สายตาสั้น ป้องกันได้ไม่ยากเกินไป

Highlight

สายตาสั้น ป้องกันได้ไม่ยากเกินไป รู้ก่อนช่วยได้ ปัญหาเกี่ยวสายตาพบได้มากขึ้นในปัจจุบันเนื่องจากการใช้งานสายตามากขึ้นจากการเพ่งอ่านจอคอมพิวเตอร์ หรือการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ  สำหรับผู้สูงวัยยิ่งต้องดูแลสุขภาพตาเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายจากการมองเห็นไม่ชัดเจน เช่น อาจลื่นหกล้ม หรือเป็นโรคต้อกระจก ต้อหิน ที่อาจจะสูญเสียการมองเห็นได้ สำหรับการดูแลและถนอมสายตานั้นเพียงรับประทานอาหารครบหมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายตามปกติ และไม่เพ่งมองในระยะใกล้นานจนเกินไป

ปัญหาสายตาสั้น และสุขภาพตา พบได้มากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากการใช้สายตาเพ่งมองจอโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์นานเกินไป รวมทั้งปัญหาทางสายตาอื่นๆ เช่นสายตาสั้น เอียง สายตายาว หรือการเกิดต้อกระจก ต้อหินในกลุ่มผู้สูงอายุ

รศ. พญ.อาภัทรสา เล็กสกุล สาขาวิชากล้ามเนื้อตาและโรคตาในเด็ก ภาควิชาจักษุวิทยา และ อ. พญ.อัญญพร สุทัศน์วรวุฒิ ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาความผิดปกติเกี่ยวกับสายตา ที่รบกวนการมองเห็นและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะนอกจากจะมองเห็นรายละเอียดของวัตถุนั้นๆได้ไม่ชัดเจนแล้ว อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหัว หรือเมื่อยล้าที่ดวงตาร่วมด้วย

สำหรับสายตาสั้นนั้น เราห้ามไม่ให้เกิดไม่ได้ แต่เราสามารถชะลอความเร็วในการเกิดสายตาสั้นที่มากขึ้นไปเรื่อยๆได้

โดยทั่วไปคนเราเมื่ออายุมากขึ้น สายตาก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุขัย เมื่ออายุย่างเข้าสู่วัย 40 ปีก็จะเริ่มเป็นสายตายาว เมื่ออายุเพิ่มขึ้นอีกก็อาจเป็นต้อกระจก อาจจะมองชัดไม่เท่าเดิม โดยแต่ละคนที่เกิดมาก็มีค่าสายตาไม่เท่ากัน ดีงนั้นจึงไม่ควรละเลยเรื่องสุขภาพตา



มีวิธีการสังเกตเด็กๆ อย่างไร ว่าสายตาปกติหรือไม่ 

วิธีสังเกตง่ายๆ สำหรับลูกเราว่ามีภาวะสายตาสั้น สายตาเอียง หรือสายตายาวหรือไม่ เช่นเวลาที่เด็กมองไกล มีการหรี่ตาหรือไม่ ถ้าเขาหรี่ตามองแล้วจะทำให้การมองชัดขึ้น หรือสายตาสั้นมากๆ เวลาอ่านหนังสือต้องนำหนังสือเข้ามาใกล้ตามากๆ หรือเดินชนเนื่องจากกะระยะผิด หากพบอาการเช่นนี้ แนะนำพ่อแม่ต้องนำเด็กมาตรวจ

การสังเกตเด็ก ควรเริ่มตั้งแต่เด็กเริ่มรู้ความ ปกติหมอเด็กจะเริ่มตรวจให้ตั้งแต่แรกเกิดว่าเด็กมีสายตาปกติหรือไม่ เช่นการตรวจต้อกระจกว่ามีหรือไม่ หรือ 6 เดือนแรกเกิดมีตาเหล่ ตาเข หรือไม่ ซึ่งกุมารแพทย์จะช่วยตรวจให้ และหากพบข้อสงสัยก็จะส่งต่อจักษุแพทย์ต่อไป  หากพบผิดปกติก็ดำเนินการจัดหาแว่นตาสวมใส่ก่อนที่เด็กถึงวัยเข้าเรียน

