สุขภาพจิตเด็กไทย อ่อนไหวกว่าที่คิด
"ความเครียด" ไม่ใช่แค่เรื่องของผู้ใหญ่อีกต่อไปแล้ว เพราะเด็กก็เครียดเป็นเหมือนกัน จะแตกต่างกันก็เพียงสาเหตุของความเครียดเท่านั้น โดยปัจจุบัน เด็กและวัยรุ่นในประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาด้านสุขภาพจิตมากขึ้นเรื่อย ๆ ปัญหาที่พบมากที่สุด คือ ความเครียดและความวิตกกังวล ปัญหาความรัก และภาวะซึมเศร้า
นอกจากนี้ กรมสุขภาพจิต เผยยังพบเด็กไทยมีพัฒนาการล่าช้า และปัญหาการกลั่นแกล้งรังแกกันในโรงเรียน (Bullying) ภาวะซึมเศร้า และพยายามฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น
สาเหตุ
- ครอบครัว เช่น ความรุนแรงในครอบครัว, พ่อแม่ทะเลาะกัน หรือ ถูกตำหนิบ่อยๆ
- การเลี้ยงดูและความคาดหวัง
- โรงเรียน เช่น ครูดุหรือเข้มงวดเกินไป, ลงโทษรุนแรง, การบ้านเยอะ หรือ เพื่อนแกล้ง ล้อเลียน ไม่คบด้วย
- การปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง เช่น การย้ายโรงเรียน, การย้ายบ้าน หรือ พ่อแม่เลิกรา
อาการ
- ความผิดปกติด้านการกิน/การนอน
- การแสดงอารมณ์ที่แปรปรวนหรือรุนแรง ผิดไปจากเดิม หงุดหงิดง่ายหรือซึมเศร้า
- พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น มีอาการทางสุขภาพอย่างปวดท้องหรือปวดท้อง, ไม่ใส่ใจดูแลสุขอนามัยของตนเอง, การกระทำที่มากไป/น้อยไปจนเกินพอดี, วิตกกังวล, สับสนและย้ำคิดย้ำทำ
- เก็บตัวหรือหลีกหนีสังคม
การตรวจ
- ลักษณะทั่วไป รูปร่าง หน้าตา กริยา ท่าทาง ว่าผิดปกติหรือไม่
- การพูดและการใช้ภาษา
- ควรดูว่าเด็กมีความคิดอย่างไรเกี่ยวกับปัญหาของตน
- ตรวจโดยสังเกตว่าเด็กมีอารมณ์เป็นอย่างไร
- สังเกตว่าเด็กสามารถรับรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กตามปกติ หรือเด็กไม่สนใจในสถานที่ บุคคล และสิ่งรอบตัว
- สังเกต สมาธิ การเคลื่อนไหว
- สังเกตความสัมพันธ์กับคนอื่นและการปรับตัว
- ตรวจสอบ ระดับเชาวน์ปัญญาของเด็ก
- การตรวจร่างกายทั่วไป และในบางครั้งจำเป็นต้องมีการตรวจละเอียดในบางระบบ เช่น ระบบประสาท
แนวทางการรักษา
- การฟื้นฟูสภาพจิตใจด้วยการให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวและจัดการอารมณ์
- การทำจิตบำบัดโดยผู้เชี่ยวชาญ
- การทำครอบครัวบำบัด
- การใช้กิจกรรมบำบัดหรือกลุ่มบำบัด
- การใช้ยาในการรักษา
การป้องกัน
- สร้างความเชื่อใจ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกกล้าพูดคุยเปิดเผย บอกสิ่งต่างๆ กับพ่อแม่เพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัย สื่อสารพูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอด้วยเหตุผล เป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับลูก
- ปลูกฝังทัศนคติเชิงบวก ไม่เปรียบเทียบลูกกับคนอื่น ชื่นชมเมื่อลูกทำได้ดี แสดงความรักต่อกันเสมอ และสอนให้ลูกรู้จักยอมรับความแตกต่าง
- สอนให้รู้จักรับมือกับความเครียด รู้จักอารมณ์ต่างๆ และการแสดงออก ที่สำคัญ ให้ลูกรู้จักควบคุมตัวเอง รู้จักอดทนรอคอย
- ทำกิจกรรมสานสัมพันธ์ในครอบครัว เริ่มต้นจากการมีเวลาให้กันเสมอ หมั่นพูดคุยกับลูก มีเวลาทำกิจกรรมร่วมกัน และควบคุมการใช้เวลาบนโลกออนไลน์อย่างเหมาะสมกับวัย
สัญญาณและอาการต่างๆ ที่ลูกแสดงออกนั้น บางครั้งเกิดขึ้นโดยที่พวกเขาเองไม่รู้ตัว หรือไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นการสังเกตอย่างใส่ใจและเริ่มหาวิธีแก้ปัญหาแต่เนิ่น ๆ จะสามารถช่วยให้อาการลูกดีขึ้น
หากมีผู้ปกครองพบบุตรหลานมีพฤติกรรมหรือการแสดงอารมณ์ที่ผิดปกติต่างไปจากเดิม หรือมีความรุนแรงมากขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและตรวจรักษาอย่างทันท่วงที ด้วยความปรารถนาดีจาก #ทันข่าวสุขภาพ
รับชมวิดีโอ : https://youtu.be/2A56bq7vg3o?si=MnlUja0Ctc9KOtfU