Home Isolation มีแนวทางอย่างไร ? เมื่อผู้ติดโควิด-19 ต้องกักตัวอยู่บ้าน

HighLight

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติของผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียว เพื่อให้โรงพยาบาลสนาม สามารถบริหารจัดการเตียงให้กับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก (กลุ่มสีเหลืองและสีแดง) ได้

เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย. 64) นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ขยายเป็นวงกว้างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาจทำให้การรองรับของสถานพยาบาลไม่เพียงพอต่อปริมาณผู้ป่วย กรมการแพทย์ จึงได้มีแนวทางปรับการรักษาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยให้กลุ่มผู้ป่วยที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ (กลุ่มสีเขียว) สามารถกักตัวรักษาได้ที่บ้าน หรือที่เรียกว่า Home Isolation ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ พยาบาล ซึ่งจะทำให้โรงพยาบาลสนาม สามารถบริหารจัดการเตียงให้กับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก (กลุ่มสีเหลืองและสีแดง) ได้

 

หลักเกณฑ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่สามารถกักตัวอยู่บ้านได้

1. อายุน้อยกว่า 60 ปี ไม่มีอาการ (Asymptomatic Cases) มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง

2. อยู่คนเดียว หรือ มีผู้อยู่ร่วมที่พักไม่เกิน 1 คน

3. ไม่มีภาวะอ้วน (ภาวะอ้วน หมายถึง ดัชนีมวลกาย > 30 กก./ม.² หรือ น้ำหนักตัว > 90 กก.)

และข้อ 4. สำคัญที่สุด จะต้องไม่ป่วยเป็นโรคดังต่อไปนี้ ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคไตเรื้อรัง (CKD) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ และโรคอื่น ๆ

ตามดุลยพินิจของแพทย์ และผู้ป่วยยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเองอย่างเคร่งครัด

 

ข้อปฏิบัติของผู้ติดเชื้อ ระหว่างกักตัวอยู่บ้าน มีดังนี้  

1. ห้ามผู้ใดมาเยี่ยมบ้านระหว่างแยกกักตัว

2. ไม่เข้าใกล้ หรือสัมผัสกับผู้สูงอายุ หรือเด็ก อย่างเด็ดขาด ด้วยการรักษาระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร

3. แยกห้องพัก ของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่น หากแยกห้องไม่ได้ควรแยกบริเวณที่นอนให้ห่างจากคนอื่นมากที่สุด และควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ควรนอนร่วมกันในห้องปิดที่ใช้เครื่องปรับอากาศ

4. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน ควรรับประทานในห้องของตนเอง หรือหากรับประทานอาหารด้วยกันควรแยกรับประทานของตนเอง ไม่รับประทานอาหารร่วมสำรับเดียวกัน หรือใช้ช้อนกลางร่วมกัน และรักษาระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 2 เมตร

5. สวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ตลอดเวลาที่จะออกมาจากห้องที่พักอาศัย

6. ล้างมือด้วยสบู่ หรือทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ที่จำเป็นจะต้องสัมผัสกับผู้อื่น หรือหยิบจับของที่จะต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น

7. แยกซักเสื้อผ้า ผ้าขนหนู และเครื่องนอน ด้วยน้ำและสบู่ หรือ ผงซักฟอก ควรใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่น

หากเลี่ยงไม่ได้ ให้ใช้คนสุดท้าย ปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำ และหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ

 

ถ้าอาการแย่ลง รีบติดต่อโรงพยาบาล

สิ่งสำคัญ คือ หมั่นสังเกตอาการตนเอง วัดอุณหภูมิทุกวัน หากมีอาการแย่ลง คือ มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เช่น หอบ เหนื่อย ไข้สูงลอย ไม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ให้รีบโทรติดต่อโรงพยาบาลที่ท่านรักษาอยู่

 

ห้ามไปโรงพยาบาลด้วยรถสาธารณะ

เมื่อต้องเดินทางไปโรงพยาบาลให้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ไม่ใช้รถสาธารณะ พร้อมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เดินทาง ถ้ามีผู้ร่วมยานพาหนะมาด้วย ให้เปิดหน้าต่างรถ เพิ่มการระบายอากาศ เพื่อความปลอดภัยแก่คนรอบข้าง

 

กระทรวงสาธารณสุข ให้ปรอทวัดไข้ ที่วัดออกซิเจน บางรายจะให้กินยา Favipiravir

กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จะให้ปรอทวัดไข้ ที่วัดออกซิเจน แก่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่กักตัวอยู่บ้าน (Home Isolation) เพื่อติดตามอาการเบื้องต้น

ส่วนบางรายที่มีปัจจัยเสี่ยง แต่ยังไม่มีอาการ อาจจะให้กินยา Favipiravir ซึ่งจะติดตามอาการผ่านวิดีโอคอล รวมทั้งเยี่ยมบ้าน และประสานภาคประชาสังคมร่วมติดตามดูแลผู้ป่วย ส่วนรายที่มีอาการหนัก จะรีบประสานเตียงให้เข้าสู่การรักษาโดยเร็ว


แหล่งที่มา :

https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/1203757006756770

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=2138224086320348&id=643148052494633

#รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์คลิกอ่านทันข่าว