เด็กบางคนแทบจะมองไม่เห็นความผิดปกติ เพราะมีสายอีกข้างหนึ่งปกติ เขาก็สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้เหมือนเด็กทั่วไป ดีงนั้นพ่อแม่จึงจำเป็นต้องเช็คสายตาก่อนที่เด็กจะเข้าโรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข ก่อนจะสายเกินไป เพราะหากมีสายตาสั้น ยาว เอียง หรือไม่เท่ากันสองข้าง อาจมีปัญหาเรื่อง “ตาขี้เกียจ” ในข้างที่ไม่ปกติ และหากไม่ได้รับการแก้ไข จะทำให้สายตาข้างที่มีปัญหาหยุดพัฒนาการมองเห็น

ในช่วงอายุ 6-8 ปี หากเกิดสงสัยและให้คุณหมอตรวจและเห็นได้ว่าลูกมีสายตาสั้น ยาว เอียง เมื่อสวมแว่นสายตาแล้วดีขึ้น แต่หากพบหมอหลังช่วงอายุนี้ไปแล้ว แม้จะสวมแว่นสายตาแล้ว อาจจะช้าเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากเกี่ยวกับช่วงอายุควรแก้ไขให้ทันการ ซึ่งจะช่วยให้ตากลับมาปกติได้

เมื่อไหร่ก็ตามที่มีภาพชัดเกิดขึ้น การมองเห็นก็จะพัฒนา แต่ถ้าไม่เห็นภาพชัดเลยในตาข้างนั้น โดยเฉพาะการเปรียบเทียบระหว่างตาสองข้าง ข้างที่มีปัญหา สั้น ยาว เอียง มากๆ ก็จะขี้เกียจ  ถ้าแก้ไขได้ทันการก็จะกลับมาปกติ

ภาวะตาขี้เกียจเป็นอย่างไร

ตาขี้เกียจ อาจจะเป็นข้างเดียว หรือสองข้างก็ได้ โดยที่เราลองสวมแว่นดูแล้วสายตายังไม่เท่ากับคนทั่วไปที่ควรจะเป็น และเมื่อตรวจดูแล้วไม่มีความผิดปกติของลูกตาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมทั้งเส้นประสาทตาด้วย คือเห็นปกติ แต่มองไม่ชัด ไม่พัฒนาการมองเห็น

ซึ่งอาจจะเกิดสาเหตุ 1. ตาเหล่ โดยเฉพาะตาเหล่เข้าภายใน 6 เดือนแรกเกิด 2.สายตาผิดปกติ สั้น ยาว เอียง อาจจะเป็นข้างเดียว หรือสองข้างก็ได้ 3.อาจจะมีต้อกระจกตั้งแต่กำเนิด 4.หรืออาจมีหนังตาตกมาบัง แต่หมายความว่า ลูกตาด้านใน ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง เส้นประสาทตาปกติ แต่จะเห็นจากด้านนอก เช่นหนังตาตก

อ. พญ.อัญญพร เสริมว่า การเช็คสายตาสั้นเป็นสิ่งสำคัญ ตนเองเป็นคนสายตาสั้นโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน และได้ไปเช็คสุขภาพจึงทราบว่าสายตาสั้น

ดังนั้นจึงส่งเสริมโรงเรียนให้ตรวจเช็คสายตาเด็กเชิงรุก เพื่อทราบปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ และมีเกณฑ์ว่า สั้น เอียง เท่าไหร่จึงควรส่งต่อจักษุแพทย์ ซึ่งคุณครูจะช่วยได้มาก



สายตาสั้นเท่าไหร่ ถึงเรียกสายตาสั้นและควรต้องตัดแว่น

ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ทางจักษุแพทย์จะเรียกว่าสั้น 2 อะแดปเตอร์ หรือ 200 เด็กบางคนหรี่ตามอง เดินไปใกล้ๆ หรือนั่งหน้าชั้น ก็อาจจะไม่รู้สึกอะไร บางคนสั้นเพียงหนึ่งอะแดปเตอร์หรือ 100 ก็รู้สึกว่ามองกระดานไม่ชัด และอยากเห็นได้ชัดกว่านั้น ก็อาจจะมาบอกคุณพ่อคุณแม่ บางคนสั้น 200 หรือ 2 อะแดปเตอร์ไม่ต้องใส่ก็มี อันที่จริงเมื่อตรวจแล้วสั้น 100 ก็ควรจะใส่แว่นสายตาแล้ว



สาเหตุที่ทำให้เกิดสายตาสั้น

ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ลูกตาเรายาวกว่าปกติ ซึ่งจะเป็นเองอยู่แล้ว หรืออาจจะเป็นกรรมพันธุ์ คุณพ่อ-คุณแม่สายตาสั้น และเราก็ได้รับกรรมพันธุ์ตรงนั้นมา หรือไม่ได้เป็นกรรมพันธุ์ก็ได้ ลูกอาจจะสั้น ยาว เอียง โดยไม่ทราบสาเหตุเลยก็ได้เช่นเดียวกัน เมื่อเป็นแล้วเราจะชะลอสายตาสั้นได้ แต่การที่มองใกล้นานๆ  หรือเพ่งในระยะใกล้นานๆ ทำให้เลนส์โป่งพองในการปรับโฟกัสได้

การนอนอ่านหนังสือ นอนดูทีวี จะทำให้สายตาเอียงจริงหรือไม่

การมองใกล้มากๆ การเพ่งมองนานๆ ไม่ดีอยู่แล้ว การนอนอ่านหนังสือหรือถือหนังสือไกลๆ ทำให้ปรับระยะได้ไม่ดี  การนั่งอ่านหนังสือ หรือการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์มองจอทีวี ก็ตามก็ควรปรับระยะสายตาเพื่อให้มองสบายที่สุดเป็นเรื่องที่ดี เพื่อให้ภาวะเครียดต่อตามีน้อยที่สุด

สายตาสั้นหรือเอียงเร็วขึ้น มาจากสาเหตุอะไร

อาจจะมาจากสาเหตุแสงสว่างไม่เพียงพอ เราอาจจะต้องเพ่งมากขึ้น การดูทีวี เล่นไอจี ในที่มืด หรือการใช้สายตามากเกินไปโดยไม่จำเป็นทำให้เกิดปัญหามากขึ้น ซึ่งยุคนี้หลีกเลี่ยงได้ยาก ทำให้ตาแห้ง ตาล้า แต่เด็กก็อาจจะไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา ดังนั้นพ่อแม่ เมื่อซื้อมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ให้ลูก ก็ควรมีการต่อรองกันให้เรียบร้อยเสียก่อน เด็กบางคนดูจนไม่ได้พักผ่อน

คำแนะนำในการถนอมสายตา

จริงๆแล้วมีคำแนะนำว่า มองใกล้ 20 นาที มองไกลๆที่ระยะ 20 ฟุต 20 วินาที แล้วค่อยว่ากันใหม่ หรือหากเร็วไป เมื่อมองใกล้หนึ่งชั่วโมงก็ควรมองไกล 5นาที เพื่อลดการเพ่ง และใช้โทรศัพท์มือถือเท่าที่จำเป็น และกำหนดเวลาให้ลูกด้วย

ตาแห้ง โรคยอดฮิต เกิดจากอะไร 

ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้สายตาเพ่งมิงมากเกินไป และภาวะมลพิษในอากาศมีส่วนบ้างเล็กน้อย การนอนดึกเกินไป ใช้สายมากเกินไป อยู่ห้องแอร์ตลอด หรือพัดลมเป่า น้ำตาที่อายุมากขึ้นสร้างน้อยลง ใช้ตามาทั้งวันทำให้ตาแห้ง

อาการที่เกิดขึ้นคือทำให้ไม่สบายตา ระคายเคืองตา เหมือนมีอะไรอยู่ในตา สู้แสงสู้ลมไม่ได้ แต่ไม่ส่งผลให้ สั้น เอียง ยาว มากขึ้น

สายตาสั้นเทียม เป็นอย่างไร

คือภาวะสายตาสั้นชั่วขณะ หรือสั้นแป็บเดียว หายเองได้ เกิดจากการที่เราเพ่งเยอะ ขณะที่เราเพ่ง เลนซ์ตาเราจะโป่งพองออก แสงที่มาจากวัตถุต่างๆ จะตกถึงก่อนประสาทตา เมื่อเราใช้สายตาเพ่งนาน และเมื่อมองไกลๆ จะเบลอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สายตาก็ปรับระยะเองได้

ดังนั้นการใช้สายตาในลักษณะที่ “เพ่ง”มองนานไปก็จะทำให้สายตามีปัญหาได้

ช่วงคำถามสุขภาพ ..ร่วมตอบคำถามโดย อ. พญ.อัญญพร สุทัศน์วรวุฒิ ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว และ รศ. พญ.อาภัทรสา เล็กสกุล สาขาวิชากล้ามเนื้อตาและโรคตาในเด็ก ภาควิชาจักษุวิทยา

อายุ 15 ปีสามารถทำเลสิก ได้หรือยัง มีอันตรายหรือไม่

ยังไม่ควร เร็วเกินไป ควรให้สายตาสั้นคงที่ก่อน ซึ่งส่วนใหญ่จะคงที่ในช่วงอายุ 20 ปี หรือถ้าสายตาไม่เพิ่มขึ้นมาก จากปีที่ไปตรวจ ถ้าสมมุติว่าไปเลสิกทำช่วงอายุ 30 ปี สายตาสั้นจะคงที่แล้ว แต่เมื่ออายุถึง 40 ปีก็จะมีปัญหาสายตายาวแทน ซึ่งการทำเลสิกกับสายตายาวนั้นไม่ได้ผลเท่ากับการทำเลสิกในสายตาสั้น รายละเอียดในการทำเลสิกต่อเนื่องอาจต้องคุยกับคุณหมอโดยตรง เมื่อสายตายาวในช่วงอายุ 40 ปีก็อาจจะหาแว่นสายตามาสวมอีกทีหนึ่ง

สิ่งที่ครอบครัวควรระวังในการใช้สายตาของเด็ก

การใส่คอนแทคเลนส์เป็นสีๆ หรือการแต่งหน้า ก็ควรระวัง บางครั้งมีปัญหาที่เกี่ยวกับตาได้ ตาเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก ถ้าเกิดมีปัญหาหรือเพิ่งเป็นก็ควรปรึกษาหมอตาโดยทันที หรือบางคนใส่คอนแทคเลนส์แล้วลืมถอด ก็เจอบ่อยต้องระวังในการใช้งาน การใช้คอนแทคเลนส์เป็นสีๆหรือใส่เป็นแฟชั่น ควรถอดออกเมื่อถึงเวลา เพราะจะติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ 10 เท่า โดยเฉพาะเวลานอน ไม่ควรใส่ต่อเนื่องเกิน 8-10 ชั่วโมงต่อวัน หรือถ้ามีตาแดง ตาอักเสบ ต้องรีบถอด หาหมอทันทีเพราะอาจมีติดเชื้อได้ ต้องทำความสะอาดอย่างถูกต้อง บางคนใส่ Big Eye หรือบางครั้งยืมของเพื่อนใส่ ทำให้ติดเชื้อได้ ถ้าติดเชื้อรุนแรงอาจสูญเสียสายตาได้

แว่นตัดแสงฟ้า-Blue Screen จากจอคอมพิวเตอร์ ถนอมสายตาได้จริงหรือไม่

เป็นจุดขายอย่างหนึ่ง บางที่เราได้รับคำแนะนำว่า ควรใช้แว่นตัดแสงสีฟ้า หรือ Blue Cut ซึ่งจริงๆ แล้ว แสงสีฟ้าที่เขาเชื่อกันว่ามีอันตรายต่อจุดรับภาพ ซึ่งจากการวิจัยพบว่าจอคอมพิวเตอร์ที่จะมีแสงอันตรายออกมา เช่น UV A, UV B นั้นจริงๆแล้วไม่มี และแสงสีฟ้าที่จะเกิดอันตรายต่อดวงตานั้นมีน้อยมาก ราชวิทยาลัยจักษุของอเมริกาก็บอกอย่างนี้เช่นเดียวกัน เขาก็พบว่าการเกิด Eye Strain หรือ ตาล้า จากการใช้คอมพิวเตอร์เยอะๆ ไม่ได้เกิดจากแสงสีฟ้า การใส่แว่น Blue Cut ไม่ได้ช่วยลดอาการปวดกระบอกตา อันตรายต่อจุดรับภาพที่เกิดจากคอมพิวเตอร์ก็มีน้อยมาก แต่ถ้าเราต้องใช้จอคอมพิวเตอร์นานๆ แล้วสวมแว่นตัดแสงเหล่านั้นอาจมีส่วนช่วยให้สบายตาขึ้น ก็พิจารณาราคาที่สมเหตุสมผล เพราะอันที่จริงไม่ได้ช่วยเรื่องการถนอมสายตามากขนาดนั้น

