10 กุมภาพันธ์ 2567
8,444

คุมกำเนิด ลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น



การมีความรู้เรื่องการคุมกำเนิด ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก สำหรับสาว ๆ ยุคใหม่ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ หรืออยู่ในวัยใดก็ตาม นอกจากการคุมกำเนิดจะป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ยังช่วยให้คู่สมรสที่ยังไม่พร้อมมีบุตร วางแผนครอบครัวได้อีกด้วย

หากพูดถึงวิธีการคุมกำเนิดที่นิยมมากที่สุด คงไม่พ้นการกินยาชนิดเม็ด เพราะนอกจากจะกินง่ายแล้ว ราคาก็ไม่แพงด้วย แต่ไม่ว่าจะเลือกคุมกำเนิดด้วยวิธีใดก็ตาม เราควรมีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ลัดคิวหมอรามา รายการวาไรตี้ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย วันนี้พบกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผศ. พญ.ศิริสุชา โสภณคณาภรณ์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ อ. นพ.กิตติ ฉัตรตระกูลชัย สาขาวิชาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ภาควิชาสูติศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาให้ความรู้เกี่ยวกับการคุมกำเนิด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ หรือวางแผนการมีบุตรเมื่อพร้อม



▪️ ทำไมต้องคุมกำเนิด

การคุมกำเนิด เป็นการวางแผนครอบครัว เพื่อให้เรามีพร้อมที่จะมีลูกเมื่อไหร่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยวัยรุ่น ที่ต้องให้ความสำคัญมากพอสมควร 

นิยามของคำว่าตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ตามพ.ร.บ. ที่ว่าด้วยการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น คือช่วงวัยที่มีอายุระหว่าง 10 - 20 ปี ซึ่งกลุ่มนี้มีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์มากกว่ากลุ่มคนทั่วไป เพราะเด็กเพิ่งจะเปลี่ยนผ่านมาเป็นวัยรุ่น ร่างกายเปลี่ยนแปลงไป  ทำให้อยากรู้อยากลอง

ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการคุมกำเนิดที่ถูกวิธี จะช่วยลดปัญหาการตั้งครรภ์ในขณะที่ไม่พร้อม เมื่อวัยรุ่นเขามีความรู้ที่ถูกต้อง ก็จะช่วยให้มีการวางแผนที่ดีได้ 

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลที่พบมากขึ้นคือ ด้านประวัติครอบครัว ถ้าครอบครัวมีคนเคยตั้งครรภ์ในช่วงวัยรุ่น เช่นคุณแม่เคยตั้งครรภ์ช่วงวัยรุ่น มารุ่นลูกก็มีโอกาสตั้งครรภ์เหมือนคุณแม่ได้ 

ซึ่งเป็นข้อมูล งานวิจัยที่ได้ศึกษาไว้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นวัยรุ่น เป็นช่วงวัยที่เสี่ยงตั้งครรภ์ในภาวะที่ไม่พร้อมมากกว่าวัยอื่น ๆ 



▪️ การคุมกำเนิดมีกี่วิธี 

ควรคุมกำเนิดมีหลายวิธี และควรเลือกให้เหมาะกับสุขภาพของแต่ละคน โดยคำนึงถึงด้านต่าง ๆ ดังนี้ 

1.  คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เช่นบางคนมีโรคประจำตัวบางอย่าง ที่ไม่สามารถใช้วิธีคุมกำเนิดแบบทั่ว ๆ ไปได้ เพราะฉะนั้นแพทย์ที่แผนกส่งเสริมการมีบุตร และครอบครัว ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็พร้อมให้คำปรึกษาในการวางแผนการคุมกำเนิดให้กับผู้ที่มีความต้องการวางแผนการมีบุตรเมื่อพร้อม 

2. ด้านประสิทธิภาพ องค์การอนามัยโรคได้แบ่งการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพเอาไว้  โดย 5 อันดับแรก ซึ่งมีอัตราความล้มเหลวน้อยกว่า 1% ใน 1 ปีแรก ได้แก่ 

2.1 การฝังยาคุมกำเนิด วิธีนี้มีความแน่นอน 
2.2 การทำหมันชาย 
2.3 การใส่ห่วงอนามัยชนิดมีโฮโมน 
2.4 การใส่ห่วงอนามัยชนิดมีไม่มีโฮโมน
2.5 การทำหมันหญิง 


20240210-b-02.jpg



▪️ 5 เหตุผล ที่การฝังยาคุม เป็นวิธีได้รับความนิยม 

1. สะดวก ประสิทธิภาพเท่าทำหมัน
2. ไม่มีผลต่อมวลกระดูกในวัยรุ่น 
3. 50% ประจำเดือนมาปกติ 
4. ใช้ในสตรีให้นมบุตรได้ 
5. ไม่มีผลต่อน้ำหนักตัว 


