20 ตุลาคม 2565
1,374

โรคกรดไหลย้อน อย่ากินแล้วนอนจำให้ขึ้นใจ

Highlight

โรคกรดไหลย้อน เป็นอีกโรคหนึ่งที่พบมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องในชีวิตประจำวัน โรคกรดไหลย้อนก็เช่นเดียวกัน สาเหตุส่งนหนึ่งมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ กินเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด กินแล้วนอนทันที เหล่านี้อาจเป็นสาเหตุทำให้หูรูดหลอดอาหารหย่อน เกิดกรดไหลย้อนได้ง่าย มีอาการเรอ เปรี้ยว ขม ดังนั้นไม่ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ รวมทั้งการลดน้ำหนัก กรดไหลย้อนป้องกันและรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม



20221020-c-01.jpg

โรคกรดไหลย้อน “ป้องกันและรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม” ซึ่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องในชีวิตประจำวัน และหนึ่งในนั้นก็คือ “โรคกรดไหลย้อน” ในปัจจุบันเราจะได้ยินผู้คนพูดถึงเรื่องโรคนี้กันบ่อยมากขึ้น ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะ โรคกรดไหลย้อน เป็นโรคหนึ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก และไม่ว่าใครก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ อ.พญ.ศุภมาส เชิญอักษร ภาควิชาอายุรศาสตร์ สาขาวิชาโรคทางเดินอาหารและตับ และ ผศ.พญ.ศิริสุชา โศภนคณาภรณ์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีคำแนะนำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอย่างถูวิธี เพื่อลดปัญหากรดไหลย้อน และการดูแลรักษา ก่อนเกิดปัญหาเรื้อรัง

 

20221020-c-02.jpg

วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นสำหรับโรคกรดไหลย้อน มีวิธีเช็คอย่างไรบ้าง

กรดหรือน้ำย่อยในหลอดอาหาร มันไหลย้อนขึ้นไปที่หยอดอาหารทำให้ มีอาการรบกวน หรือมีภาวะแทรกซ้อน อาการคือมีแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว เรอขม ให้สงสัยส่าเป็นกรดไหลย้อน นอกจากนี้ยังมีอาการนอกหลอดอาหาร เช่น ไอเรื้อรัง เสียงแหบ จุกที่คือ ฟันผุ หลังรักษากรดไหลย้อนฟันผุก็ดีขึ้น แน่นหน้าอก ซึ่งต้องประเมินแล้วว่าไม่ได้เป็นโรคหัวใจ สัญญาณที่บ่งบอกว่า จะต้องพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค เช่น กลืนลำบาก อาเจียร น้ำหนักลด ซึ่งอาจะเป็นสาเหตุของโรคอื่นได้


20221020-c-03.jpg

พฤติกรรมแบบไหนที่ เสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อน

 สิ่งที่ทำให้เกิดกรดไหลย้อนมาจากหลายเหตุ เช่น การทำงานของหูรูดหลอดอาหารส่วนปลายทำงานไม่ดี เปิดอยู่ตลอดเวลา หรือมีกระเปาะอยู่ทำให้น้ำย่อยไปขังอยู่ การบีบตัวของหลอดอาหารผิดปกติ หรือมีโรคบางอย่างทำให้น้ำลายแห้ง น้ำลายเป็นด่าง สามารถไหลย้อนลงกระเพาะไปได้

 
ขั้นตอนดูแลตัวเองไม่ให้เป็นโรคกรดไหลย้อน มีอะไรบ้าง

สิ่งที่ควรทำคือ

กินอาหารตรงเวลา กินอาหารครบห้าหมู่ เคี้ยวอาหารให้ละเอียด กินน้อย ๆ แบ่งมื้อกิน ลดน้ำหนัก ทำกิจกรรมคลายเครียด พักผ่อนเพียงพอ

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

รับประทานอาหารในปริมาณที่มากจนเกินไป  กินอาหารที่มีไขมันสูง  เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง  ดื่มแอลกอฮอล์  ออกกำลังกายหลังกินข้าวทันที  สูบบุหรี่  นอนทันทีหลังกินข้าวเสร็จ อาหารเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด เพราะทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนบนหย่อน ถ้ามีอาการเกิดขึ้นบ่อยจนรบกวนการใช้ชีวิต มีอาการอักเสบของหลอดอาหาร ก็อาจต้องพบแพทย์

วิธีดูแลรักษาตัวเองเมื่อเป็นโรคกรดไหลย้อน

การดูแลรักษากรดไหลย้อน สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ เช่นหากกินอะไรแล้วส่งผลต่ออาการกรดไหลย้อนก็พยายามหลีกเลี่ยง หรือการลดน้ำหนัก เพื่อลดความดันในช่องท้องและหลอดอาหาร แบ่งมื้อใหญ่ เป็นมื้อเล็กๆ ไม่ควรกินแล้วนอนทันที หรือกินเสร็จนั่งเอนอยู่ในท่านอน อย่างน้อยควรทิ้งระยะ 2-3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน  ถ้ามีอาการกรดไหลย้อนก็ควรนอนยกเตียงด้านศรีษะสูงในตอนกลางคืน

สำหรับเด็กแรกเกิด ก็อาจเกิดอาการกรดไหลย้อนได้ 2-3 วันต่อครั้ง เกิดอาการสำรอกออกมา แต่ถ้าเกิดทุกครั้งหลังดื่มนมก็อาจจะเป็นอาการผิดปกติได้ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการทางเดินอาหาร  เด็กบางคนอาจจะเลี้ยงไม่โตหรือน้ำหนักไม่ขึ้น เนื่องจากอาเจียรบ่อยเกินไป

