ไทยคุมโควิดไม่อยู่ ยอดติดเชื้อพุ่งสู่อันดับ 6 ของโลก หมอธีระ เผยข้อปฏิบัติก่อนกลับบ้านสงกรานต์ปลอดโควิด

Highlight

“หมอธีระ" ชี้ไทยทำอันดับการติดเชื้อโควิดพุ่งอันดับ 6 ของโลก หวั่นหลังสงกรานต์ยอดพุ่งพรวดกว่านี้ ทั่วโลกยอดติดเชื้อสะสม 494 ล้านคน ชี้สายพันธุ์ X มีรายงานแล้ว 3 สายพันธุ์คือ XD , XE และ XJ ซึ่งเกิดจากลูกผสมสายพันธุ์ย่อย ระบุไทยยังน่าห่วงคุมไม่อยู่ เตือนช่วงสงกรานต์งดตะลอนเที่ยว ตรวจ ATK ก่อนออกเดินทาง

เมื่อ 7 เม.ย.2565 นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat  ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกติดเชื้อทะลุ 494 ล้านคน โดยเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,183,978 คน เสียชีวิตเพิ่ม 3,314 คน รวมติดเชื้อสะสม 494,999,056 คน เสียชีวิตรวม 6,190,368 คน

สำหรับ 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีใต้ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี และออสเตรเลีย โดยจำนวนติดเชื้อใหม่ มีประเทศจากยุโรป และเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก ซึ่งการระบาดของไทย เมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชียในขณะที่จำนวนเสียชีวิต สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก

นอกจากนี้ นพ.ธีระ ระบุอีกว่า อัปเดตจากองค์การอนามัยโลก จากรายงานล่าสุดขององค์การอนามัยโลก WHO Weekly Epidemiological Update วันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา สถิติจำนวนติดเชื้อใหม่รายสัปดาห์ล่าสุดของทั่วโลกนั้นลดลงกว่าสัปดาห์ก่อน 16% จำนวนเสียชีวิตลดลง 43% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าแต่หากดูข้อมูลของไทยรายสัปดาห์จาก Worldometer พบว่าจำนวนติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 3% (ยังไม่ได้รวม ATK) และจำนวนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 19%



สายพันธุ์ที่ระบาดทั่วโลก

• XD (พันธุ์ผสมระหว่างเดลตา AY.4 และ Omicron BA.1) ดูจะมีการแพร่ค่อนข้างจำกัด และสมรรถนะในการแพร่นั้นไม่ได้มากไปกว่าสายพันธุ์ที่มีการระบาดอยู่เดิม
  
  
• XE (พันธุ์ผสมระหว่าง Omicron BA.1 และ BA.2) พบครั้งแรกที่สหราชอาณาจักร วันที่ 19 ม.ค 65 ก็กำลังมีการติดตามประเมินอยู่ โดยข้อมูลปัจจุบันชี้ว่ามีสมรรถนะในการแพร่มากกว่า BA.2 ราว 10% แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน
  
  
• XJ เป็นสายพันธุ์โอมิครอนลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2 เช่นเดียวกับสายพันธุ์ XE โดยพบมากที่สุดในประเทศฟืนแลนด์

ข้อปฏิบัติก่อนกลับบ้านสงกรานต์ปลอดโควิด

สำหรับไทย การระบาดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ยังคุมไม่อยู่ คำแนะนำสำหรับสงกรานต์ที่จะมาถึงในสัปดาห์หน้า ควรฉลองสงกรานต์โดยอยู่กับบ้าน ไม่ตะลอนท่องเที่ยว ไม่ร่วมกิจกรรมรดน้ำสาดน้ำประแป้งนอกบ้าน

หากจำเป็นต้องเดินทางกลับไปต่างจังหวัด หรือไปหาญาติพี่น้องที่อยู่ต่างบ้านกัน ควรดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้ เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ตะลอน ก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 3-5 วัน ก่อนเดินทางสัก 1-2 วัน ควรโทรถามสารทุกข์สุกดิบ กับคนที่อยู่ปลายทางว่าทุกคนสบายดี ไม่มีอาการเจ็บป่วย และประะเมินตนเองด้วย หากมีใครมีอาการไม่สบายใดๆ แม้เล็กน้อย ก็ควรงดเดินทางไปพบปะกัน



“วันเดินทาง ควรตรวจ ATK ตนเอง หากเป็นผลบวก ก็หยุดแผนเดินทาง”

นอกจากนี้ถ้าออกนอกบ้านควรใส่หน้ากากเสมอ เดินทางตามแผนที่กำหนด ไม่เฉไฉตะลอนหลายที่ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและนำไปแพร่ให้คนที่ปลายทาง การไปกราบสวัสดีผู้หลักผู้ใหญ่ พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ควรเว้นระยะห่างก็จะปลอดภัยกว่า แต่หากจะไปกอดหรือคลุกคลีใกล้ชิด ถ้าใส่หน้ากากได้จะดีกว่า และอย่าลืมล้างมือให้สะอาดก่อนไปสัมผัสกัน

“การกินข้าวสังสรรค์กันในหมู่สมาชิกในครอบครัวนั้น ควรนั่งห่างกันกว่าปกติ และเลือกนั่งกินดื่มในที่โล่ง ระบายอากาศดี หลังเสร็จกิจกรรมวันหยุดยาว ควรสังเกตอาการผิดปกติ และควรตรวจ ATK อีกครั้งหลังกลับมา”

ในกรณีของคนที่กลับมาจากการเดินทาง แต่มีสมาชิกในบ้านที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย หากแยกจากกัน ไม่สุงสิงกันในช่วง 3-5 วันหลังกลับมาก็จะปลอดภัยกว่า

การติดเชื้อโรคโควิด-19 นั้น ไม่ได้จบแค่เป็น รักษา แล้วหายแต่มีโอกาสเกิดปัญหาระยะยาวอย่าง Long COVID ที่จะบั่นทอนสมรรถนะในการดำรงชีวิตและการทำงาน ส่งผลให้เกิดภาวะทุพพลภาพหรือโรคเรื้อรังได้
 
และที่สำคัญคือ โควิดติดไม่ใช่แค่คุณ บางคนติดแล้วไม่มีอาการหรืออาการน้อย แต่บางคนติดแล้วป่วยรุนแรงหรือตายได้ ดังที่เห็นจากสถิติรายวัน ขอให้ปลอดภัยไปด้วยกันทุกคน นพ.ธีระ ระบุ