25 มีนาคม 2564
22,517

5 วิธีลดค่าไฟ แบบเห็นผลจริง !!

5 วิธีลดค่าไฟ แบบเห็นผลจริง !!
Highlight

เข้าหน้าร้อนทีไร หลายบ้านต้องมาลุ้นบิลค่าไฟว่าพุ่งมากแค่ไหน ใครเคยเป็นบ้าง ? 


แต่จะทำอย่างไรให้ค่าไฟลดลง ลองมาดูวิธีการ ประหยัดไฟฟ้า ที่เห็นผลจริง มาดูกัน กับ  5 วิธีลดค่าไฟ  

1. เลี่ยงการใช้ความร้อนขณะเปิดแอร์
ควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศ เช่น กระติกน้ำร้อน เตารีด เตาปิ้งย่างไฟฟ้า ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ทำให้ความร้อนในห้องเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักมากขึ้น และในทางตรงกันข้าม ถ้าเครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น อุณภูมิในห้องเย็นขึ้น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สร้างความร้อน ก็จะต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการสร้างความร้อนเช่นกัน คือมีแต่เปลืองไฟและเปลืองไฟไปอีกเป็นเท่าตัว

2. ฝึกถอดปลั๊กไฟให้เป็นนิสัย
หลายคนอาจคิดว่าแค่ปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลังใช้งานก็เพียงพอแล้ว แต่ความเป็นจริง แม้ว่าเราจะปิดสวิตช์หลังใช้งานไปแล้ว แต่ก็ยังมีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนเพื่อให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา 

ดังนั้นเราควรปิดสวิตช์และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน นอกจากจะประหยัดไฟแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในบ้านได้อีกด้วย

3. ตั้งเวลาปิดแอร์ก่อนเวลาตื่นนอน 30 นาที
อีกหนึ่งพฤติกรรมประหยัดไฟง่ายๆ คือ การปิดเครื่องปรับอากาศล่วงหน้าอย่างน้อย 30 นาที เพราะแม้ว่าเครื่องปรับอากาศจะหยุดทำงานไปแล้ว แต่ความเย็นจะยังคงวนเวียนอยู่ภายในห้อง ทำให้ห้องยังเย็นอยู่ ถ้าทำแบบนี้ทุกวัน รับรองว่าช่วยประหยัดค่าไฟได้เป็นอย่างดี 

และที่สำคัญควรเปิดแอร์ที่อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 26 องศาฯ ถ้าอยากเย็นสบายกว่านั้นให้ใช้วิธีเปิดพัดลมช่วย ก็จะทำให้ประหยัดค่าไฟได้มากกว่าการเปิดแอร์ที่อุณหภูมิต่ำเกินพอดี

4. ใช้หลอด LED ช่วยประหยัดไฟดีกว่า 90%
หลายคนคงรู้ว่าหลอดไฟแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นหลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ก็ตาม เมื่อนำมาใช้งานพบว่ากินไฟมากกว่าหลอด LED 

หลอดไฟ LED ช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าหลอดไฟธรรมดาถึง 4 เท่า และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหลอดไฟธรรมดาถึง 8 เท่า ทำให้แสงสว่างทั่วถึง และไม่ต้องเปิดไฟครั้งละหลายๆ ดวง

ดังนั้น หากเปลี่ยนมาใช้หลอด LED จะสามารถให้ความสว่างได้มากกว่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน

5. จัดระเบียบตู้เย็น 
การที่ตู้เย็น มีของไม่ได้ใช้เยอะ ของแน่นเต็มตู้ จะเป็นการทำให้ค่าไฟแพงขึ้น เพราะเครื่องต้องทำความเย็นตลอดเวลา และมีผลทำให้ไฟไม่ตัด เป็นเหตุให้มิเตอร์ไฟฟ้ามีการวิ่งวนอยู่ตลอดเวลา

แล้วรู้มั้ยว่า ...เครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรกินไฟมากที่สุด ? 
ปัจจัยที่เครื่องใช้ไฟฟ้าจะทำให้ตัวเลขบิลค่าไฟเพิ่มขึ้นมากน้อย หลักๆ ก็คือ 
▪️ กำลังวัตต์
▪️ เวลาใช้งานต่อเนื่อง 
 
ซึ่งคำตอบที่หลายคนคิดถึงเป็นอันดับแรกก็คือ “แอร์” เป็นคำตอบที่ถูกต้อง 

จากข้อมูลของการไฟฟ้านครหลวง แอร์มีกำลังไฟฟ้า 1,200 วัตต์ - 3,300 วัตต์ (ค่าไฟก็จะตกชั่วโมงละ 5-13 บาท) และปกติคนเรามักเปิดแอร์นอนในตอนกลางคืนติดต่อกัน 8-10 ชั่วโมง จึงทำให้เราจ่ายค่าไฟไปกับแอร์มากที่สุด 

อย่างไรก็ดี เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำความร้อนก็กินไฟไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครื่องทำน้ำอุ่น ที่ใช้กำลังไฟสูงถึง 2,500-12,000 วัตต์ ที่มีค่าไฟชั่วโมงละ 10-47 บาท ซึ่งแม้เราจะไม่ได้อาบน้ำอุ่นกันเป็นชั่วโมง แต่ก็อาจลืมปิดสวิตซ์เมื่ออาบน้ำเสร็จ จึงมีไฟเข้าในเครื่องตลอดเวลาทำให้เสียค่าไฟโดยใช่เหตุ ดังนั้นต้องอย่าลืมสับสวิตซ์ปิดทุกครั้งเมื่อใช้งานเสร็จ

นอกจากแอร์ กับ เครื่องทำน้ำอุ่นแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟเยอะที่หลายคนอาจมองข้ามไป ก็คือ เครื่องซักผ้า เนื่องจากมีกำลังไฟสูง (ประมาณ 3,000 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 12 บาท) และเวลาซักผ้าต่อรอบคือ 2.30 ชั่วโมง ถ้าบ้านไหนมีผ้าเยอะต้องซักทุกวัน ก็ต้องจ่ายค่าไฟกับการซักผ้าไม่น้อยเลยทีเดียว

ในส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดให้ความร้อนอื่นๆ เช่น เตารีดไฟฟ้า เตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า  ฯลฯ ก็ล้วนใช้กำลังวัตต์ไม่น้อย แต่มีระยะเวลาการใช้งานไม่นานมาก ซึ่งเมื่อใช้เสร็จแล้วก็ควรถอดปลั๊ก หรือปิดสวิตซ์ไฟทันที

ขอบคุณข้อมูลจาก การไฟฟ้านครหลวง MEA

ติดต่อโฆษณา!