิตร


วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 7/2565 ซึ่งมีการพิจารณาแพคเกจยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพื่อกระตุ้นการใช้รถอีวีในไทย 3 ประเภท ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถกระบะ

มาตรการแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ปี 2565-2568 ส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า 3 กลุ่ม คือ 

1. เงินอุดหนุนรถยนต์และรถกระบะคันละ 70,000-150,000 บาทต่อคัน และรถจักรยานยนต์ 18,000 บาทต่อคัน
2. ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์จาก 8% เป็น 2% และรถกระบะเป็น 0%
3. ลดอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตต่างประเทศและนำเข้าทั้งคัน (CBU) สูงสุด 40% สำหรับรถยนต์ถึงปี 2566 และยกเว้นอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตในประเทศ (CKD) จำนวน 9 รายการ

ทั้งนี้ ค่ายรถที่เข้าร่วมต้องรับเงื่อนไข ได้แก่ ผลิตชดเชยให้เท่ากับจำนวนที่นำเข้า CBU ช่วงปี 2565-2566 ในปี 2567 แต่ขยายเวลาได้ ถึงปี 2568 จะต้องผลิตในอัตราส่วน 1.5 เท่า (นำเข้า 1 คัน ผลิต 1.5 คัน) ผู้ใช้สิทธิ์จะผลิต BEV รุ่นใดก็ได้เพื่อชดเชย ยกเว้นรถที่มีราคาขายปลีกราคา 2-7 ล้านบาทต้องผลิตรุ่นเดียวกับที่นำเข้ามา เป็นต้น

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมประชุม ครม. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผ่านราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศที่ลดลงโดยตรง และสะท้อนไปยังราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ปรับลดประมาณ 3 บาทต่อลิตร มีรายละเอียด ดังนี้

  • น้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถัน เกินร้อยละ 0.005 โดยน้ำหนัก อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 บาท
  • น้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถัน ไม่เกินร้อยละ 0.005 โดยน้ำหนัก อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 บาท
  • น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสม ไม่เกินร้อยละ 4 อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 บาท 
  • น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสม เกินร้อยละ 4 แต่ไม่เกินร้อยละ 7 อัตราภาษีเดิม 5.990 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.200 บาท 
  • น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมเกินร้อยละ 7 แต่ไม่เกินร้อยละ 9 อัตราภาษีเดิม 5.930 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.170 บาท 

ทั้งนี้ อัตราภาษีใหม่ จะมีผลตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 20 พ.ค. 2565 จากนั้นตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2565 จะกลับสู่อัตราภาษีเดิม
 
“คาดการณ์ว่า จะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันประมาณ 17,100 ล้านบาท จากปริมาณน้ำมันที่มีการชำระภาษี 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 ที่จัดเก็บลดลงประมาณ 5,700 ล้านบาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน แต่จะเป็นการช่วยเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต การเกษตร การท่องเที่ยวและบริการ และการขนส่ง” นาย ธนกร กล่าว

สำหรับขั้นตอนต่อไปจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

ติดต่อโฆษณา!