20240210-b-03.jpg

▪️ 4 เหตุผลที่ควรบอกลา “ยาคุมฉุกเฉิน”

1. ประสิทธิภาพต่ำ 
2. ต้องกินภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์
3. กินหลังไข่ตกไม่เกิดผล
4. ประจำเดือนผิดปกติ 



20240210-b-01.jpg

▪️ วิธีการฝังยาคุม 

- การฝังยาคุม ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด อุปกรณ์มีขนาดเท่าก้านไม้ขีด ยาว 4 ซม. ในแท่งยามีฮอร์โมนโปรเจสติน

- ฝังอยู่บริเวณต้นแขนด้านใน แท่งยาไม่สลายเอง ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที ในการฝังยา 

- ป้องกันการตั้งครรภ์ได้นานถึง 3 ปี 

- ยับยั้งการตกไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกบาง 

การฝังเข็มไม่เจ็บ เพราะแพทย์จะฉีดยาชาให้ ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย โดยมีการฝังยาคุม 2 แบบ คือการฝังแบบหลอดเดียว จะคุมกำเนิดได้ 3 ปี และถ้าฝังแบบ 2 เข็ม จะคุมได้ 5 ปี 

ซึ่งวิธีการคุมกำเนิดด้วยการฝังยาคุมนี้จะเหมาะกับวัยรุ่นมาก ไม่ต้องเป็นกังวล เหมือนการรับประทานยาคุมกำเนิด ที่อาจจะหลงลืมกินได้ และประสิทธิภาพในการป้องกันที่ด้อยกว่า รวมทั้งมีผลข้างเคียงระยะยาวมากกว่า

ผลข้างเคียงจากการฝังยาคุมอาจจะมีบ้าง เช่น หน้ามัน สิวขึ้น บางคนมีเลือดออกกะปริบกะปรอย บางคนไม่มีประจำเดือนเลยในช่วงประมาณ 1 - 2 ปีแรก หรือบางคนมีเป็นรอบ ๆ หรือมีน้ำหนักเพิ่มบ้าง ทำให้บางคนตัดสินให้แพทย์เอายาออกไป 

ดังนั้นจึงมาควรมาขอคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อรับวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล

ปัจจุบันรัฐบาลให้การสนับสนุนการคุมกำเนิด  ประชาชนสามารถรับบริการ “ฟรี” จากสถานพยาบาลของรัฐ สำหรับการฝังยาคุมเมื่อก่อนจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 - 2,500 บาท 

ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี มีคนไข้มารับบริการการฝังยาคุมกำเนิด วันละ 9 - 10 คน ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะชอบวิธีนี้ เพราะมีความสะดวกกว่าการทานยาเม็ดคุมกำเนิด

สำหรับเด็กวัยรุ่น อาจจะไปกับผู้ปกครองเพื่อรับบริการฝังยาคุมได้ แต่ปัจจุบันมีพ.ร.บ.วั ยรุ่น ที่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง ซึ่งเด็กสามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเองในเรื่องสิทธิเจริญพันธุ์ อาจจะมารับบริการได้ด้วยตนเอง 



▪️ หากพร้อมจะมีบุตร จะต้องทำอย่างไรหากฝังยาคุมอยู่ 

วิธีฝังยาคุม เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ เมื่อพร้อมจะมีบุตร ก็สามารถมาเอายาคุมที่ฝังไว้ออกไป และสามารถมีบุตรได้ทันที ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการวางแผนมีบุตร หรือดีกว่าการฉีดยาคุมกำเนิด ที่อาจจะใช้เวลานานขึ้นเมื่อต้องการมีบุตรอาจต้องรอ 9 - 10 เดือนกว่าที่ไข่จะกลับมาตกอีกรอบ 

การฝังยาคุมกำเนิด แนะนำให้ฝังหลังมีประจำเดือนใหม่ๆ เพื่อป้องกันการฝังยาคุมขณะที่ตั้งครรภ์อยู่ ทั้งนี้ยาฝังเพื่อคุมกำเนิดจะใช้เวลา 80 - 90 ชั่วโมงที่จะกดให้ตกไข่ได้ ซึ่งแนะนำว่าหลังฝังยาใหม่ ๆ ผู้ป่วยอย่าเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ ควรรออย่างน้อย 7 วันขึ้นไป เพื่อให้ยาออกฤทธิ์เสียก่อน




รับชมวิดิโอ : https://youtu.be/YwlcTwv1AxI?si=Ih5M12WAlaxoKEpF



ติดต่อโฆษณา!