เมืองไทยประกันชีวิต เปิดแผนธุรกิจปี 66 ด้วยกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” ตั้งเป้าเบอร์หนึ่งที่ลูกค้าวางใจความคุ้มครองด้านสุขภาพ
Highlight
เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) เปิดตัวกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” สำหรับปี 66 เน้นความสุขในองค์รวมร่วมขับเคลื่อนองค์กร ทั้งลูกค้า พนักงาน พาร์ทเนอร์ และสังคมโดยรวม ผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ความคุ้มครองสุขภาพ การบริการอื่น ๆ พร้อมบุกตลาด CLMV ให้เติบโตต่อเนื่องหลัง 4 บริษัทแรกผลงานเข้าเป้า ย้ำฐานะการเงินแข็งแกร่ง สินทรัพย์รวมกว่า 6 แสนล้านบาท โดยยังคงสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้ 80% หุ้น 13-15% ผลตอบแทนเฉลี่ยปี 65 อยู่ที่ 3-4% ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจท่ามกลางความท้าทายหลายด้านในปีที่ผ่านมา
เมืองไทยประกันชีวิต เปิดตัวกลยุทธ์ “Happiness Reinvented : เพราะความสุขคือทุกอย่าง เน้นเดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นในการสร้างความสุขให้แก่ทุก ๆ คน ทั้งลูกค้า พนักงาน พาร์ทเนอร์ และสังคมโดยรวม ผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ความคุ้มครองสุขภาพ การบริการอื่น ๆ เพื่อส่งมอบความสุขแบบครบวงจรอย่างแท้จริง
- นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เผยว่าปี 2565 ถือเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายที่หลากหลาย จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว หลังจากการระบาดอย่างรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มาหลายปี
- การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคในโลกยุคใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในภาวะที่เต็มไปด้วยความท้าทาย เมืองไทยประกันชีวิต ยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความแข็งแกร่ง เพื่อการตอบโจทย์และเดินเคียงข้างลูกค้าคนสำคัญอย่างยั่งยืน
- ปี 2565 บริษัทมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่อยู่ที่ 10% และเบี้ยประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงที่ 7% ขณะที่ธุรกิจในภูมิภาค CLMV มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง
- ในด้านความแข็งแกร่งและด้านเสถียรภาพทางด้านการเงิน บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating) จาก S&P Global Ratings อยู่ที่ระดับ BBB+ โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพ และจาก Fitch Ratings อยู่ที่ระดับ A- โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Rating) ที่ AAA(tha) โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งถือเป็นอันดับเครดิต ในระดับประเทศที่สูงที่สุด
- ด้านความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งโดยสะท้อนจากอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนสูงกว่า 300% ณ สิ้นปี 2565 ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรง ตามเกณฑ์ที่ 140%
- ในปี 2566 นี้ ถือเป็นปีสำคัญของเมืองไทยประกันชีวิต ในการอยู่เคียงข้างสร้างรอยยิ้มแก่คนไทยครบ 72 ปีพร้อมกำหนดทิศทางการดำเนินงานในปีนี้ของบริษัทฯ ด้วยการตั้งเป้าหมายในการเป็น “องค์กรที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในทุกมิติ ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” เพราะความสุขคือทุกอย่าง...ร่วมสร้าง” นายสาระ ระบุ
- เมืองไทยประกันชีวิต ประกาศปักธงเป็นอันดับหนึ่งในฐานะคู่คิดด้านชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ (No.1 Most Trusted Life & Health Partner) ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรม ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกบทบาทของชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุก ๆคน (Democratizing Insurance)
- โดยบริษัทฯ มุ่งดำเนินงานผ่าน 4 แกนสำคัญ ได้แก่ บุคลากร (People) พาร์ทเนอร์ (Preferred Partner) ลูกค้า (Customers) และ นอกเหนือจากลูกค้า (Beyond Our Customers)
- บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรในทุก ๆ มิติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะช่วยเชื่อมต่อการส่งมอบความสุขไปยังลูกค้า ผ่านการพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ อาทิ การส่งเสริมวัฒนธรรมที่เปิดกว้างทางความคิดและความหลากหลาย การพัฒนาทักษะรอบด้าน การปรับกระบวนการภายในให้มีความรวดเร็ว ความแม่นยำ และความสามารถในการรองรับการขยายตัวของธุรกิจ
- การมีพื้นที่การทำงานที่ทันสมัยเพื่อรองรับการทำงานรูปแบบ Squad Team ไม่ว่าจะเป็นที่ศูนย์การเรียนรู้สรรค์สาระ The Garage และ 66 Tower นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความใส่ใจในการสร้างความสุขที่ยั่งยืนตลอดการทำงานและหลังการเกษียณอายุไปแล้ว ผ่านกิจกรรมพัฒนาความรู้และสร้างเสริมทักษะรอบด้านทั้ง สุขภาพ ความมั่งคั่ง ทักษะแห่งอนาคต และทักษะอาชีพอื่น ๆ ให้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง
- ด้าน Insurtech และ Healthtech การนำเสนอและเปรียบเทียบประกันภัยออนไลน์ และการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างครบวงจร เพื่อร่วมกันนำเสนอทางเลือกที่เป็นมากกว่าประกันชีวิตแก่ ทั้งลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตและบุคคลทั่วไป
- นายธนัญชัย สัจจะปรเมษฐ รองกรรมการผู้จัดการ MTL กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์รวมประมาณ 600,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ตราสารหนี้ 80% และ ที่เหลือ เป็นหุ้น และสินทรัพย์อื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกองอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีผลตอบแทนเฉลี่ยจากการลงทุนประมาณ 3-4% ซึ่งเป็นระดับที่น่าพอใจ
- สำหรับแผนการบริหารจัดการลงทุนในปีนี้ ยังคงรักษาสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้ โดยทิศทางอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี จะเป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญของพอร์ตการลงทุนระยะยาวในภาพรวม
ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ
🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC