5 ความลับของ Tesla รถยนต์ไฟฟ้าที่มูลค่ามากที่สุดในโลก

Written by ทันข่าวToday

Highlight

Tesla ทะยานขึ้นเป็นบริษัทยานยนต์มูลค่า 5.8 ล้านล้าน สูงที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว

เรื่องราวของรถยนต์แห่งโลกอนาคตอาจจะเคยเป็นแค่ความฝันของ มาร์ติน อีเบอร์ฮาร์ด, มาร์ค ทาร์เพนนิง, อีลอน มัสก์, และผู้ก่อตั้ง Tesla คนอื่น ๆ แต่ตอนนี้มันคือความฝันของคนทั้งโลกแล้ว

Tesla กล้าที่จะทำสิ่งที่แตกต่างมากมาย ในขณะที่บริษัทอื่นๆ ไม่ได้ทำ หรือไม่กล้า ภายในข้อจำกัด

“เทสล่า (Tesla)” รถยนต์ไฟฟ้า 100% ระดับโลกที่สั่นสะเทือนวงการยานยนต์โลก ทั้งส่วยผสมที่ลงตัวของ
▪️ สมรรถนะระดับ Supercar
▪️ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย Autopilot ที่มีการใช้ AI เข้ามาช่วยในการขับ

ทันข่าวToday หยิบเอา 5 เรื่องราวที่น่าสนใจของรถไฟฟ้าที่มูลค่าสูงที่สุดในโลกยานยนต์ กับ แบรนด์ Tesla มาสรุปให้ ติดตามกันเลย

ความลับที่ 1 ชื่อ Tesla

Elon Musk ผู้ก่อตั้งเทสล่า ตั้งชื่อแบรนด์ Tesla มาจาก แรงบันดาลใจ Nikola Tesla ผู้คิดค้นมอเตอร์ไฟฟ้า จนหยิบมาตั้งเป็นชื่อบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า 100%

ความลับที่ 2 แบตเตอรี่ ‘ล้านไมล์’

Tesla ได้จดสิทธิบัตรสำหรับแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 1 ล้านไมล์หรือเป็นระยะทางกว่า 1.6 ล้านกิโลเมตร ถือเป็นหัวใจสำคัญ ของการก้าวต่อไปในอนาคต 



แบตเตอรี่ดังกล่าวเป็นเซลล์แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (Li-Ion) ที่มี ‘Single Crytal’ NMC Cathode ยุคใหม่และมี Electrolyte แบบใหม่ที่มีคุณสมบัติก้าวหน้ามากกว่าเดิม โดยสิทธิบัตรนี้ให้ความสำคัญกับเซลล์แบตเตอรี่ซึ่งมีการเติมสารลงไปใน Elrctrolyte และ Vinylene Carbonate (VC) ผสมกับ 1, 2, 6-Oxodithiane-2, 2, 6, 6-Tetraoxide เพื่อเพิ่มความสามารถของเซลล์

สารที่เติมลงไปทั้ง 2 ตัวนั้นทำให้ลดความซับซ้อนและลดต้นทุน ในขณะที่สามารถเพิ่มศักยภาพรวมถึงยืดอายุแบตเตอรี่อีกด้วย โดยเอกสารสิทธิบัตรนั้นมีชื่อว่า ‘Novel Battery Systems Based on Two-Additive Electrolyte Systems Including 1,2,6-oxodithiane-2,2,6,6-tetraoxide’ ซึ่งปัจจุบัน TESLA อยู่ในช่วงการสร้างสายการผลิตสำหรับแบตเตอรี่ใหม่นี้และคาดว่าจะออกสู่ท้องตลาดในเวลาไม่นานนัก

การเพิ่มศักยภาพของเซลล์แบตเตอรี่ให้มีอายุการทำงานที่ยาวนานขึ้นเป็นอีกหนึ่งการแก้ไข Pain Point ที่ผู้บริโภคต่างเป็นกังวลสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงยังแก้ไขปัญหาขยะเหลือใช้จากแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น

