ยอดติดเชื้อโควิดพุ่งพรวดรับหน้าฝน ตายเพิ่ม 16 ราย

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ภายในประเทศ สัปดาห์ล่าสุด สัปดาห์ที่ 25 ระหว่างวันที่ 23 - 29 มิ.ย. 67 พบผู้ป่วยใหม่เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลพุ่งพรวด 3,256 ราย เฉลี่ยรายวัน จำนวน 465 ราย/วัน เสียชีวิตอีก 16 ราย ขณะที่สัปดาห์ก่อนหน้า มีผู้ป่วยใหม่เข้าโรงพยาบาล 1,823 ราย และเสียชีวิต 12 ราย

ในจำนวนนี้ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม 608 และมีผู้เสียชีวิตที่อยู่ในกลุ่มอายุ 20-49 ปี ในรอบสัปดาห์นี้ด้วยจำนวน 2 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยปอดอักเสบอีกจำนวน 709 ราย และมีผู้ป่วยที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจอีก 336 ราย

เมื่อรวมยอดสะสมจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ต้นปีมีจำนวน 31,205 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 172 ราย

ก่อนหน้านี้ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโรคระบบทางเดินหายใจ ได้ออกเตือนถึงแนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และอาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงฤดูฝนนี้ รวมถึงไข้หวัดใหญ่ด้วย

“โควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ยังระบาดต่อเนื่อง ขณะนี้ไวรัสโควิด-19 มียอดผู้ติดเชื้อสูงแซงหน้าไวรัสไข้หวัดใหญ่ และในช่วงฤดูฝนเชื่อว่าไวรัสทางเดินหายใจและไข้เลือดออกจะกลับมาระบาดหนักกว่าปีก่อน” นพ.มนูญ ระบุ

ทั้งนี้คำแนะนำป้องกันการติดเชื้อ สำหรับคนทั่วไปควรหมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร หรือก่อนเอามือมาขยี้ตาแคะจมูก 

ควรสวมหน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในสถานที่แออัดอากาศถ่ายเทไม่สะดวก และในสถานพยาบาล   เมื่อตัวเองป่วยควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น 

นอกจากนี้ แนะนำรีบฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เพิ่ม 1 เข็มในปีนี้  สำหรับคนกลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่ม 608 ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด หรือยังไม่เคยติดเชื้อไวรัสโควิดแม้แต่ครั้งเดียว ควรฉีดวัคซีนป้องกันโควิดรุ่นใหม่ 1 เข็ม

กรมควบคุมโรคยังมีคำเตือนเพิ่มเติมอีกว่า ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ให้ระวังเด็กเล็กจะป่วยโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ผู้ปกครองให้เฝ้าระวังสังเกตอาการป่วยระบบทางเดินหายใจจากโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุ 0 - 2 ปี เสี่ยงป่วยง่าย และพบการระบาดสูงในช่วงฤดูฝน

นอกจากนี้พบว่าไข้หวัดใหญ่เริ่มระบาดในสถานศึกษา โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ซึ่งส่งผลให้เด็กนักเรียนต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือพักรักษาอาการที่บ้านจำนวนมาก เนื่องจากมีไข้สูง ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว ไอ จาม เป็นต้น ดังนั้นจึงควรป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด และล้างมือบ่อย ๆ  ตามคำแนะนำข้างต้น