07 กรกฎาคม 2565
1,856

ตะลึง! รร.กรุงเทพคริสเตียน ติดโควิดกว่า 700 คน ประกาศปิด 9 วัน

ตะลึง! รร.กรุงเทพคริสเตียน ติดโควิดกว่า 700 คน ประกาศปิด 9 วัน
Highlight

กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เปิดเทอม 8 สัปดาห์ นักเรียน-บุคลากร ติดเชื้อโควิดพุ่งรวดเร็วกว่า 700 คน โรงเรียนออกประกาศด่วนเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนเป็นเรียน ออนไลน์ 11-19 ก.ค.นี้ โดยทางโรงเรียนเตรียมฉีดพ่นยาและทำความสะอาดโรงเรียนทุกจุด เพื่อเตรียมพร้อมการเปิดอีกครั้ง ด้าน “หมอยง ภูวรวรรณ” ระบุโควิดรอบนี้นักเรียนจะเป็นผูกระจายเชื้อสู่ครอบครัว แนะต้องระวังและปฏิบัติเพื่อให้ปลอดภัยอย่างเคร่งครัด การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญไม่ควรปิดโรงเรียนหากไม่จำเป็น


เมื่อวันที่ 7 ก.ค. เว็บไซต์ BANGKOK CHRISTIAN COLLEGE  ของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ออกหนังสือประกาศ เรื่องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียน โดยใบประกาศระบุว่า “ประกาศ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เรื่อง การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนการสอนในช่วงวันที่ 11-19 กรกฎาคม 2565 

ด้วยตลอดระยะเวลา 8 สัปดาห์ที่โรงเรียนเริ่มเปิดทำการเรียนการสอนจนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในโรงเรียนนั้น ยังปรากฏจำนวนนักเรียนและบุคลากรติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

กล่าวคือ มีนักเรียนติดเชื้อไปแล้วจำนวน 688 ราย และบุคลากรในโรงเรียนติดเชื้อไปแล้วจำนวน 70 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2565) ถึงแม้ว่าทางโรงเรียนได้มีมาตรการปิดห้องเรียนเป็นเวลา 5 วัน สำหรับห้องเรียนที่มีนักเรียนติดเชื้อมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนนักเรียนเพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง 

แต่ก็ยังพบว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ยอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเป็นที่น่ากังวลถึงผลกระทบต่อการเรียนการสอน เนื่องจากมีนักเรียนและบุคลากรจำนวนหนึ่งต้องพักรักษาตัวที่บ้าน ดังนั้น ทางโรงเรียน จึงขอประกาศเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอน ในช่วงวันที่ 11-19 กรกฎาคม 2565 

วันจันทร์ที่ 11 ถึง วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2565 ทำการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ ทุกระดับชั้น ทุกหลักสูตร รวม 2 วันทำการ

วันพุธที่ 13 ถึง วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม 2565 หยุดพิเศษตามประกาศของทางรัฐบาล

วันจันทร์ที่ 18 ถึง วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม 2565 ทำการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ ทุกระดับชั้นทุกหลักสูตร รวม 2 วันทำการ เพื่อเป็นช่วงสังเกตอาการหลังจากช่วงวันหยุด พิเศษ และจะเปิดทำการเรียนการสอนที่โรงเรียนตามปกติ ในวันพุธที่ 20 กรกฎาคม 2565

อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันหยุดพิเศษดังกล่าวจะเป็นเวลาที่นักเรียนได้หยุดพักผ่อนกับครอบครัว และอาจมีการวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเกิดความเสี่ยงต่อการรับเชื้อ

ดังนั้นเพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในโรงเรียนหลังจากช่วงวันหยุดพิเศษ ทางโรงเรียนขอความร่วมมือจากท่านผู้ปกครองในการพิจารณาทบทวนยกเลิกแผนการเดินทาง หรือ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอความร่วมมือในการป้องกันตนเองของนักเรียนและท่านผู้ปกครองอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในโรงเรียนหลังจากช่วงวันหยุดพิเศษ 

ส่วนทางโรงเรียนนั้น ได้มีการยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ โดยจัดให้มีการพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในทุกห้องเรียนทุกวัน รวมไปถึงการลดกิจกรรมการเรียนการสอน หรือกิจกรรมนอกเวลาเรียนที่มีการรวมกลุ่ม และกวดขันให้ทุกคน เข้มงวดต่อมาตรการป้องกันและควบคุมดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ครูทุกคนจะกำชับนักเรียน ให้ปฏิบัติตนตามมาตรการอย่างสม่ำเสมอ อนึ่ง สำหรับการส่งผลการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี ATK นั้น ทางโรงเรียนขอความร่วมมือจากท่านผู้ปกครอง ดังนี้

งดส่งผลตรวจในวันอาทิตย์ที่ 10 และ วันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2565 ให้ส่งผลตรวจ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม 2565 ภายในเวลา 18:00 น.และครั้งที่ 2 วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม 2565 ภายในเวลา 18.00 น. จึงเรียนมาเพื่อทราบ และขอพระเจ้าประทานสุขภาพที่ดีแก่ทุกท่าน  ประกาศ ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2565
(นางวราภรณ์ ทรัพย์สมบูรณ์) รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและมาตรฐานคุณภาพ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ และผู้จัดการ

หมอยงชี้น่าห่วงเด็กนักเรียนติดโควิดเยอะ แพร่กระจายสู่ครอบครัว

 "หมอยง" หรือ ศ.นพ. ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความระบุว่า "นักเรียน" จะเป็นผู้ขยายและกระจายโรคโควิด-19 เมื่อ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา 

นพ.ยง เปิดเผยว่า โควิด-19 "นักเรียน" จะเป็นผู้ขยายและกระจายโรค การระบาดของโรคมากขึ้น เช่นเดียวกันกับโรคทางเดินหายใจอื่น เช่น ไข้หวัดใหญ่ การระบาดของโรคจะพบสูงมากในช่วงเปิดเทอม หรือ ฤดูฝน เด็กนักเรียนจะรับเชื้อและติดต่อกันง่าย มันเป็นเช่นนั้นทุกปีของโรคทางเดินหายใจ
 
โควิด-19 ก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีการเปิดเทอม ทำให้การเพิ่มกระจายของโรคเพิ่มขึ้น
 
ความรุนแรงของโรคในเด็กนักเรียน และวัยรุ่น น้อยมาก แต่จะติดต่อกันเองและนำเชื้อกลับบ้าน ทำให้เกิดการติดต่อทั้งครอบครัว ซึ่งจะโยงไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุ
 
อัตราการเสียชีวิตในเด็กนักเรียนที่แข็งแรงดีโดยเฉพาะที่อายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป จะมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 1 ในหมื่น การเสียชีวิตหรือรุนแรงในเด็กส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคเรื้อรังหรือกลุ่มเสี่ยง ในเด็กกลุ่มที่จะเป็นอันตรายส่วนใหญ่จะอายุน้อยกว่า 2 ปี
 
หมอยง ระบุต่อว่า การเรียนการศึกษามีความสำคัญอย่างยิ่ง ชีวิตต้องเดินหน้า การไปโรงเรียนของเด็กมีความสำคัญต่อระบบการศึกษาของประเทศ และยังช่วยเรื่องโภชนาการของเด็กต่างจังหวัด มาตรการในการป้องกันและลดการแพร่กระจายของเชื้อ มีความสำคัญยิ่งในโรงเรียน เช่น สุขอนามัย การล้างมืออยู่เป็นนิจและถูกวิธี ลดการรับประทานอาหารร่วมกัน ใส่หน้ากากอนามัย การกำหนดระยะห่างในช่วงที่มีการระบาดมาก
 
ประเทศสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบันแทบจะไม่มีการปิดเรียนเลย ใครป่วยก็ควรอยู่บ้าน เมื่อหายดีก็กลับมาเรียน ทุกคนเคร่งครัดระเบียบวินัย
 
ทุกคนต้องยอมรับความจริง และสนับสนุนการศึกษาให้ได้เดินหน้าต่อไป ร่วมใจกันปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด และไม่ควรปิดโรงเรียนโดยไม่จำเป็น ควรมุ่งเน้นมาตรการป้องกันโรคในโรงเรียนมากกว่า

ที่มา : BANGKOK CHRISTIAN COLLEGE website, Dailynews,PPTV

ติดต่อโฆษณา!