คาดวัคซีนไฟเซอร์เด็กเล็กเข้าไทยปลาย ม.ค. ส่วนผู้ใหญ่ต้องฉีดวัคซีนให้ครบเข็มเพิ่มภูมิต้านโอมิครอน

Highlight

รัฐบาลคาดนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กเล็กปลายเดือน ม.ค.หรือเดือน ก.พ.เป็นอย่างช้า โดยขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการอนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก อายุ 5-11 ปีแล้ว ปริมาณวัคซีนอยู่ที่ 10 ไมโครกรัม/โดส/คน โดยไทยจะเป็นประเทศที่ 2 ของทวีปเอเชียในการสั่งวัคซีนมาใช้ในเด็กอายุ 5-11 ปี เพราะปัจจุบันวัคซีนที่ใช้ในเด็กกำลังเป็นที่ต้องการทั่วโลก และย้ำประชาชนทั่วไปต้องรับวัคซีนโควิดให้ครบเกณฑ์เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโควิดกลายพันธุ์โอมิครอน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความห่วงใยกลุ่มเด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ซึ่งรัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมแผนในการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี เรียบร้อยแล้ว
 
โดยขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการอนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก อายุ 5-11 ปี ปริมาณวัคซีนอยู่ที่ 10 ไมโครกรัม/โดส/คน คาดว่าจะเริ่มทยอยเข้ามาในประเทศไทยได้ประมาณปลายเดือนม.ค.นี้ หรือประมาณภายในเดือนก.พ. 65 โดยไทยจะเป็นประเทศที่ 2 ของทวีปเอเชียในการสั่งวัคซีนมาใช้ในเด็กอายุ 5-11 ปี เพราะปัจจุบันวัคซีนที่ใช้ในเด็กกำลังเป็นที่ต้องการทั่วโลก

ส่วนวัคซีนเชื้อตายสำหรับฉีดให้เด็ก ทั้งซิโนแวคและซิโนฟาร์ม อย.กำลังเร่งขึ้นทะเบียนวัคซีนเชื้อตายสำหรับฉีดในเด็ก ซึ่งต้องรอผ่านมติคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันก่อน เมื่อผ่านแล้วผู้ปกครองก็จะสามารถเลือกสูตรในการฉีดวัคซีนให้กับบุตรหลานของตนเองได้ด้วยความสมัครใจ

นายธนกร กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรี ฝากเตือนประชาชนทุกคนให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขป้องกันส่วนบุคคลขั้นสูงสุด และสวมหน้ากากอนามัย 100% ออกนอกบ้านขอให้สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย เป็นปกติวิสัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นล้างมือบ่อย ๆ งดการรวมกลุ่มรับประทานอาหารร่วมกันในที่ทำงาน และไม่ไปในสถานที่เสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ พร้อมย้ำร้านอาหารต่าง ๆ ต้องเข้มงวดตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting)

ขณะที่สถานประกอบการและหน่วยงานต่าง ๆ ควรจัดให้ทำงานที่บ้าน (Work From Home) และขอให้มีการตรวจ ATK อย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงเชิญชวนให้ประชาชนรีบเข้ารับบริการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 โดยเร็ว เพื่อสร้างภูมิต้านทานและลดอาการรุนแรง เพื่อให้ใช้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) อยู่กับโรคได้อย่างปลอดภัย

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับสูตรวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ประชาชนรับการฉีดในขณะนี้ คือ

1. ผู้ที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน แบ่งตามกลุ่มดังนี้

1.1 กลุ่มเป้าหมายอายุ 18 ปีขึ้นไป สูตร AZ-AZ, AZ-Pz และ Sv-AZ เป็นหลัก
1.2  กลุ่มเป้าหมายอายุ 12 – 17 ปี สูตร Pz-Pz เป็นหลัก

2. ผู้ที่ต้องรับเข็มกระตุ้น (บู้สเตอร์โดส)  แบ่งตามกลุ่มดังนี้

2.1.ผู้ที่ได้รับวัคซีน Sv-AZ ครบในเดือน ส.ค.-ต.ค. 64 ให้เข็มกระตุ้นด้วย AZ เป็นหลัก 
2.2. ผู้ที่ได้รับวัคซีน AZ-AZ ครบในเดือน ส.ค.-ต.ค. 64 ให้เข็มกระตุ้นด้วย Pz เป็นหลัก และ
2.3. ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป ให้รับเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน AZ เป็นหลัก

ทั้งนี้ กรณีวัคซีนเข็มกระตุ้น ผู้มีประวัติการติดเชื้อให้ใช้ AZ เป็นเข็มกระตุ้นสำหรับผู้รับการฉีดวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ หรือครบตามเกณฑ์น้อยกว่า 2 สัปดาห์ก่อนการติดเชื้อ