EV ครบวงจรในประเทศไทย
วันนี้เมื่อ 5-6 ปีที่แล้วแทบไม่มีใครเชื่อว่า วงการ EV จะบูมขึ้นในเมืองไทยภายใน 10 ปี มาวันนี้พูดได้เต็มปากว่าวงการ EV หรือยานยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยหลักเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาสูง สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 รวมไปถึงหลายประเทศทั่วโลกต่างให้ความสำคัญประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สังเกตได้จากยอดการจองรถ EV ที่เพิ่มขึ้นตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
ปี 2564 ประมาณ 5,400 คัน ขยับก้าวกระโดดในปี 2565 กว่า 18,000 คัน และในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 นี้มี EV จดทะเบียนใหม่ไปแล้วกว่า 16,000 คัน
นโยบายสนับสนุนของภาครัฐที่เอื้อไปสู่การสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งจากมาตรการเชิงรุก การลดภาษีสรรพสามิต การลดภาษีศุลกากร และยังมีเงินสมทบให้ในบางกรณี ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงได้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้การตัดสินใจจะซื้อ EV ซักคันนึงเชื่อว่าทุกคนมีความสงสัยว่า แล้วจะไปเติมไฟที่ไหน เพียงพอหรือไม่ ควรรอให้มีจุดชาร์จไฟให้มากเพียงพอหรือเปล่า แล้วค่อยซื้อรถดีไหม
ปัจจุบันความกังวลเหล่านี้แทบจะหมดไป ค่ายรถต่าง ๆ มีจุดชาร์จไฟในเครือข่าย ของตัวเองคอยให้บริการ รวมถึงการขยายตัวสถานีชาร์จไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ สามารถสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อ EV ได้มากขึ้น
EV เป็นนวัตกรรมทางเลือกใหม่เพื่ออนาคตและสิ่งแวดล้อมที่ช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ฉันบรรยากาศ ต้นปี 2566 นี้ไทยเราได้รับกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเมือง ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งคันนั้น สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้เฉลี่ย 1.5 ตันต่อปี
แต่การตัดสินใจซื้อ EV สักคันด้วยระบบที่ยังไม่รู้จักก็อาจจะยั้งใจเราไว้ได้อยู่ แต่มีใครที่กำลังตัดสินใจเช่า EV มาลองขับแล้วใช้งานได้จริงได้ง่าย ๆ โดยเลือกรุ่นรถที่ตรงกับไลฟ์สไตส์ ยี่ห้อรถในดวงใจ สีที่ถูกโฉลก สร้างประสบการณ์การเป็นเจ้าของ EV ผ่าน EVme Application ที่สามารถเช่าขับได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวมีบริการส่งรถถึงที่ ถ้าอดใจรอไม่ไหว สามารถติดต่อขอรับรถได้ด้วยตนเอง ก็ได้เช่นกัน
ซึ่งบริการของ EVme ซึ่งจะดูแลการเดินทางของคุณตลอด 24 ชั่วโมง ลดความกังวลด้วยบริการ พ.ร.บ. ประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟรีค่าซ่อมบำรุง มีข้อมูลจุดชาร์จจากทุกแบรนด์ทั่วประเทศไทยในแอปฯเดียว มี Call Center คอยให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
ถ้าลองแล้วติดใจจะขอซื้อไปเลยก็ได้เช่นกัน
บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) ลงทุนและพัฒนานวัตกรรมที่ยั่งยืน เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ โดยจัดตั้งบริษัท Arun Plus จำกัด และบริษัทในกลุ่ม Arun Plus เพื่อสร้างระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร
โดยบริษัท EVme Plus จำกัด เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท Arun Plus ที่ให้บริการแพลตฟอร์มเช่ารถยนต์ไฟฟ้าครบวงจรรายแรกของประเทศไทย และ on-ion ผู้ให้บริการธุรกิจสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charging Station ได้เดินหน้าผลักดันระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร
ผ่านการขยายพื้นที่ให้บริการ เครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV และสนับสนุนให้คนไทยใช้พลังงานสะอาด ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ EV เดินทางได้อย่างไร้กังวล
โดยให้บริการเครื่องอัดประจุไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ (AC Charger) ขนาดกำลังไฟ 7 กิโลวัตต์ จำนวน 6 ช่องจอด ติดตั้งบริเวณชั้น 3A ฝั่งนอร์ท เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10:00 น. ถึง 22:00 น. สามารถรองรับรถยนต์ Plug-in Hybrid และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ทุกรุ่นทุกแบรนด์ ที่รองรับหัวชาร์จ Type 2
สามารถจองและควบคุมการใช้งานผ่าน on-ion Mobile Application ทั้งในระบบ Android และ iOS
EV ที่ใช้บริการชาร์จไฟที่นี่จะได้รับพลังงานไฟฟ้าที่เป็นพลังงานสะอาดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% และเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตในประเทศไทยทั้งหมด
นโยบายพรรคการเมืองที่เกี่ยวกับ EV เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ยกระดับสะท้อน นโยบายโลก มีการผลักดันการเปลี่ยนรถขนส่งสาธารณะเป็นรถเมล์ไฟฟ้า (EV Bus) สะท้อนให้เห็นว่า EV เป็นเรื่องใกล้ตัวและเป็นวาระสำคัญ ที่ต้องเร่งผลักดันเพื่อยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนไทยทุกคน
บทบาทของกลุ่มปตท ที่พร้อมเดินหน้าธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV Value Chain) โดยการจับมือกับ พันธมิตรเช่นนำทางธุรกิจ ในการเป็นส่วนสำคัญในการร่วมพัฒนาระบบนิเวศน์ EV ของไทยให้ครบวงจร แสวงหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ที่จะช่วยเติมเต็มระบบนิเวศร์ EV ของไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ควบคู่กับการรุกสู่ธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพสูงตามทิศทางโลก เพื่อพัฒนาคุณภาพสังคม ชุมชน และชีวิตของคนไทย ให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนต่อไป