เมอร์คเผยยาโมลนูพิราเวียร์ต้านโอมิครอนได้ ด้านไฟเซอร์คาดวัคซีนโอมิครอนพร้อมฉีด มี.ค.นี้

เมอร์ค ผู้ผลิตยาโมลพิราเวียร์คาดว่ายาโมลนูพิราเวียร์มีฤทธิ์ต้านโอมิครอนและสายพันธ์ุอื่นๆ ได้ ทั้งนี้จากการทดลองล่าสุดเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาพบว่าสามารถลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิตลงประมาณ 30% ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์แล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา และหลายประเทศเริ่มสั่งนำเข้ายาเพิ่มแล้ว ด้านบริษัทไฟเซอร์เปิดเผยว่าวัคซีนป้องกันโอมิครอนพร้อมฉีดเดือนมีนาคมนี้

ดีน หลี่ ประธานฝ่ายปฏิบัติการวิจัยของเมอร์คเปิดเผยในการประชุมของเจพีมอร์แกนเมื่อวันจันทร์ (10 ม.ค.) ว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) ของทางบริษัท มีกลไกการออกฤทธิ์ที่สามารถต้านไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนและสายพันธุ์อื่น ๆ ได้

ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลจากการทดลองยาโมลนูพิราเวียร์กับสายพันธุ์โอมิครอน มีเพียงผลการทดลองล่าสุดเมื่อเดือนพ.ย.ที่พบว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ของเมอร์คลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิตลงประมาณ 30% เมื่อทดลองให้ยาแก่ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและมีความเสี่ยงสูงว่าจะป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับที่เคยรายงานก่อนหน้านี้ว่าลดความเสี่ยงลงได้ 50%

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์แล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และอินเดีย และมีหลายประเทศเซ็นสัญญาซื้อแล้ว

“ผู้บริหารจากเมอร์ครายนี้กล่าวว่า “เรามั่นใจมาก ๆ ว่ายาจะออกฤทธิ์กับสายพันธุ์โอมิครอน กลไกระดับโมเลกุลนี้จะจัดการสายพันธุ์โอมิครอนได้ และผมคาดว่าน่าจะได้ผลกับสายพันธุ์อื่น ๆ ด้วย” นายหลี่ กล่าว

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ เป็นยาเม็ดสำหรับรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้านี้เมอร์คเคยระบุว่า มีประสิทธิภาพต้านไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ที่ผ่านมา รวมถึงสายพันธุ์เดลตา

ด้านนายอัลเบิร์ต บูร์ลา ซีอีโอของบริษัทไฟเซอร์ เปิดเผยว่าวัคซีนป้องกันโอมิครอนของบริษัทพร้อมฉีดเดือนมีนาคมนี้

นาย บูร์ลา กล่าวในรายการ “Squawk Box” ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) ว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่เจาะจงสายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะนั้น จะพร้อมเปิดตัวในเดือนมี.ค.นี้ และทางบริษัทได้เริ่มผลิตไปแล้ว

นายบูร์ลากล่าวว่า วัคซีนนี้จะตั้งเป้าป้องกันสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ระบาดอยู่ในขณะนี้ด้วย โดยเขายังไม่ทราบว่าจำเป็นต้องใช้วัคซีนโอมิครอนหรือไม่หรือใช้อย่างไร แต่ไฟเซอร์จะผลิตวัคซีนเตรียมไว้ให้พร้อมเนื่องจากมีบางประเทศต้องการใช้โดยด่วนที่สุด และไฟเซอร์จะทำการทดลองเพื่อดูว่าจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 หรือไม่

จากผลการศึกษาของสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของอังกฤษ (HSA) พบว่า วัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นามีประสิทธิภาพเพียงประมาณ 10% ในการป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนแบบแสดงอาการ 20 สัปดาห์หลังฉีดเข็มที่ 2 แล้ว