รอไปก่อน 2033 เศรษฐกิจแดนมังกรถึงจะแซงมะกัน

Highlight 

   ● การคาดการณ์ล่าสุดของ JCER คือความล่าช้า 4-5 ปีก่อนที่จีนจะกลายเป็นเศรษฐกิจอันดับ 1 

   ● หนึ่งอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้มังกรจีนผงาดขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งโลกได้ตามเป้า เนื่องจากปัจจัยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของสหรัฐฯ ในปีนี้ ที่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ผลักดันผ่านรัฐสภาโดยฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ JCER คาดว่าความพยายามจะแซงหน้าด้านเศรษฐกิจของประเทศจีนขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งเหนือสหรัฐฯ อาจต้องล่าช้าออกไปถึงปี 2033 หลังจากก่อนหน้านี้ทางศูนย์ฯ ได้ประเมินไว้ที่ปี 2029 เนื่องจากข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีระดับสูง และกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ภายในประเทศจีนเอง

ตามรายงาน  อ้างถึงการขับเคลื่อนการลดคาร์บอนอย่างต่อเนื่องของจีน รวมถึงภาระหนี้ก้อนโต ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ อาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ของเอเวอร์แกรนด์ ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเวลา

การคาดการณ์ล่าสุดของ JCER คือความล่าช้า 4-5 ปีก่อนที่จีนจะกลายเป็นเศรษฐกิจอันดับ 1 เกิดหลังจากรัฐบาลจีนเข้มงวดต่อข้อจำกัดสำหรับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ และองค์กรภาคเอกชนอื่นๆ ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้ผลิตภาพแรงงานน้อยลง ขณะที่การลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้กฎระเบียบด้านการเงินอย่างเข้มงวด ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการลงทุนที่มากเกินไป ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อเรื่องนี้ 

รายงานยังอ้างอิง อีกหนึ่งอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้มังกรจีนผงาดขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งโลกไม่ได้ตามเป้า เนื่องจาก

ปัจจัยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของสหรัฐฯ ในปีนี้ ที่ได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ผลักดันผ่านรัฐสภาโดยฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อีกด้วย

ขณะที่ในปี 2027 ชาวเกาหลีใต้จะแซงหน้าญี่ปุ่นด้านความมั่งคั่งส่วนบุคคล และชาวไต้หวันจะแซงหน้าในอีกหนึ่งปีต่อมา เหตุจากความล่าช้าจากการเปลี่ยนรูปแบบการบริหารเข้าสู่ยุคดิจิทัลจากรัฐบาล และภาคส่วนอื่นๆ ที่เป็นตัวขัดขวางผลิตภาพของญี่ปุ่น

สำหรับการปรับความมั่งคั่งของเอเชียตะวันออกนั้น GDP ต่อหัวของญี่ปุ่นอยู่ที่ 39,890 ดอลลาร์ในปี 2020 ซึ่งสูงกว่า 31,954 ดอลลาร์ของเกาหลีใต้ 25% และสูงกว่า 28,054 ดอลลาร์ของไต้หวัน 42% เมื่อพิจารณาจากผลิตภาพแรงงาน จำนวนชั่วโมงทำงานโดยเฉลี่ย และอัตราการจ้างงาน 

นอกจากนี้ JCER ยังประเมินด้วยว่าประเทศตัวเอง จะตกลงมาอยู่ที่อันดับบ๊วยสุดจากทั้งสามประเทศ โดยคาดการณ์ว่า GDP ต่อหัวในเกาหลีใต้จะเติบโต 6% ต่อปีจนถึงปี 2025 และ 8.4% ในไต้หวัน ขณะที่ญี่ปุ่นมีแนวโน้มเติบโตที่อัตรา 2% เท่านั้น

อ้างอิง: 

https://asia.nikkei.com/Economy/China-s-overtaking-of-U.S.-economy-delayed-to-2033-report-says