25 กรกฎาคม 2564
2,443

กักตัวอย่างไร ? ไม่ให้แพร่เชื้อโควิด-19 คนในบ้าน

กักตัวอย่างไร ? ไม่ให้แพร่เชื้อโควิด-19 คนในบ้าน
HighLight :

กรมควบคุมโรค แนะผู้ที่มีประวัติอาจสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ควรกักตัวเองที่บ้านหรือที่พักอาศัย 14 วัน พร้อมกับสร้างความปลอดภัยให้ตัวเองและสมาชิกในบ้าน ด้วยการแยกห้องหรือพื้นที่ แยกกินข้าว แยกอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัว เน้นอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ถ้ามีไข้เกิน 37.5 องศา และไอ มีน้ำมูก เหนื่อยง่าย  อ่อนเพลีย ท้องเสีย รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ อสม. ใกล้บ้านทันที

สถานการณ์โควิด-19 ในไทยขณะนี้ ยอดติดเชื้อรายวันทะลุหลักหมื่น 9 วันติดต่อกันแล้ว และวันนี้สถิติใหม่ ทะลุ 1.5 หมื่นคนเป็น “ครั้งแรก” อีกด้วย ดังนั้น ถ้าคุณมีประวัติอาจสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ คุณก็ต้องกักตัวเองที่บ้านหรือที่พักอาศัย เป็นเวลา 14 วัน แต่หลายคนก็ไม่ได้อยู่บ้านเพียงลำพัง แถมสายพันธุ์ Delta กับ Alpha ที่ระบาดหนักในไทยขณะนี้ ติดเชื้อกันได้ง่ายกว่าระลอกที่แล้ว ยิ่งทำให้ข้อปฏิบัติการกักตัวเองในบ้าน ต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้นไปอีก

 

การกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ทำอย่างไร ? ไม่ให้แพร่เชื้อโควิด-19 แก่คนในบ้าน “ทันข่าว Today” รวบรวมข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มาให้ติดตามกัน

 

ข้อแนะนำในการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ปฏิบัติดังนี้

  1. จัดสถานที่พักและอุปกรณ์เครื่องใช้ให้พร้อมเน้นแยกที่พักให้เป็นสัดส่วน เช่น ห้องนอน ที่นอน หากแยกไม่ได้ อาจใช้แผ่นกระดาษหรือพลาสติกกั้นห้อง เพื่อแบ่งสัดส่วนชั่วคราว เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวก
  2. เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร
  3. แยกของใช้ส่วนตัว
  4. แยกห้องน้ำ หากแยกไม่ได้ ให้ใช้เป็นคนสุดท้ายและทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทันที ทำความสะอาดฆ่าเชื้ออุปกรณ์ภายในบ้านด้วยน้ำผสมผงซักฟอก น้ำผสมน้ำยาฟอกขาว หรือแอลกอฮอล์ 70%กรณีใช้ชักโครก ให้ปิดฝาทุกครั้งก่อนกดชักโครก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ทิ้งขยะในถุงและมัดปากถุงให้แน่น ก่อนนำไปทิ้งรวมกับขยะทั่วไป
  5. เน้นการดูแลอนามัยส่วนบุคคล ด้วยการล้างมือฟอกด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล 70% ทุกครั้งก่อนและหลังสัมผัสสิ่งของที่ต้องใช้ร่วมกับคนอื่น
  6. ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ไม่คลุกคลีกับคนอื่น
  7. แยกซักเสื้อผ้าเอง
  8. งดการสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยงชั่วคราว เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถติดไปกับขนสัตว์ได้
  9. แยกกินอาหาร ถ้าผู้อื่นจัดหาอาหารให้ ควรกำหนดจุดรับอาหารเพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรง
  10. เฝ้าระวังอาการป่วยตนเองระหว่างกักตัว ด้วยการใช้ปรอทตรวจวัดไข้ทุกวัน และสังเกตอาการผิดปกติ หากพบว่ามีไข้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส และมีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก หอบเหนื่อย ตาแดง จมูกไม่ได้กลิ่นหรือลิ้นไม่รับรส มีผื่นขึ้น ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องเสีย อาเจียน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านหรืออาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) ทันที เพื่อเข้าสู่ระบบการดูแลตามขั้นตอนต่อไป หากมีข้อสงสัยขอรับคำปรึกษาทางสายด่วนควบคุมโรค โทร. 1422

 

ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด 19 มีอัตราการติดเชื้อร้อยละ 11.83  

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้ประเทศไทย ยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่แสดงอาการป่วยและไม่แสดงอาการป่วยแต่สามารถแพร่เชื้อติดต่อไปยังคนอื่นได้ ทำให้จำนวนผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อมีมากขึ้นตามไปด้วย ผลจากการดำเนินการสอบสวนเพื่อควบคุมโรคในพื้นที่หลังจากมีรายงานผู้ป่วยรายใหม่จากทั่วประเทศจนถึงขณะนี้ พบว่าผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด 19 มีอัตราการติดเชื้อร้อยละ 11.83  ซึ่งยังอยู่ในอัตราที่สูง

 

ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ Delta 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ 5-8 คน !!!

เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ที่เป็นปัญหาหลักของไทยขณะนี้ คือสายพันธุ์ Delta และ Alpha ที่ติดต่อกันได้ง่าย ซึ่งผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ Delta 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ 5-8 คน ส่วนเชื้อสายพันธุ์ Alpha 1 คน แพร่เชื้อได้ 4-5 คน

 

กักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน สกัดกั้นการแพร่ระบาด

นายแพทย์โอภาส กล่าวว่า มาตรการที่จะสกัดกั้นการแพร่ระบาดให้ยุติโดยเร็วที่สุด เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ลดการเสียชีวิตและผลกระทบอื่น ๆ คือ การป้องกันการติดเชื้อและควบคุมไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปมากกว่านี้ จะต้องดำเนินการร่วมกันทุกฝ่ายไปในแนวทางเดียวกันอย่างเข้มข้น กรมควบคุมโรคจึงขอความร่วมมือประชาชนที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิดระหว่างที่ใช้ชีวิตประจำวัน ขอให้กักตัวเองที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน เป็นช่วงที่เชื้อฟักตัวเพื่อสังเกตอาการว่าติดเชื้อหรือไม่ สามารถดำเนินการได้ทั้งในบ้าน อาคารชุด เช่น หอพัก คอนโดมิเนียม ต่าง ๆ ทั้งประเภทอยู่คนเดียว หรืออยู่ร่วมกับครอบครัวหรือพักร่วมกับผู้อื่น สร้างความปลอดภัย ทั้งตนเองและคนในครอบครัว



20210725-a-02.jpg

ที่มาอินโฟกราฟิก: กรมควบคุมโรค

 

#รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์คลิกอ่านทันข่าว

ติดต่อโฆษณา!