ปิดไฟแล้วเล่นมือถือ

ไม่ควรที่จะทำอย่างนั้น แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ ไม่ดีต่อสายตา ควรจะนั่งให้เป็นกิจจะลักษณะ

อายุ 60 ปี เดิมสายตายาว ใช้โปรเกรสซีฟเลนส์ แต่ต้องใช้ตลอด หากถอดออกมองใกล้ไม่ชัด 

เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นสายตายาวอยู่แล้ว ถ้าอายุ 60 แล้ว อีกหน่อยอาจจะเป็นต้อกระจก สายตาเปลี่ยนไปอีกและสามารถใส่เลนส์ใกล้ไกลหลายระยะในตาได้เลย อยู่ได้ตลอดชีวิต เป็นต้อกระจกนั้นมีผลต่อการใช้ชีวิต และต้องการผ่าตัดก็มีเลนส์ที่ใส่เข้าไปในตา ที่มองได้หลายระยะก็ไม่ต้องใส่แว่น สามารถผ่าตัดและกลับบ้านได้เลย ใช้เวลาเพียง 15 นาที

หลังทำเลสิกกี่เดือนสายตาถึงปกติและโดนน้ำได้

ถ้าไม่มีปัญหาใดๆระหว่างทำผ่าตัด วันรุ่งขึ้นจะต้องมองเห็นได้ดี หมออาจจะแนะนำไม่ควรโดนน้ำ 2-4 อาทิตย์ขึ้นอยู่กับความเห็นของหมอแต่ละคน

อายุ 68 ปี ผ่าตัดต้อกระจก มีข้อห้ามหลังผ่าตัดอะไรบ้าง ระหว่างผ่าตัดต้องใส่แมสหรือไม่

ปกติผ่าตัดก็ต้องใส่แมส เพื่อป้องกันโควิด หลังผ่าตัดต้องดูแลคือไม่ให้น้ำเข้าตา 2 อาทิตย์ มียาหยอดตา ยาปฏิชีวนะลดการอักเสบ ซึ่งมีวิธีปฏิบัติตนให้อยู่แล้ว วิธีการเช็ดตา สามารถใช้สายตาได้เลย คนไข้ไม่ต้องกังวล

อายุ 74 ปีสายตายาวมากกว่า 300 ปัจจุบันไม่ต้องใส่แว่นแล้วเกิดจากอะไร 

เกิดจากคนไข้มีต้อกระจก เดิมสายตายาว พอมีต้อกระจก เลนส์จะใหญ่ขึ้น โป่งพองขึ้น 1 มิลลิเมตรของเลนส์ที่เพิ่มขนาดเท่ากับสายตาสั้น 300 ทำให้หักล้างกับสายตายาวที่มีอยู่ ทำให้มองเห็นได้โดยไม่ใส่แว่น แต่มองไกลอาจไม่ชัดเพราะสายตาสั้นมาแทนที่

อายุ 67 ปี ผ่าตัดต้อกระจก สายตาเอียงเดิม 200 หลังผ่าตัดเพิ่มเป็น 270 เกิดจากอะไร 

เกิดจากแผลต่าตัดที่อาจจะเกิดขึ้นเล็กๆน้อยๆได้ แต่ถ้าสายตาเอียงเกิน 100 ขึ้นไปแนะนำว่าควรใส่เลนส์แก้สายตาเอียงด้วย หรือใส่แว่นเพื่อให้มองชัดขึ้น