ความลับที่ 3 การออกแบบสร้างความโดดเด่น

การออกแบบก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยให้ Tesla ดูโดดเด่น นั่นเพราะเทสล่าไม่มีเครื่องยนต์ทำให้สามารถดีไซน์ทั้งภายนอกและภานในออกมาได้อย่างอิสระ เทสล่าจึงมีพื้นที่เก็บของเป็นจำนวนมากทั้งกระโปรงหน้าและกระโปรงหลัง ขณะที่ภายในเน้นเรียบง่ายแต่หนักไปทางเทคโนโลยีในการควบคุมผ่านหน้าจอ

และหลังคาอีกหนึ่งความโดดเด่นของ Tesla การันตีว่ากระจกแผ่นหลังคามีความแข็งแกร่งทนทานสูงรองรับน้ำหนักของรถทั้งคันได้ ป้องกันกระจกหลังคาแตกกรณีเกิดการพลิกคว่ำ

ความลับที่ 4 Tesla Model 3 คือ รุ่นที่ขายดีที่สุด

รถ Tesla Model 3 ก็ขึ้นแท่นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ที่มียอดขายมากที่สุดในโลก

ราคาที่จับต้องได้ กับสเปคของรถ Tesla Model 3 ซึ่งเน้นประสิทธิภาพมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าในราคาไล่เลี่ยกัน
ไล่ตั้งแต่รุ่น Standard ที่ทำระยะทางได้ประมาณ 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ
ไปจนถึงรุ่นท็อปอย่าง Tesla Model 3 Dual Motor All-Wheel Drive Performance (ชื่อยาวจัง) ซึ่งมีสเปคน่าสนใจ ดังนี้…
– อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.2 วินาที
– แบตเตอรี่ความจุ 75 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำระยะทางได้ 481 กิโลเมตรต่อการชาร์จ
– ความเร็วสูงสุด 360 กม./ชม.
– ระบบช่วยขับ Autopilot ที่สามารถอัปเกรดเป็นระบบไร้คนขับสมบูรณ์ได้ในอนาคต

ความลับที่ 5 ระบบป้องกันขโมย “โหมดเฝ้ายาม (Sentry Mode)  ไม่เหมือนที่ไหน

Tesla เป็นที่หมายตาของเหล่าโจรขโมยรถยนต์ ด้วยชื่อเสียง ราคา จน Tesla ถูกจัดให้อยู่ในลีสต์บัญชีดำรถที่ต้องขโมยให้ได้ 

จึงได้คิดค้นระบบป้องกันขโมยที่เรียกว่า “โหมดเฝ้ายาม (Sentry Mode)” ซึ่งเป็นโหมดที่จะเชื่อมต่อกับแอปฯ ในสมาร์ทโฟนของเจ้าของ
โดยโหมด Sentry จะทำงานผ่านกล้อง 360 องศาความละเอียดสูง พร้อมกับเซ็นเซอร์รอบตัวรถ เมื่อมีการสั่นไหวจนเซ็นเซอร์รับรู้ได้ จะส่งข้อมูลไปยังสมาร์ทโฟนของเจ้าของรถเพื่อให้มาตรวจสอบ พร้อมๆ กับการบันทึกภาพวิดีโอ

“If you buy a car that does not have the hardware for full self-driving, it is like buying a horse. And the only car that has the hardware for full self-driving is a Tesla.”

Elon Musk กล่าวว่าเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ทาง Tesla กำลังใกล้จะทำสำเร็จมากๆแล้ว และจะมาเปลี่ยนโฉมรถไฟฟ้าของ Tesla อย่างสิ้นเชิง จะเป็นเสมือน เกมเปลี่ยนโลก ที่จะทำให้คงจะไม่มีใครซื้อรถยนต์คันอื่นๆที่ต้องมานั่งขับเองอีกต่อไป เพราะมันจะกลายมาเป็นเสมือนการซื้อรถม้าในสมัยก่อน 

แล้วคุณหล่ะ มีความคิดจะเป็นเจ้าของ Tesla ไว้สักคันไหม?