3 ขุมพลังดันกำไร OR “ฟินันเซีย” มองราคาเป้าหมายสูง ‼️
Highlight
เปิดบทวิเคราะห์เจาะลึกกว่า 80 หน้าของ บล.ฟินันเซีย ไซรัส โดยคุณ สุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ กับหุ้นบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ผู้นำด้านการค้าปลีกและอาหารจากผู้ประกอบการสินค้าไปจนถึงผู้สร้างมูลค่าที่มีชุมชนเป็นศูนย์กลาง
ถึงแม้กำไรสุทธิของ OR จะลดลงในปี 2564 แต่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ในช่วงปี 2564-2566 อยู่ที่ 21.8%
ผลักดันโดย 3 กลยุทธ์การเติบโต ขับเคลื่อนอนาคตหุ้น OR :
1. การขยายสาขาปั๊มน้ำมันในไทย
แผนการของ OR ในการเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง (NFS) ทั้งในตลาดในประเทศและในอาเซียนแม้ว่าจะมีการคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์ในอุตสาหกรรมที่อ่อนแอจากวิกฤต COVID-19
2. การเติบโตของธุรกิจ Non-Oil โดยเฉพาะ คาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon)
และร้านสะดวกซื้อ
3. ธุรกิจในต่างประเทศที่เป็นมากกว่าปั๊มน้ำมัน จากการขยายธุรกิจไปเป็น “Living Community” ตามแนวคิด “เติมพลังความสุข สร้างรอยยิ้มให้ชุมชน”เพื่อมอบประสบการณ์“ มากกว่าสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง” ให้กับลูกค้า
บล.ฟินันเซีย ไซรัส เชื่อว่าการเติบโตที่สำคัญ 3 ด้านของ OR ทั้ง ช่วยแสวงหาการเติบโตท่ามกลาง แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ ฝ่าทุกกระแสเพื่อก้าวสู่การเติบโตในปี 2564-2566
Café Amazon คือ จุดแตกต่างระหว่าง OR และคู่แข่งอื่นในตลาด
1. ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง OR กับคู่แข่งในและต่างประเทศคือ Café Amazon ที่พัฒนาขึ้นเอง
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่าจำนวนยอดขายต่อแก้วจะเพิ่มขึ้นจาก 295 ล้านแก้วในปี 2563 เป็น 519 ล้านแก้ว ในปี 2566 มาจาก
▪️ จำนวนร้านที่เพิ่มขึ้นทั้งแบบ Standalone
▪️ ร้านที่ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมัน โดยยอดขายจาก Café Amazon
2. EBITDA ของ Café Amazon ขึ้นเฉลี่ย 25% ในปี 2563-2566 โดยจะอยู่ที่ 2.09 หมื่นล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิจาก Café Amazon คาดแตะ 1.08 หมื่นล้านบาทในปี 2566
การเติบโตในต่างประเทศ โอกาสแห่งอนาคต
1. การสร้างตัวตนเป็น One-Stop Service ของ OR ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน จะช่วยทำให้ OR มีศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งเพื่อขยายธุรกิจไปในตลาดโลก
2. ด้วยสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงแบบครบวงจรของ OR เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่เราเชื่อว่า OR มีศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่งในการขยายธุรกิจในต่างประเทศไม่เพียง แต่เป็นสถานีบริการน้ำมันชั้นนำเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มเพื่อเจาะตลาดใหม่และเติบโต
3. ตอนนี้มีธุรกิจทั้งใน กัมพูชา ฟิลิปปินส์ ลาว เมียนมา มาเลเซีย สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น และโอมาน ทั้งหมดมีในปี 2563 มีปั๊มน้ำมันในต่างประเทศ 335 ปั๊ม มีศูนย์บริการ FIT Auto 4 แห่ง มีร้านสะดวกซื้อ Jiffy 23 แห่ง และมี Café Amazon 265 แห่ง
Café Amazon : เราเชื่อว่าสินทรัพย์ที่โดดเด่นที่สุดที่สร้างความแตกต่างหรือแตกต่างจากคู่แข่งในประเทศและต่างประเทศคือร้าน Café Amazon ที่พัฒนาขึ้นเองซึ่งปัจจุบันเป็น Food & Beverage ที่ไม่เพียงแต่อยู่ภายใต้ OR เท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่ม ปตท.
