JAMA รายงานวัคซีน Sinopharm ครั้งแรก ! ประสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 มากกว่า 70%
HighLight
“Sinopharm”กลายเป็นตัวเลือกใหม่ล่าสุดของ “คนไทย” หลังจาก “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” เตรียมแถลงข่าวร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขวันพรุ่งนี้(28 พ.ค. 64) ถึงแนวทางนำเข้าวัคซีน “Sinopharm” ของจีน ขณะเดียวกัน วารสารการแพทย์ของสมาคมการแพทย์อเมริกันหรือ
JAMA ก็เพิ่งเผยแพร่รายงานประสิทธิภาพ Sinopharm ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ออกมา
เมื่อวานนี้ เป็นครั้งแรก !ระบุว่า แม้ Sinopharm ผลิตจาก 2 แหล่ง แต่ก็มีประสิทธิภาพป้องกัน
โควิด-19 มากกว่า 70% ทั้งคู่
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (26 พ.ค. 64) The Journal of the American Medical Association (JAMA) หรือ วารสารการแพทย์ของสมาคมการแพทย์อเมริกัน เผยแพร่ผลการวิเคราะห์เบื้องต้น การทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 “Sinopharm” เป็นครั้งแรก ซึ่งเริ่มต้นเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม ปีที่แล้ว
วัคซีน Sinopharm ชื่อเดียวกัน แต่ผลิตจาก 2 แหล่ง
รายงานการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 วัคซีนโควิด-19 “Sinopharm” เก็บข้อมูลวัคซีนที่ผลิตมาจาก 2 แหล่ง ได้แก่ 1. สถาบันวัคซีนเมืองอู่ฮั่น และ 2. สถาบันวัคซีนกรุงปักกิ่ง
JAMA ชี้ Sinopharm ทั้ง 2 แหล่ง มีประสิทธิภาพมากกว่า 70%
กลุ่มตัวอย่าง : 40,382 คน (จาก 2 กลุ่ม ได้แก่ วัคซีนที่ผลิตจากเมืองอู่ฮั่นกับกรุงปักกิ่ง)
ปริมาณวัคซีนที่ได้รับ : อย่างน้อย 1 เข็ม จากทั้งหมด 2 เข็ม
ผลการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 :
- วัคซีน Sinopharmที่ผลิตจากเมืองอู่ฮั่น : พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 26 คน แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้ 72.8%
- วัคซีน Sinopharmที่ผลิตจากกรุงปักกิ่ง : พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 21 คน แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้ 78.1%
ผลข้างเคียง : เจ็บแขน , ปวดศีรษะ
Sinopharm เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงยาก
รายงานสรุปผลการทดลองทางคลินิกแบบสุ่มการรักษาผู้ใหญ่ (18-59 ปี) ด้วยวัคซีน SARS-CoV-2 ชนิดเชื้อตาย ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีนัยสำคัญ และอาการไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงเกิดขึ้นได้ยาก
วัคซีน Sinopharm จากกรุงปักกิ่ง ได้รับการอนุมัติใช้กว่า 70 ประเทศทั่วโลก
วัคซีนโควิด-19 ของ Sinopharm ผลิตจากกรุงปักกิ่ง หรือในนาม Beijing Institute of Biological Products Co., Ltd ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นวัคซีนรายที่ 5 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวัคซีนที่พัฒนาและผลิตโดยประเทศจากเอเชีย “รายแรก” ที่ผ่านการรับรอง นอกจากนี้ ยังได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินกว่า 70 ประเทศภูมิภาคทั่วโลก และองค์กรต่างๆ
การประเมินประสิทธิภาพ Sinopharm ยังคงดำเนินต่อไป
JAMA ระบุว่า การทดลองยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ และการประเมินประสิทธิภาพการป้องกันโควิด-19 ในระยะยาวยังคงดำเนินต่อไป
แหล่งที่มา :