22 มีนาคม 2566
917

รัสเซียผู้ค้าน้ำมันอันดับสองของโลก ขึ้นแท่นสู่ผู้ส่งออกเบอร์ 1 ของจีนแทนที่ซาอุฯ

รัสเซียผู้ค้าน้ำมันอันดับสองของโลก ขึ้นแท่นสู่ผู้ส่งออกเบอร์ 1 ของจีนแทนที่ซาอุฯ
Highlight

ทางการจีนระบุว่า รัสเซียแซงหน้าซาอุดีอาระเบียขึ้นเป็นผู้ค้าน้ำมันอันดับหนึ่งของจีนในช่วงสองเดือนแรกของปี 2566 ในขณะที่ผู้ซื้อแห่ซื้อน้ำมันรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตร เนื่องจากมีราคาที่ส่วนลดที่ถูกมาก ราคาน้ำมันในปีนี้ปรับลดมากจากหายสาเหตุ เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย การเกิดวิกฤตธนาคารสหรัฐฯ และยุโรปล้ม ซึ่งเป็นปัจจัยการซ้ำเติมความเชื่อมั่นในการลงทุน ค่าเงินดอลลาร์ผันผวนและอ่อนค่าและตลาดกำลังจับตาทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้



รัฐบาลจีนเปิดเผยข้อมูลเมื่อ 20 มี.ค.ว่า รัสเซียแซงหน้าซาอุดีอาระเบียขึ้นเป็นผู้ค้าน้ำมันอันดับหนึ่งของจีนในช่วงสองเดือนแรกของปี 2566 ในขณะที่ผู้ซื้อแห่ซื้อน้ำมันรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตร เนื่องจากมีราคาที่ส่วนลดที่ถูกมาก

  • ตามข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรนั้น จีนเข้าน้ำมันจากรัสเซียรวมทั้งสิ้น 15.68 ล้านตัน หรือ 1.94 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนม.ค. – ก.พ. ซึ่งเพิ่มขึ้น 23.8% จาก 1.57 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565

  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียเป็นผู้ค้าน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับสองของจีนในปีที่แล้ว ด้วยปริมาณ 86.2 ล้านตัน การนำเข้าน้ำมันดิบจากซาอุดีอาระเบียมีจำนวนทั้งสิ้น 13.92 ล้านตันในช่วงเวลาดังกล่าว เท่ากับ 1.72 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจาก 1.81 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปีก่อนหน้า โดยซาอุดีอาระเบียเป็นผู้ค้าน้ำมันอับหนึ่งของจีนในปี 2565 ด้วยปริมาณ 87.49 ล้านตัน หรือเท่ากับ 1.75 ล้านบาร์เรลต่อวัน

  • ทั้งนี้ การคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกและการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียที่ขนส่งทางทะเล หลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครน ทำให้อุปทานน้ำมันรัสเซียถูกจำกัด นำไปสู่การซื้อขายในราคาส่วนลดที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานระหว่างประเทศ

  • นอกจากนี้ ข้อมูลศุลกากรของจีนยังแสดงให้เห็นว่าการนำเข้าน้ำมันจากมาเลเซียอยู่ที่ 0.65 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 144.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมาเลเซียมักกลายเป็นจุดแวะพักสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรจากอิหร่านและเวเนซุเอลา

    20230322-a-01.jpg


  • คุณจักรพงษ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่า รัสเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก โดยมีมาร์เก็ตแชร์ 15%, เป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเป็นอันดับสองของโลก โดยมีมาร์เก็ตแชร์ 35% ซึ่งส่วนใหญ่ส่งออกไปยังยุโรป และผลิตและส่งออกถ่านหินประมาณ 10% อีกด้วย

  • ทั้งนี้รัสเซียถือเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและซาอุดีอาระเบีย ขณะเดียวกันยังส่งออกน้ำมันเป็นอันดับที่ 2 ของโลกอีกด้วย โดยในแต่ละวันรัสเซียผลิตน้ำมันได้ 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และส่งออกประมาณ 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งครึ่งหนึ่งถูกส่งไปยังยุโรป

  • การที่ราคาพลังงานพุ่งสูงในปีที่ผ่านมา เกิดจากปัญหาการขาดแคลนพลังงานที่มีสาเหตุมาจากการคว่ำบาตรรัสเซีย แม้ยุโรปจะไม่ได้ยกเลิกการนำเข้าพลังงานเสียทั้งหมด แต่ก็ทำให้ประเทศต้องเผชิญกับราคาพลังงานที่สูงขึ้น

  • นอกจากจะนำเข้าพลังงานน้อยลงแล้ว ฝั่งโอเปกเองก็ไม่มีท่าที่ผลิตน้ำมันเพิ่ม มิหนำซ้ำยังลดการผลิตอีกต่างหาก ลำพังการขายน้ำมันในคลังก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการด้วย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมราคาน้ำมันโลกถึงไม่ลดลงสักที

  • แม้หลายประเทศจะเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องโดยการไม่สนับสนุนรัสเซีย แต่ผลที่ตามมาก็กระทบกับเศรษฐกิจเป็นวงกว้างจนค่าครองชีพเพิ่มขึ้น และยุโรปจะยิ่งลำบากขึ้น เมื่อไม่มีก๊าซจากรัสเซีย

ราคาน้ามันดิบฟื้นตัวเล็กน้อย หลังธนาคารยูบีเอส บรรลุข้อตกลงการเข้าซื้อเครดิตสวิส

  • ฝ่ายวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันจาก บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ามันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มกว่าร้อยละ 2 หลังตลาด คลายกังวลต่อปัญหาภาคธนาคารทั่วโลกได้บางส่วน ขณะที่ยังคงจับตา การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เริ่มการประชุมนโยบาย การเงินในวันอังคารท่ีผ่านมา ซึ่งจะใช้เวลา 2 วัน โดยตลาดคาดการณ์ว่า จะมีการปรับลดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 0.5 เหลือแค่ปรัเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.25 หรืออาจทาการเลื่อนการประกาศรายงานการ ประมาณการเศรษฐกิจใหม่ออกไป

  • ตลาดยังคงจับตานโยบายของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส ที่จะมีการประชุมในวันที่ 3 เม.ย. 66 นี้ ว่าจะมีนโยบายในการ ตอบสนองต่อราคาน้ามันดิบที่ปรับตัวลดลงจากความกังวลต่อภาค ธนาคารทั่วโลกอย่างไร

  • นอกจากนี้ตลาดคลายกังวลได้บางส่วนจากกรณีธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่าง ยูบีเอส ได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อเครดิต สวิส เพื่อท่ีจะกอบกู้ธนาคารอันดับ 2 ของประเทศ นอกจากนี้ ธนาคารกลางประเทศอื่นๆ ต่างพากันแถลงเสริมสภาพคล่องและสนับสนุนสถาบัน การเงินอื่นๆ

  • ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2567 ลง 600,000 บาร์เรลต่อวัน จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร ขณะที่ยังคงคาดการณ์อุปสงค์น้ามันในปีนี้

  • หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยเลข น้ามันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 3.3 ล้าน บาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 1.6 ล้าน บาร์เรล

 

อ้างอิง :  PTT ExpresSo, thaioilgroup.com

ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ

🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC
ติดต่อโฆษณา!