จากสมมติฐานของเรา คาดการณ์ว่ารายได้ของ Café Amazon จะเพิ่มขึ้นจาก 18.3 ล้านบาทในปี 2563 เป็น 33.8 ล้านบาทในปี 2566 โดยเติบโตที่ 22.6% CAGR จากปี 2563-2566 ตัวขับเคลื่อนรายได้ที่สำคัญ ได้แก่ :
1) การขยายจำนวนร้านสำหรับ Café Amazon จาก 3,575 แห่งในปี 2563 เป็น 4,890 แห่งในปี 2566 โดยเติบโตที่ CAGR 10.8% จากปี 2563-2566
2) สมมติฐานของเราที่มีรายได้ต่อถ้วยสูงขึ้นจาก 60 บาท / ถ้วยในปี 2562 เป็น 65 บาท / ถ้วยในปี 2566 โดยได้รับแรงหนุนจากสมมติฐานการขายตั๋วต่อลูกค้าที่สูงขึ้นโดยวัดจากราคาต่อถ้วยตามกลยุทธ์การขายต่อเนื่องของคาเฟ่อเมซอน สินค้าในร้านค้า
เทียบกับคู่แข่งในประเทศไทย
เมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญ 3 รายในอุตสาหกรรมสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงค้าปลีก OR เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในอุตสาหกรรม
▪️ OR กับโมเดล DODO (Dealer Own Dealer Operate)
พูดง่ายๆ ก็คือ คล้ายๆ กับขายแฟรนไชส์ให้คนอื่นมาบริหารจัดการ
โดย 80% ของ NFS เป็น DODO ณ สิ้นปี 2563 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในบรรดาผู้เล่นสี่คน
ข้อดีของโมเดลนี้ คือ ขยายสาขาได้เร็ว ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องการจัดการ สถานที่ พนักงานต่างๆ
จากสัดส่วนตัวเลยที่สูง สะท้อนว่า OR มีการรับรู้แบรนด์ที่แข็งแกร่งขึ้นซึ่งเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจน้ำมันและไม่ใช่น้ำมันที่ได้รับการพิสูจน์แล้วและที่สำคัญที่สุดคือร้านกาแฟ Café Amazon ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
จุดแข็งด้านการเงินการดำเนินงาน และรูปแบบธุรกิจที่ใช้โมเดล COCO เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
โมเดล COCO (Company Own Company Operate) ก็คือ ทำทุกอย่างเองหมด
นี่คือปัจจัยสำคัญที่เราคิดว่าควรรักษาหรือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศไทยและต่างประเทศ
บล.ฟินันเซีย ประเมินว่าตัวเลขการเงินที่สำคัญของ OR ดังนี้
▪️ รายได้ OR
>>ปี 2564 อยู่ที่ 6.13 แสนล้านบาท
>>ปี 2565 รายได้อยู่ที่ 6.29 แสนล้านบาท
>>ปี 2566 รายได้อยู่ที่ 6.4 แสนล้านบาท
▪️ กำไรสุทธิ OR
>>ปี 2564 อยู่ที่ 1.15 หมื่นล้านบาท
>>ปี 2565 กำไรอยู่ที่ 1.42 หมื่นล้านบาท
>>ปี 2566 กำไรอยู่ที่ 1.58 หมื่นล้านบาท
▪️ EPS
>>ปี 2564 คาดอยู่ที่ 0.96 บาท
>>ปี 2565 คาดไว้ที่ 1.18 บาท
>>ปี 2566 คาดอยู่ที่ 1.32 บาท
และยีลด์ปันผลอยู่ที่ 1.2%, 1.4% และ 1.5% ตามลำดับ
ฟินันเซีย ไซรัส เชื่อว่าอัตรากำไรสุทธิโดยรวมของ OR จะมีความอ่อนไหวต่อความผันผวนของราคาน้ำมันน้อยลงโดยพิจารณาจากการเพิ่มขึ้นของ EBITDA และ NP ที่คาดการณ์ไว้ซึ่งเกิดจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่มีความยั่งยืนมากขึ้น
อ่านรีพอร์ทเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย