22 ธันวาคม 2563
2,208

เปิด “สิงคโปร์โมเดล” รับมือคลื่นโควิดรอบใหม่ อย่างไร?

เปิด “สิงคโปร์โมเดล” รับมือคลื่นโควิดรอบใหม่ อย่างไร?
Highlight
กรณีของแรงงานต่างด้าวในประเทศสิงคโปร์ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นจำนวนมากจนกลายเป็นจุดเปลี่ยนการระบาดของโควิด19 ในสิงคโปร์ จนขึ้นอันดับเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน


▪️ เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สิงคโปร์เคยพบแรงงานต่างชาติติดเชื้อ COVID-19 ในวันเดียวมากถึง 750 คน โดยพวกเขาทั้งหมดอาศัยอยู่ในย่านหอพักแรงงาน เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ

▪️ ประเทศสิงคโปร์มีตัวเลขของแรงงานต่างด้าวอยู่ที่กว่า 3 แสนคน หลายคนมาจากเอเชียใต้ เช่น บังกลาเทศและอินเดีย ส่วนใหญ่ทำงานก่อสร้าง และงานบริการที่คนสิงคโปร์ส่วนใหญ่ไม่ทำ

▪️ สาเหตุสำคัญที่ทำให้การแพร่เชื้อเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในกลุ่มก้อนนี้ เพราะสภาพความเป็นอยู่ในหอพักที่แออัด และระบบสาธารณูปโภคที่ต้องใช้ร่วมกันภายในห้อง
ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นที่สมุทรสาคร กับเรื่องแรงงานต่างชาติที่ติด COVID-19 ในจำนวนมากนั้น ไม่ต่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์

มาตรการหลักที่รัฐบาลสิงคโปร์ใช้ คือ อะไรในการแก้ไขปัญหานี้?

1. การล็อกดาวน์หอพักแรงงานต่างชาติ
- กักตัวแรงงานหลายแสนคนให้อยู่แต่ภายในห้องของตนเองเท่านั้น
- โดยจะมีการจัดอาหารมาให้ในแต่ละมื้อ เพื่อไม่ให้เชื้อกระจายออกไปข้างนอก

2. อีกมาตรการคือ สั่งให้เจ้าหน้าที่รีบออกตรวจร่างกายของแรงงานต่างชาติตามหอพักต่างๆ อย่างรวดเร็ว
โดยแยกคนที่ร่างกายปกติดีเป็นกลุ่มหนึ่ง ส่วนกลุ่มที่ติดเชื้อ COVID-19 ไปแล้ว ต้องถูกย้ายตัวไปอยู่ในหอพักแห่งใหม่ ที่ทางการเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นพื้นที่กักตัว

3. ขั้นตอนต่อมาที่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขสิงคโปร์ทำคู่ไปด้วย คือการพยายามตรวจหา COVID-19 แบบละเอียด เพื่อค้นหาว่า แรงงานต่างชาติคนไหนบ้างที่เพิ่งติดเชื้อ COVID-19 เป็นครั้งแรก หรือเป็นการกลับมาติดซ้ำเดิม ซึ่งการหาคำตอบให้กับเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อที่จะประเมินสถานการณ์ได้ว่า พื้นที่ในหอพักแรงงานต่างชาติแต่ละแห่งปลอดภัยแค่ไหน

4. มาตรการ ‘ล็อคดาวน์’ จะถูกผ่อนคลายลง
แรงงานต่างชาติจะสามารถออกมาภายนอกได้บ้างแล้ว แต่เพียงไม่กี่ครั้งต่อเดือนเท่านั้น
และจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ติดตามตัว contract-tracing devices อยู่ด้วยเสมอ

5. ขณะเดียวกัน ทางภาครัฐก็ได้ประสานงานกับกลุ่มนายจ้างอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ช่วยเน้นย้ำและออกแบบการทำงานแบบที่รักษาระยะห่างทางสังคม

“ประเทศไทยมีแรงงานต่างด้าวอยู่เป็นจำนวนหลายล้านคน และหลายแห่งอยู่กันหนาแน่น เป็นกลุ่มก้อนจำนวนมาก
ถ้าเกิดการระบาดในแรงงาน ที่อยู่รวมกันจำนวนมาก  ถึงแม้ว่าอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มดังกล่าว ที่มีอายุไม่มาก
และมีร่างกายแข็งแรง แต่จะทำให้ยากต่อการควบคุมภายในประเทศ

สิ่งสำคัญที่สุดจะต้องเปิดเกมรุก เข้าไปเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการระบาดขึ้นได้ ให้ความรู้ ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
แนวทางการปฏิบัติในการป้องกัน การดูแลไม่ให้เกิดการระบาดขึ้นเป็นกลุ่มก้อน มีความสำคัญมาก”
ความเห็นของ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การเปิดเกมรุกเต็มตัวของสิงคโปร์ ในแง่ที่ไม่คำนึงถึงตัวเลขนั้น อาจจะเป็นแม่แบบอีก 1 ประเทศ
ที่ประเทศไทย สามารถนำมาใช้คุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่สมุทรสาคร

ติดต่อโฆษณา!