“สมุทรสาครโมเดล” ผู้ว่าฯสั่งการให้ตั้งโรงพยาบาลสนามในโรงงาน มีจำนวนเตียงอย่างน้อย 10% ของพนักงาน
HighLight
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้หารือกับประธานสภาอุตสาหกรรมและสภาหอการค้าถึงมาตรการดูแลและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ต้องรอวัคซีน โดยได้ออกคำสั่งให้โรงงานหรือสถานประกอบการที่มีพนักงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไปหรือมีกำลังเครื่องจักร 50 แรงม้าขึ้นไปเกือบ 7,000 แห่งต้องจัดตั้ง "โรงพยาบาลสนามในโรงงาน" เพื่อใช้แยกกักตัวผู้ติดเชื้อโควิค -19 ในโรงงาน เพื่อแบ่งเบาภาระโรงพยาบาล
จังหวัดสมุทรสาครเคยเป็นคลัสเตอร์ใหญ่แพร่เชื้อโควิค 19 จนกระทั่งนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดติดเชื้อและเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานนับเดือนมาแล้วก่อนหน้านี้
สมุทรสาครมีโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 6,000 แห่งและในช่วงนี้ covid-19 กลับมาระบาดใหญ่อีกครั้ง ส่วนใหญ่มาจากแรงงานต่างด้าวในโรงงานหลายแสนคน จากวันละไม่กี่ร้อย เป็นวันละพันกว่าคน จนรับมือไม่ไหว ทั้งเตียงโรงพยาบาล เตียงสนาม วัคซีน
และยารักษาโรคโควิด-19 ก็ไม่เพียงพอ
นายวีระศักดิ์ ได้หารือกับประธานสภาอุตสาหกรรม และสภาหอการค้าของจังหวัด ได้ข้อสรุปว่า โมเดลใหม่สู้โควิด-19 ไม่ต้องรอวัคซีน จากนั้นก็ออกเป็นคำสั่งของจังหวัดบังคับให้โรงงานหรือสถานประกอบการที่มีพนักงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไปหรือมีกำลังเครื่องจักร 50 แรงม้าขึ้นไปเกือบ 7,000 แห่งต้องจัดตั้ง "โรงพยาบาลสนามในโรงงาน" เพื่อใช้แยกกักตัวผู้ติดเชื้อโควิค-19 ในโรงงาน Factory Accomodation Insulation( FAI)
โดยมีข้อกำหนดว่าแต่ละโรงงานต้องมีมีเตียงสนามรองรับพนักงานที่ติดเชื้อโควิด-19 ไม่น้อยกว่า 10 % ของพนักงานทั้งหมด คำสั่งให้จัดตั้งให้เสร็จภายใน 7 วัน โรงงานไหนทำไม่ได้จะสั่งปิดทันที “กลายเป็นโมเดลใหม่ที่หลายๆจังหวัดให้ความสนใจ”
โมเดลนี้เคยมีการพูดกันมาหลายครั้งว่า ให้โรงงานขนาดใหญ่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ดูแลพนักงานในโรงงานที่ติดเชื้อ ไม่ใช่ผลักภาระไปให้ทางการ ให้สังคมจนไม่มีเตียงเหลือสำหรับดูแลประชาชนที่ติดเชื้อทั่วไป แต่ยังไม่มีจังหวัดใดทำได้สำเร็จ
และในที่สุดนายวีระศักดิ์ ก็เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคนแรกที่นำมาตรการนี้มาใช้
นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครให้สัมภาษณ์กับประชาติธุรกิจว่า ก่อนที่จังหวัดจะออกประกาศบังคับโรงงานต้องทำ FAI 10% ของจำนวนพนักงานในโรงงาน ทางจังหวัดได้หารือกับสภาอุตสาหกรรมและสภาหอการค้าสมุทรสาครมาก่อนแล้ว
ในตอนแรกจะสั่งปิดโรงงานทั้งหมด 14 วันเพื่อให้ทุกคนหยุดนิ่งหยุดการแพร่กระจายเชื้อเพราะผู้ติดเชื้อในสมุทรสาครถึงขั้นวิกฤตแล้วแต่ทางสภาอุตสาหกรรมและหอการค้า เห็นว่าหากปิดทั้งหมดจะกระทบทั้งโรงงานพนักงาน เศรษฐกิจโดยรวมและรายได้การส่งออก จึงได้ต่อรองเปลี่ยนให้มาทำ FAI แทน ตอนแรกจะทำ 50% แต่มีการต่อรองกัน จนกระทั่งมาจบที่ 10% ในที่สุด
โรงงานในจังหวัดสมุทรสาครมีทั้งหมด 6,000 กว่าแห่งสมมุติว่าทำ FAI 10% ของพนักงานหรือทำโรงงานละ 10 เตียงก็จะได้เตรียมเพิ่มขึ้นมากกว่า 60, 000 เตียงให้กับผู้ติดเชื้อสีเขียวที่ไม่มีอาการ ซึ่งโรงงานรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ลดภาระโรงพยาบาลไปได้มาก ส่วนโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอยก็ได้ดูแลประชาชนแทน เท่านี้สมุทรสาครก็ปราบ covid ได้สำเร็จ ผู้ว่าจังหวัดยังได้ตั้ง ศูนย์พักคอยคนสาคร "Community Isolation (CI)” ขึ้นมาดูแลชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าตอนนี้ทางจังหวัดไม่ขอวัคซีนแล้ว แต่ขอให้ส่วนกลางส่งยามาให้เร็วที่สุด และจะใช้ชุดตรวจด้วยตัวเอง ATK ทำให้ทราบผลเร็วให้ยาได้ทันที คนป่วยก็จะหายเร็วขึ้น
“ต้องขอชื่นชม “โมเดลใหม่สมุทรสาคร” ถ้าโรงงานบริษัททุกจังหวัดทั่วประเทศทำโมเดลนี้ เราก็จะมีเตียงสีเขียวเพิ่มขึ้นมาหลายแสนเตียงทันที แต่ขอให้รัฐบาลส่งยาฟาวิพิราเวียร์ไปให้ทั่วถึงเราก็จะรอดโดยไม่ต้องรอวัคซีนเหมือนอู่ฮั่น” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
#รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์คลิกอ่านทันข่าว