“ไทย” จ่อซื้อวัคซีน Pfizer ครอบคลุม 12 ปีขึ้นไป สธ. ปฏิเสธเคยได้รับข้อเสนอขาย 13 ล้านโดส
Highlight
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ชี้แจง บริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ไม่เคยเสนอขายวัคซีนโควิด19 ให้ไทย 13 ล้านโดส ล่าสุดเตรียมจองซื้อแล้ว หลังมีข้อมูลใช้ได้ในอายุ 12 ปีขึ้นไป จัดเก็บในอุณหภูมิสูงขึ้นได้ สะดวกต่อการขนส่ง พร้อมส่งให้ไทยได้ในไตรมาส 3
เมื่อวานนี้ (27 เม.ย.64) นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ชี้แจงว่าสถาบันวัคซีนแห่งชาติและไฟเซอร์ (ประเทศไทย) ได้ร่วมกันตรวจสอบกรณีการส่งต่อข้อมูลทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการเจรจาจัดซื้อวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) พบว่ามีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนทำให้เกิดความเข้าใจผิด 3 ประเด็นหลัก ดังนี้
1. บริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) “ไม่เคย” เสนอขายวัคซีนโควิด-19 ให้ไทย 13 ล้านโดส
ไฟเซอร์ได้นำตัวเลขแผนการจัดหาวัคซีนของไทยช่วงปี 2563 ที่มีแผนการจัดซื้อวัคซีนแบบทวิภาคีหรือซื้อตรงกับผู้ผลิตคิดเป็น 10% ของจำนวนประชากร หรือประมาณ 6.5 ล้านคนรวม 13 ล้านโดส ไปเสนอบริษัทแม่ (Head Office) ว่าจะมีวัคซีนเพื่อนำเสนอขายให้ประเทศไทยหรือไม่ จึง “ไม่ใช่” ตัวเลขที่เสนอขายให้ไทย
2. การซื้อวัคซีนไม่ต้องใช้เงินซื้อ มีวัคซีนให้ใช้ก่อนค่อยจ่ายทีหลัง “ไม่เป็นความจริง”
เอกสารสัญญาการจองซื้อจากไฟเซอร์ทุกฉบับที่เจรจากันมาตั้งแต่ต้นปี 2564 มีเงื่อนไขการจองที่ต้องวางเงินมัดจำทั้งสิ้น และไม่มีข้อเสนอจัดส่งวัคซีนให้ใช้ก่อนแต่อย่างใด ซึ่งในสถานการณ์ที่แย่งชิงวัคซีนกันทั่วโลก ไม่มีบริษัทใดให้ใช้วัคซีนก่อนแล้วจ่ายเงินภายหลัง
3. ไฟเซอร์ (Pfizer) เสนอรัฐบาล 4 รอบแต่ถูกปฏิเสธ “ไม่เป็นความจริง”
มีการเจรจามาโดยตลอด ทำให้ได้รับทราบข้อมูลการพัฒนาวัคซีนของไฟเซอร์อย่างต่อเนื่อง เช่น ความคงตัวของวัคซีนจากข้อจำกัดที่ต้องเก็บวัคซีนในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียสเหลือเพียง -20 องศาเซลเซียส ทำให้สะดวกในการจัดเก็บและขนส่งในไทยมากขึ้น การใช้วัคซีนในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปซึ่งกำลังรออนุมัติจาก อย.สหรัฐอเมริกา รวมถึงเงื่อนไขที่สามารถจัดส่งวัคซีนได้ในช่วงต้นของไตรมาส 3 ทำให้การเจรจามีความเป็นไปได้มากขึ้น
ส่วนปัจจัยที่ทำให้ “ไทย” เตรียมจองซื้อวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ได้แก่
1. สะดวกในการจัดเก็บและขนส่งในไทยมากขึ้น
ความคงตัวของวัคซีนจากข้อจำกัดที่ต้องเก็บวัคซีนในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียสเหลือเพียง -20 องศาเซลเซียส
2. การใช้วัคซีนในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป (กำลังรออนุมัติจาก อย.สหรัฐอเมริกา)
ช่วยปิดช่องว่างกลุ่มประชากรนักเรียน ที่มีแนวโน้มอาจทำให้เกิดการระบาดขนาดใหญ่ได้ จากการมารวมกลุ่มกันในโรงเรียน
3. แนวโน้มจัดส่งวัคซีนได้ในช่วงต้นของไตรมาส 3
นายแพทย์นคร กล่าวด้วยว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายจัดหาวัคซีนโควิด 19 ให้ได้ 100 ล้านโดสโดยได้เจรจากับผู้ผลิตวัคซีนหลายราย ทั้งเรื่องจำนวนวัคซีนและระยะเวลาส่งมอบ เงื่อนไขสำคัญคือต้อง “ส่งมอบได้ภายในปีนี้”
ส่วนวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตในไทยโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ถือว่าประสบความสำเร็จส่งตรวจคุณภาพแล้ว 2 รุ่นการผลิต และรุ่นการผลิตถัดไปอยู่ระหว่างรอผลการตรวจคุณภาพจากห้องปฏิบัติการกลางที่สกอตแลนด์และสหรัฐอเมริกา พร้อมกับยืนยันว่าจะผลิตและส่งมอบวัคซีนให้ได้ตามแผนที่กำหนด “ต้นเดือนมิถุนายนหรืออาจเร็วกว่านั้น”
#รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์คลิกอ่านทันข่าว