ปรับวิกฤติรัสเซีย-ยูเครนเป็นโอกาสในการประหยัดพลังงาน
Highlight
ท่ามกลางสถานการณ์สงคราม ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก หากเราไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงาน คงต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากโดยไม่ได้อะไรกลับมาถ้าสามารถประหยัดการใช้พลังงานทั้งในบ้านและนอกบ้านลงมาได้บ้าง เงินในกระเป๋าเหลือเพิ่มขึ้นแน่นอน ดังนั้น 8 วิธีประหยัดพลังงาน นอกจากจะช่วยให้ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าแล้ว ยังช่วยเราประหยัดเงินอีกด้วย
สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างของรัสเซีย-ยูเครนที่ลุกลามกลายมาเป็นสงครามทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้นมาก
เงินเฟ้อเร่งตัว เศรษฐกิจเปราะบาง และกระทบกับเงินในกระเป๋าของเรา
ทั้งนี้เนื่องจากรัสเซียสามารถผลิตและส่งออกน้ำมันดิบได้มากเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา
รัสเซียสามารถผลิตน้ำมันดิบได้ 10.2 ล้านบาร์เรลต่อวันและส่งออกน้ำมันดิบ 3.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ในขณะที่ประเทศในยุโรปต้องพึ่งพาน้ำมันจากรัสเซีย 30-40% ของการนำเข้าทั้งหมด ท่ามกลางท่าทีของนานาประเทศที่ส่งสัญญาณเลิกคบรัสเซียเพราะไม่เห็นด้วยที่รุกรานยูเครน
ทำให้น้ำมันดิบเบรนท์ทะยานแตะ 139 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล สูงที่สุดในรอบ 14 ปี
ก่อนปรับลงมาอยู่ที่บริเวณ 110 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบเดือนเมษายน อยู่ที่ระดับ 97-109 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เทียบกับวันแรกปี 2565 อยู่ที่ระดับ 77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
เศรษฐกิจที่เปราะบาง เงินเฟ้อก็สูงขึ้นราคาเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น กระทบกับเงินในกระเป๋าของเรา เพราะว่าค่าใช้จ่ายสูงขึ้น จากการที่จ่ายเงินมากขึ้นแต่ได้ของเท่าเดิม
ทำให้ถึงเวลาแล้วที่จะมองวิกฤตพลังงานเป็น “โอกาส” ในการปรับพฤติกรรมในการใช้พลังงาน ไม่ถึงกับคิดการใหญ่ แต่สามารถเริ่มต้นเองได้ง่ายๆ กับ 8 คำแนะนำในการประหยัดพลังงาน ทั้งในบ้านและนอกบ้านที่ทำได้จริงและเริ่มได้ทันที
8 วิธีประหยัดพลังงานทั้งในบ้านและนอกบ้าน
1. ปิดสวิตช์ไฟเมื่อออกจากห้อง วินัยนี้สร้างได้เมื่อไหร่ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้แน่นอน
2. ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1 องศาต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 5-10% และไม่ปล่อยให้ความเย็นรั่วไหลออกจากห้อง ตรวจสอบอุดรอยรั่วตามฝ้าผนังเพดาน ปิดประตูห้องทุกครั้งที่เปิดเครื่องปรับอากาศ
3. ปลูกต้นไม้รอบบ้าน เพราะต้นไม้ขนาดใหญ่ 1 ต้น ให้ความเย็นเท่ากับเครื่องปรับอากาศ 1 ตันหรือให้ความเย็นเท่ากับ 12,000 บีทียู
4. ปิดคอมพิวเตอร์ หากไม่ได้ใช้งาน ลองติดตั้งระบบลดกระแสไฟฟ้าเข้าเครื่องเมื่อพักการทำงาน จะประหยัดไฟได้ 35-40% และถ้าปิดหน้าจอทันทีที่ไม่ได้ใช้งานจะประหยัดไฟได้ถึง 60%
5. อย่าลืมตรวจเช็คลมยาง และสภาพเครื่องยนต์ก่อนออกจากบ้านจะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 3-9% หมี่ยตรวจเช็คไส้กรองอากาศ ระบบระบายความร้อน หัวเทียนเสื่อมสภาพ การจุดระเบิด การเผาไหม้ของเชื้อเพลิง รวมถึงการเช็คเส้นทางก่อนเดินทาง ช่วยประหยัดพลังงานได้
6. ขับรถไม่เหยียบเบรกบ่อยๆ หรือเหยียบเบรกกะทันหัน เพราะไม่เป็นผลดีต่อเครื่องยนต์ และจะสิ้นเปลืองน้ำมันถึง 40% ขับรถมีสติอยู่เสมอ สังเกตสิ่งรอบข้าง
7. ขับรถด้วยความเร็วคงที่และสม่ำเสมอประมาณ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 15-20%
8. สำหรับรถกระบะที่บรรทุกของ ให้วางของอยู่กึ่งกลางรถ ให้น้ำหนักบรรทุกสมดุล ไม่วางของที่ท้ายกระบะมากเกินไป ขับด้วยความเร็วสม่ำเสมอ
จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ เริ่มต้นจากตัวเราเอง ให้วิกฤตพลังงานครั้งนี้ เป็นโอกาสให้เราทบทวน และบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในครัวเรือนอย่างจริงจัง และได้เป็นส่วนสำคัญของการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
“เพื่อรักษาและขอบคุณโลกใบนี้ ที่เป็นแหล่งกำเนิดทุกชีวิต”