น้ำตาเทียม ควรใช้อย่างไร

หยอดได้ถ้ามีอาการตาแห้ง ระคายเคืองตา สู้ลมไม่ได้ จำเป็นต้องหยอด ถ้าอาการไม่มากหยอดวันละ 3-4 ครั้งก็เพียงพอ  

ใส่แว่นตาที่ปรับสีได้ หากใส่ไปนานๆ จะมีผลต่อสายตาหรือไม่

ไม่มีปัญหา สามารถใช้ได้

แว่นกันแดด สีสรรต่างๆ เป็นปัญหาต่อสายตาหรือไม่

ไม่มีปัญหา ใส่เพื่อความสวยงาม เพราะใส่เพียงครั้งคราว

ใส่โปรเกรสซีฟเลนส์มองไม่ชัดเกิดจากอะไร

อาจจะไม่พอดี อาจจะเป็นไปได้ว่ากรอบแว่นหลวมไป ไม่กระชับ อาจจะต้องปรับให้พอดีกับระยะการมองที่วัดสายตาไว้

อายุ 64 ปี เป็นโรคคอสั่น อยากผ่าตัดต้อกระจก ไม่อยากดมยาสลบ ถ้าคมยามีผลข้างเคียงหรือไม่

อาจจะมีการคาดสก๊อตเทปที่บริเวณหน้าผากให้สั่นลดลง การผ่าตัดต้อกระจกใช้เวลาเพียง 15 นาที มีเครื่องมือสามารถบังคับให้นิ่งได้ ถ้าไม่มีโรคประจำตัวอะไร คุณหมอก็จะพิจารณาผ่าตัดได้ มีความเสี่ยงน้อย ผลข้างเคียงจากการดมยามีน้อยถ้าสุขภาพดี อาจมีจากผลข้างเคียงของยา เช่นเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว อาจมีเสียงแหบหลังผ่าตัด ขั้นตอนก่อนผ่าตัด มีขั้นตอนหลายอย่าง ทั้งตรวจเลือด และเอ็กซ์เรย์ปอด เพื่อเตรียมความพร้อมขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหมอว่าผ่าตัดได้หรือไม่

อายุ 85 ปี เป็นต้อกระจก 2 ข้าง ทำมาแล้ว 20 ปี ทำซ้ำได้ไหม

อาจเกิดจากถุงหุ้มเลนส์ขุ่น ใช้เลเซอร์ขัดให้ใสขึ้นได้ หรือเมื่อเวลาเวลาผ่านไป 20 ปี เป็นไปได้ว่า จุดรับภาพอาจเสื่อม อาจจะเป็นต้อหิน ต้องรีบไปรับการตรวจว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร อาจจะรักษาได้ หรือต้องรักษาต้อหินต่อหรือไม่ ที่เรากลัวกันมากๆ  สิ่งที่สูญเสียไปแล้วนำกลับคืนมาไม่ได้ ปัจจุบันอาจหยอดยาได้ การผ่าตัดต้อหินอาจผ่าตัดหลายครั้งได้ ไม่เหมือนต้อกระจกที่ผ่าตัดครั้งเดียว ต้อหินคือความดันตาสูงหรือไม่สูงก็ได้ หากเป็นเยอะแล้วยาคุมไม่ได้จึงจะผ่าตัด ส่วนใหญ่จะให้ยาก่อน

ควรรับประทานอาหารชนิดใดเสริมสายตา

รับประทานอาหารตามปกติครบ 5 หมู่ก็ถือว่าเพียงพอ  และพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายตามปกติ

การรักษาสุขภาพตา ควรทำอย่างไร

สำหรับผู้สูงอายุ หากมีปัญหาเรื่องสุขภาพตา ควรเข้ามาตรวจวัดสายตา เพราะสายตาไม่ดีอาจจะมีผลต่อกาหกล้ม ความจำและสมองได้ ดังนั้นควรดูแลสุขภาพผู้สูงอายุเพื่อแก้ไขปัญหาในส่วนนี้

สุขภาพตาเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรดูแล ถ้าสงสัยให้รีบพบจักษุแพทย์ ปัญหาเรื่องตาแก้ไขได้เกือบทุกเรื่อง ถ้ามีปัญหาอย่านิ่งนอนใจจนสายเกินแก้