การดูแลรักษาทางการแพทย์หลังเป็นกรดไหลย้อน

การเป็นกรดไหลย้อนที่รุนแรงอาจเกิดมะเร็งที่หลอดอาหารส่วนปลายได้ ซึ่งคนไข้มักจะกลัวว่า เป็นซ้ำๆ อาจจะเป็นโรคร้ายแรงได้ ในต่างประเทศพบเป็นกรดไหลย้อนกลายเป็นมะเร็งได้ประมาณ 15% แต่คนไทยสถิติเกิดขึ้นน้อย ส่วนหนึ่งมาจากคนไทยอ้วนน้อยกว่า พบน้อยกว่า 1% ส่วนใหญ่ที่เจอจะพบในหลอดอาหารส่วนต้น ซึ่งสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่มากกว่า  อย่างไรก็ตามพบว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่มีอาการพอสมควรที่แพทย์ต้องให้การรักษา

ภาวะหอบหืดในเด็ก รักษาหายหรือไม่

หอบหืดในเด็กเล็กต้องหลีกเลี่ยง สิ่งกระตุ้นสิ่งเร้า บางครั้งรักษาหายแล้วกลับมาเป็นซ้ำได้ เช่น รับฝุ่น PM2.5  ควันบุหรี่ เชื้อราที่เกาะในเครื่องทำความเย็น  ขนสัตว์  ทำมก้มีหลายอาการรบกวนสุขภาพ เช่น ไอ หอบหืด หรือมีอาหารผดผื่นตามผิวหนัง

คนที่รับประทานอาหารแล้วอาเจียนบ่อยมีผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร

อาจจะเป็นได้ทั้งโรคทางกาย และโรคทางใจ การอาเจียร อาจทำให้หลอดอาหารอักเสบได้ สาเหตุการอาเจียรอาจมาจากหูรูดหลอดอาหารหย่อน ถ้าน้ำหนักลดมากๆ ก็อาจขาดสารอาหารได้ โรคทางใจ คือมีอาการเบื่ออาหาร

อาการกระเพาะอาหารอักเสบเกิดจากอะไร และวิธีการรักษา

การกินยาลดกรดในกระเพาะนานๆ  อาจจะส่งผลให้เกิดแผลหรือติ่งเนื้อที่กระเพาะอาหารได้ ท้องอืดอาหารไม่ย่อย หรืออาหารบีบตัวของกระเพาะอาหาร ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารที่สร้างแก๊สเยอะ หากติดเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ก็อาจอันตรายเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้

การส่องกล้อง มีความเสี่ยงหรือไม่

หากมีความเสี่ยงเรื่องภาวะการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ท้องผูกมานานมีแผล การถ่ายเป็นเลือด ก็ควรส่องกล้อง หรืออยู่ที่ดุลพินิจของหมอว่าควรส่องกล้องหรือไม่

ยาลดกรด ทำให้กระดูกพรุนหรือไม่

หากกินยาลดกรดอยู่เป็นประจำ อาจทำให้ร่างกายไม่ดูดซึมเกลือแร่บางชนิดที่สร้างมวลกระดูก ทำให้กระดูกพรุนหรือกระดูกบางได้ แต่ต้องดูว่าการทานยาลดกรดในกระเพาะช่วยลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหารหรือไม่ การเกิดแผลในกระเพาะมีอันตราย หากไม่รักษา ซึ่งต้องดูว่ามีบ่งชี้ว่าต้องใช้ยาชนิดนี้หรือไม่ 

เด็กไม่ควรดูทีวีเพราะอะไร

จะทำให้สมาธิสั้น เพราะภาพเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้ไม่มีสมาธิ และทำให้พูดช้ากว่าปกติ เพราะเด็กจะรับฟังสารเพียงอย่างเดียวไม่มีปฏิสัมพันธ์ เด็กติดทีวีจะพูดไม่ได้ ดังนั้นอายุต่ำกว่า 2 ปีไม่ควรให้ดูทีวี หรือเมื่ออายุเกิน 2 ขวบแล้ว หากจะให้เด็กดูทีวี หรือคอมพิวเตอร์ พ่อแม่ควรอยู่ด้วย และควรให้คำแนะนำ ในลักษณะ Interactive เพราะหากปล่อยให้เด็กอยู่กับจอภาพเคลื่อนไหวนานๆ จะทำให้มีพัฒนาการช้า

เด็กเล็กเดินทางด้วยเครื่องบินต้องเตรียมตัวอย่างไร

พ่อแม่ไม่ควรนำเด็กเล็กๆ เดินทางไกลเกิน 6 ชั่วโมงโดยไม่จำเป็น ปกติอายุ เกิน 6 เดือนสามารถขึ้นเครื่องบินได้ โดยต้องระวังช่วงที่เครื่องบินกำลังบินขึ้นเพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องของความดันอากาศ  และแนะนำว่าไม่ควรให้เด็กนอนก่อนขึ้นเครื่อง เพราะอาจจะทำให้เด็กไม่หลับและงอแงรบกวนผู้โดยสารอื่น ควรนำของเล่นขึ้นเครื่องไปด้วยเพื่อให้เด็กผ่อนคลายและไม่เบื่อในการนั่งในเครื่องบินเป็นเวลานานๆ

เด็กอายุ 6 เดือนเป็นไข้ ทานยาพาราเซตามอลติดต่อ 2-3 วันไข้ไม่ลด ควรทำอย่างไร

ควรไปพบแพทย์ เพราะปกติแล้วไข้ต้องลดในช่วง 2-3 วัน เพราะถ้าไข้ไม่ลด อาจมีอาการแทรกซ้อนได้หลายสาเหตุ

 

ติดต่อโฆษณา!