กลุ่ม ปตท. ตอกย้ำทิศทาง “ความยั่งยืนอย่างสมดุล” ในงาน Sustainability Expo 2024
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ซึ่งมีต้นเหตุจากการที่มนุษย์ได้เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงต่าง ๆ การขนส่งและการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม
และในที่สุดสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้กระทำต่อโลกได้หวนกลับมาสู่เราในลักษณะของภาวะโลกร้อน มาร่วมกันพลิกวิกฤติโลกเดือด สู่โลกอนาคตที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน ในทศวรรษแห่งการลงมือทำ และพลังแห่งความร่วมมือเพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติใน “ยุคโลกเดือด” กับการรวมตัวของภาคีเครือข่ายที่เป็นองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนระดับโลกทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่พร้อมขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนทุกมิติ ภายใต้มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน “Sustainability Expo 2024” ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ภายใต้แนวคิดหลักของการจัดงาน “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก”
โดยมีผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศมาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ รวมถึงอัปเดตเทรนด์ ไอเดีย เทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนต้นแบบในการพัฒนาเมือง ชุมชนที่ยั่งยืน ผ่านการบรรยาย เสวนา เวิร์กชอป นิทรรศการ ศิลปะ ตลอดจนอาหารแห่งอนาคต
กลุ่ม ปตท. ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร ได้จัดแสดงทิศทางและนำเสนอกลยุทธ์ ที่ไม่เพียงย้ำจุดยืนการร่วมขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังเผยถึงทิศทางที่เป็นรูปธรรมเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี พ.ศ. 2593
โดยมีการผสานการบริหารจัดการทั้งกลุ่ม ปตท. ผ่าน “แนวทาง C3” สร้างความยั่งยืนอย่างสมดุล พร้อมจัดกิจกรรมให้ผู้เยี่ยมชมงานได้ร่วมสนุกและสัมผัสประสบการณ์จริง เพื่อเรียนรู้สู่การสร้างอนาคตที่ดีกว่าร่วมกัน
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงวิสัยทัศน์เรื่องความยั่งยืนของ ปตท. ในฐานะองค์กรที่แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกย่างยั่งยืน โดยจะสร้างความมั่นคงทางพลังงาน และทำหลาย ๆ เรื่อง ให้ประเทศไทยแข็งแรงอย่างยั่งยืน ที่เราจะไปโตในระดับโลก ไปแข่งขัน นำเอาความรู้ เอาเรื่องพลังงานต่าง ๆ กลับมาช่วยประเทศไทยด้วยความยั่งยืนเช่นกัน
“โดยจะต้องบาลานซ์ระหว่างเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ทำธุรกิจที่มีพลังงานให้เราใช้ มีธุรกิจต่อเนื่องต่าง ๆ สร้างประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับโลกให้กับประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องลดคาร์บอนควบคู่ไปด้วย ทุกอย่างจะได้ยั่งยืน” ดร.คงกระพัน ระบุ
สำหรับไฮไลต์ของ กลุ่ม ปตท. ในงาน Sustainability Expo 2024 ประกอบไปด้วย SX 2024 ปตท. ร่วมพลังมาทั้งกลุ่ม เพื่อแสดงให้เห็นว่าธุรกิจทั้งของ ปตท. และบริษัทในกลุ่มทั้งหมด เชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับความยั่งยืน โดย Integrate เรื่องความยั่งยืนไปสู่ธุรกิจของ ปตท.
ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.ได้ดำเนินการใน 3 เรื่อง คือ ปรับ Portfolio ของผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่ม ให้คาร์บอนลดลง และในกลุ่ม ปตท. ยังมีโรงงาน มี Operation เยอะ ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพลดคาร์บอน ลดการใช้พลังงานก็ลดการใช้คาร์บอนได้อีก แล้วที่เหลือก็ทำโครงการระดับประเทศ ที่จะช่วยในกลุ่ม ปตท. และช่วยอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในประเทศก็คือ โครงการที่ทำเรื่อง Carbon Capture”
▪️ โครงการ Carbon Capture คืออะไร
โครงการ Carbon Capture ก็คือ การนำชคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศไปเก็บไว้ในใต้ทะเล อยู่ในสภาพของเหลว ก็จะทำให้อุตสาหกรรมในประเทศของเรา ทั้งของ ปตท. เอง และอื่น ๆ สามารถดำเนินต่อไปได้ แล้วก็แข่งขันได้ แล้วก็คู่กับความยั่งยืนด้วย
กลุ่ม ปตท. เน้นย้ำถึงแนวทาง C3 เพื่อขับเคลื่อนสู่บรรลุเป้าหมาย ซึ่งไม่เพียงเป็นแนวทางสำคัญเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ แต่ยังนับเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความยั่งยืนอย่างสมดุล โดยแนวทาง C3 ที่ว่านี้ ได้แก่
1. Climate Resilience Business การปรับ Portfolio พิจารณาเรื่องการปลดปล่อยคาร์บอน (Carbon Emission) ควบคู่กับการเติบโตทางธุรกิจ
2. Carbon-Conscious Asset การปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ใช้พลังงานสะอาด อาทิ Hydrogen การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิต รวมทั้งการนำคาร์บอนไดออกไซด์แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ (Carbon Capture and Utilization: CCU)
3. Coalition, Co-Creation, and Collective Efforts for All ประสานความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเป็นแกนหลักของประเทศในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีในการลดก๊าซเรือนกระจก โดยใช้เทคโนโลยีการดักจับและการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture and Storage: CCS)
รวมถึงการเพิ่มการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยวิธีทางธรรมชาติ ผ่านการปลูกและบำรุงรักษาป่า โดยภารกิจในการปลูกป่าของกลุ่ม ปตท. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเดินหน้าปลูกป่ากว่า 2 ล้านไร่ เพราะป่าไม้ถือเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนตามธรรมชาติ
อีกทั้งเป็นโอกาสให้เกิดเป็นธุรกิจใหม่ด้านการดักจับและกักเก็บก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Carbon Capture and Storage (CCS) และธุรกิจไฮโดรเจน (Hydrogen) ด้วย
นอกจากนี้ ภายในงาน กลุ่ม ปตท. ยังจัดกิจกรรมให้ผู้เยี่ยมชมงานได้ร่วมสนุกและสัมผัสประสบการณ์จริง เช่น
• การโชว์เคสเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์จากบริษัทในกลุ่ม ปตท. อย่าง CCS
• บูธถ่ายรูปกิจกรรมรักษ์โลกของชาว GEN S คนเจนใหม่หัวใจยั่งยืน
• ตู้คีบตุ๊กตาก๊อดจิ (Godji) ลุ้นรับตุ๊กตา Godji Energy Hero Limited Edition เฉพาะงานนี้ ซึ่งช่วยสร้างสีสันในการร่วมงาน รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ซึมซับแนวทางสู่การสร้างสรรค์โลกที่งดงามขึ้นอีกด้วย
มาร่วมกันสร้าง “สมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า Good Balance, Better World” กับกิจกรรมไฮไลต์ในงาน Sustainability Expo 2024 หลากหลายโซน ได้แก่
1. โซน SEP INSPIRATION พบกับองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนที่น้อมนำปลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียงมาประยุกต์ใช้จนประสบความสำเร็จ นิทรรศการ Immersive Experience ที่จะสะท้อนทุกมุมมองของปัญหาที่เกิดจากพัฒนาแบบก้าวกระโดดและกิจกรรมของมนุษย์
