ต้องมีเงินเท่าไหร่? ถึงจะได้ถอยรถ EV ในไทยกับเขาสักคัน

Highlight
‘ไบเดน’ ประธานาธิบดีคนใหม่ประกาศต้องการเปลี่ยนรถของรัฐบาลทั้งหมดเป็น ‘รถยนต์ไฟฟ้า EV ’ ที่ made in America ! เพื่อเดินหน้าตามแผนลดโลกร้อน อย่างต่อเนื่อง

ถือว่าเป็นนโยบายที่ปลุกกระแสพลังงานสะอาดและรถยนต์ไฟฟ้า EV  แบบเต็มๆ และยิ่งใหญ่มาก เพราะมีการประเมินคร่าวๆกันว่า ถ้ารวม รถส่วนกลางของรัฐบาล - รถทางทหาร และรถไปรษณีย์ อาจต้องใช้งบมากกว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (6 แสนล้านบาท) กันเลยทีเดียว 

พร้อมกับเดินหน้าออกมาตรการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

• การให้ส่วนลดทางภาษีพิเศษ หรือหาสิ่งจูงใจอื่นๆมากขึ้น 
• เพิ่มสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าไปทั่วประเทศ

เพื่อเดินตามแผนที่ต้องการให้รถทุกคันบนถนนสหรัฐจะไม่มีการปล่อยมลพิษ ภายในปี 2040 !

หันกลับมาดูประเทศไทยของเรา !!  
เข้ากับเทรนด์รักษ์โลก ด้วยรถ EV รัฐบาลก็พยายามสนับสนุนนะ แม้ว่าเสียงจะไม่ดัง จริงจังเท่า ไบเดน กับนโยบาย 

• ภาษี
• เรื่องจุดชาร์จไฟ และการดูแลรักษา

แล้วถ้าเราอยากจะมีรถ EV กับเขาสักคัน ที่ราคาไม่ถึงล้าน (ไม่ได้ฝันไกลแบบ Tesla) มีทางเลือกอะไรให้บ้าง ? 
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จริงๆแล้ว บ้านเรามีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกถึง 12 รุ่นแล้ว  ราคานั้นมีตั้งแต่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ไปจนถึงเกือบ 10 ล้านบาทเลยทีเดียว 

ทันข่าว Today ขอหยิบเอามาฝากแบบราคาต่ำล้าน เพื่อให้พอเอื้อมถึงกันบ้าง มาดูกัน 

Takano TTE500 ราคา 438,000 บาท

Takano (ทากาโน่) TTE500 นับว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกสุดในไทยตอนนี้ โดยรถกระบะไฟฟ้าขนาดจิ๋วคันนี้ พาคุณไปได้ทุกที่ สามารถรับน้ำหนักในการบรรทุกได้มากถึง 300 กิโลกรัม

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5 กิโลวัตต์ 
พร้อมแบตเตอรี่ 12V 125 แอมป์ ขนาด 6 ลูก ใต้พื้นกระบะหลัง และเครื่องยนต์เบนซินขนาดจิ๋วช่วยปั่นไฟฟ้าให้แบตเตอรี่ ให้ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ที่ 100-120 กิโลเมตร โดยใช้เงินเพียง 30 บาท และทำความเร็วได้สูงสุด 60 กม./ชม.

Fomm ONE ราคา 599,900 บาท

FOMM One (ฟอมม์ วัน) เป็นรถไฟฟ้า 4 ที่นั่ง ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก!!
เหมาะสำหรับใช้งานในเมืองมาก พร้อมจดทะเบียน

โดยพัฒนาโดยทีมวิศวกรชาวญี่ปุ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มชายฝั่งญี่ปุ่นเมื่อปี 2554 ทำให้ FOMM One นอกจากขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากไฟฟ้าแล้ว ยังขับบนน้ำได้ในภาวะฉุกเฉิน เช่น น้ำท่วม โดยไม่ต้องเป็นห่วงว่าแบตเตอรี่จะเสียหาย หรือระบบไฟฟ้า

ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ In-wheel ขนาด 5 kW จำนวน 2 ตัว ให้แรงบิดรวมสูงสุด 560 นิวตัน-เมตร สามารถชาร์จไฟจนเต็ม (0-100%) ในเวลา 6 ชั่วโมง 
สามารถวิ่งได้ระยะทางมากถึง 160 กิโลเมตร และสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 80 กม./ชม. เลยทีเดียว (ปลิวลมกันเลย) 

MG EP ราคา 988,000 บาท

NEW MG EP รถ STATION WAGON ใหม่ พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีทุกสิ่ง ครบทุกอย่าง ภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ที่ออกแบบให้ทั้งสมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDLING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชันของการเป็นรถ EV เหมาะสำหรับทุกการใช้งาน ขับเคลื่อนได้ไกลกว่า ประหยัดกว่า ต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ

แรงม้าสูงสุด: 163 PS แรงบิดสูงสุด: 260 Nm ด้วยแบตเตอรี่: Lithium-ion ขนาด 50.3 kWh สามารถชาร์จไฟจนเต็มด้วยระยะเวลาชาร์จปกติ (0-100%): 7 ชม. 15 นาที (ผ่าน Wallbox) และระยะเวลาชาร์จด่วน (0-80%): 40 นาที

BYD T3 ราคา 999,000 บาท

BYD T3 (บีวายดี ที3) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นบนพื้นฐาน Nissan B Platform (หรือ Nissan NV200) เป็นรถตู้ทึบ ใช้งานในเชิงพาณิชย์

แยกออกเป็นรุ่น M3 แบบรถอเนกประสงค์ 5 ที่นั่งให้เลือก ในราคา 1,059,000 บาท และรุ่น 7 ที่นั่ง ในราคา 1,089,000 บาท สามารถรองรับสัมภาระได้มากถึง 1,800 ลิตร (ในรุ่น 5 ที่นั่ง) และ 3,800 ลิตร (ในรุ่น 2 ที่นั่ง รถตู้ทึบ)

มลระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ด้วยมอเตอร์ 70 kWh พร้อมด้วยแบตเตอรี่ขนาด 50 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทาง 300 กม. (คำนวณจากที่รวมน้ำหนักบรรทุก 700 กก. หรือเทียบเท่ามีผู้โดยสาร 7 คน) 

อัตราการสิ้นเปลือง 1 kWh : 6 กม. เทียบเท่ากับ กม.ละ เพียง 0.833 บาท ซึ่งประหยัดกว่าค่าน้ำมันเชื้อเพลิงถึง 3 เท่า

ปิดท้ายขอแถม รถที่ดังที่สุด ขายดีที่สุดในโลก Tesla Model 3 (เทสลา โมเดล 3) แม้ว่าในไทย Tesla ยังไม่ได้เข้ามาทำตลาดด้วยตัวเอง แต่ก็มีผู้จำหน่ายอิสระได้นำเข้ามาจากประเทศอังกฤษ ขายกันหลายรุ่นเลยทีเดียว

Tesla Model 3 ราคา 3,190,000 บาท

มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 283 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกทั้งแบบ Standard Range, Standard Range Plus และ Long Range ขนาด 54 kWh, 62 kWh และ 75 kWh

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.3 วินาที (Single Motor) และ 4.4 วินาที (Dual Motor) ทำความเร็วได้สูงสุด 225 กม./ชม. (Single Motor) และ 233 กม./ชม. (Dual Motor) ให้ระยะทางวิ่ง 354 กิโลเมตร (Single Motor) และ 518 กิโลเมตร (Dual Motor) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (คำนวณตามมาตรฐาน EPA) โดยใช้เวลาชาร์จประมาณ 6 – 6.5 ชั่วโมง

ทันข่าวToday ก็หวังว่า ทางเลือกที่หยิบมา จะช่วยให้ใครที่คิดจะซื้อรถ EV สักคัน รถยนต์ไฟฟ้ามีมากหลายแบรนด์ หลากรุ่นและหลายรูปแบบที่ผลิตออกมาเพื่อให้ตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้มากที่สุด ดังนั้น ควรถามตัวเองว่าต้องการอะไรจากการใช้รถ เช่น ความคล่องตัว ความประหยัด ความคุ้มค่า การรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อหารถที่ตอบโจทย์ชีวิตตัวเองได้อย่างเหมาะสมที่สุด