2. โซน BETTER ME เตรียมพร้อมในทุกก้าวของชีวิต...สู่การสร้างวิถีที่ยั่งยืน รวมทั้งอัพเดทเทรนด์อาหารแห่งยุคเพื่อเตรียมตัวสูงวัยอย่างมีคุณภาพและความสุข
3. โซน BETTER LIVING วิธีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และเรียนรู้จากองค์กรชั้นนำ ที่ดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่การลดการ ปล่อยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปจนถึงเทคโนโลยีดักจับและ
กักเก็บคาร์บอน
4. โซน BETTER COMMUNITY ว่าด้วยการสร้างสังคมที่ดีร่วมกัน ผ่านผลงานที่ทำอย่างต่อเนื่อง และสร้างผลสำเร็จทั้งในมิติสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจชุมชน จากภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ระดับบุคคลไปจนถึงหน่วยงานเอกชนและภาครัฐ
อีกทั้งยังมีนวัตกรรมเมืองน่าอยู่แห่งอนาคตจากองค์กรชั้นนำ
5. โซน BETTER WORLD ศิลปะสร้างค่า สู่สมดุลโลก โซนนิทรรศการที่จัดแสดงผลงานศิลปะ ที่หลากหลาย สะท้อนมุมมองด้านความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
6. โซน SX FOOD FESTIVAL ปีนี้มาในธีม Back to The Future มหกรรมด้านอาหารยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี
7. โซน KIDS ZONE พื้นที่ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคตด้วยนิทรรศการและกิจกรรม “ผ่านการเล่น-ทดลอง-เรียนรู้” โดยมีไฮไลท์ คือ นิทรรศการ Biodiversity Exhibition รู้ รักษ์ พิทักษ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ
8. โซน SX MARKETPLACE ตลาดนัดสร้างสรรค์สินค้ายั่งยืน พบปะผู้ประกอบการตัวจริง ท่ามกลางบรรยากาศสวนกลางเมือง แบ่งโซนให้สายกรีน สายคราฟ และสายช้อป ได้ร่วมอุดหนุนร้านค้าที่มาร่วมงานกว่า 280 ร้านค้า
9. SX REPARTMENTSTORE พื้นที่สำหรับส่งต่อสิ่งของนอกสายตา เพื่อมอบคุณค่าให้แก่สังคมและยังได้
10. B2B Event บริเวณชั้น 2 ซึ่งรวบรวมงานสัมมนาและเครือข่ายธุรกิจเพื่อความยั่งยืนที่เจาะลึกแนวทางธุรกิจยั่งยืนตอบโจทย์ทั้งสังคม และสิ่งแวดล้อม
โดยมหกรรมครั้งนี้มีผู้ร่วมงานทั้งจากในงานและออนไลน์ มากกว่า 740,000 คน ก็ถือว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม แต่เป็นการสร้างเครือข่ายความยั่งยืนที่รวมภาคธุรกิจ ประชาชน และรัฐบาลจากทั่วโลก เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เพราะความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน
นอกจากจะมีเรื่องของผู้เข้าชมงานแล้ว ยังมีผู้เข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์มากกว่า 700 ชีวิต ที่มาร่วมกันค้นหาคำตอบว่าทำอย่างไรให้โลกใบนี้ยั่งยืนยิ่งขึ้น ซึ่งมาจากกว่า 270 องค์กร สะท้อนถึงแนวคิด B2C2B (Business-to-Customer-to-Business) ได้อย่างชัดเจนเพราะผู้บริโภคหันมาสนใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
นับเป็นมหกรรมใหญ่ระดับโลกที่ กลุ่ม ปตท. ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนอย่างสมดุล ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี พร้อมเป็นผู้นำขับเคลื่อน ส่งเสริมแนวคิด สร้างแรงบันดาลใจ ให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการร่วมพลังกันลงมือทำ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อทุกชีวิตและสิ่งแวดล้อม ทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นและยั่งยืน
ปตท.แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน
รับชมวิดีโอ : https://youtu.be/BJ7Eow2rfjE?si=a96t7v-BiuwXNyAv