Apple ขึ้นแท่นบริษัทเอกชนรายแรกสหรัฐ ที่มีมูลค่าตลาดแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์
Highlight
แอปเปิล อิงค์ กลายเป็นบริษัทเอกชนอเมริกันรายแรก ที่มูลค่าการตลาดสูงแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์ โดยที่ไอโฟนเป็นสินค้าทำกำไรมากที่สุด สะท้อนนักลงทุนมั่นใจการเติบโตของอุตสาหกรรมไอทีและเทคโนโลยี โดยที่หุ้นของแอปเปิล พุ่งไปแตะที่ระดับ 182.86 ดอลลาร์ ทุบสถิติสูงสุด และทำให้มูลค่ารวมของบริษัทแตะระดับสูงสูดรอบใหม่ ทั้งนี้เป็นการตอกย้ำว่าธุรกิจเทคโนโลยีเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
วันที่ 4 มกราคม 2565 เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานว่ บริษัทแอปเปิล (Apple Inc.) ได้กลายเป็นบริษัทเอกชนแห่งแรกของสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าทางการตลาดแตะระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการยอมรับของลูกค้าและนักลงทุนในความสำเร็จของแอปเปิล ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แม้โลกเผชิญการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เห็นได้จากรายงานการเติบโตของผลกำไรที่สูงเป็นประวัติการณ์ในหลายไตรมาสติดต่อกันจากแทบทุกผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท ขณะที่บริษัทกำลังมีทิศทางมุ่งสู่ตลาดใหม่ๆ อาทิ ยานยนต์ไร้คนขับ และเทคโนโลยีเมตาเวิร์ส
รายงานระบุว่า ระหว่างการซื้อขายวันแรกของปี 2022 (4 ม.ค.) หุ้นของแอปเปิล พุ่งไปแตะที่ระดับ 182.86 ดอลลาร์ ทุบสถิติสูงสุด ทำให้มูลค่ารวมของบริษัทแตะระดับสูงสูดรอบใหม่โดยปริยาย นับเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนว่า นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของยักษ์ใหญ่ไอทีเจ้านี้
และยังคาดว่าบริษัทยังคงมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก จากการที่แอปเปิลจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้ง ไอโฟน แมคบุ๊ก และบริการด้านเอนเตอร์เทนเมนต์อย่าง แอปเปิล ทีวี และ แอปเปิลมิวสิก
นอกเหนือจากตอกย้ำความมั่นใจในความแข็งแกร่งของธุรกิจแล้ว เดเนียล อีฟส์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ Wedbush Securities มองอีกว่า ความสำเร็จนี้นับเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์การบริหารและการกุมบังเหียนของนาย ทิม คุ๊ก ซีอีโอของแอปเปิลยิ่งขึ้น
สำหรับผลประกอบการ 2021 ที่ผ่านมา แอปเปิลแสดงผลการเติบโตประจำปีในทุกประเภทผลิตภัณฑ์ โดยผลประกอบการไตรมาสสี่ บริษัทมีรายรับเพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่ ไอโฟน ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนยอดขายที่ใหญ่ที่สุด ส่วนธุรกิจบริการของแอปเปิลเติบโตขึ้น 25.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี สร้างรายได้มากกว่า 18 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสดังกล่าว
ก่อนหน้านี้หุ้นของแอปเปิ้ลเคยมีมูลค่าการตลาด 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คู่กับไมโครซอฟท์ ที่ตอนนี้มีมูลค่าการตลาดราว 2.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล และอเมซอน มีมูลค่าการตลาดกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา Apple ประกาศเตรียมแจกโบนัสเป็นหุ้นและรูปแบบอื่นๆ ให้พนักงานสูงสุดถึงคนละ 6 ล้านบาท หลังพบว่าพนักงานกว่า 100 คน ได้ย้ายไปทำงานกับ Facebook หรือ Meta หลังจากที่ทาง Facebook ได้ประกาศวิสัยทัศน์ที่จะลุยธุรกิจ Metaverse อย่างจริงจังและเปลี่ยนชื่อเป็น Meta จึงมีวิศวกรมากมายต้องการเข้าร่วมทำงานกับบริษัทเพื่อพัฒนาโครงการที่น่าตื่นเต้นนี้
ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยี และการแข่งขันแย่งชิงตัวบุคลากรด้านเทคโนโลยีเพื่อมุ่งผลิตสินค้าและบริการใหม่ๆ โดยแต่ละบริษัทจึงทุ่มเทเพื่อให้พนักงานระดับหัวกะทิอยู่กับบริษัทให้มากที่สุด
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าโบนัสที่เป็นหุ้นเหล่านี้จะมีมูลค่าอยู่ระหว่าง 50,000 - 180,000 เหรียญสหรัฐต่อคน หรือมากถึง 1.7 - 6.0 ล้านบาทต่อคน จำนวนโบนัสที่ได้รับนี้จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการทำงาน และผลงานของพนักงาน ว่าสามารถทำงานได้บรรลุตามเป้าหมายของบริษัทหรือไม่
ทั้งนี้ธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ซึ่งได้แก่ Apple Inc, Meta, Microsoft หรือ Google ต่างมีวิสัยทัศน์มุ่งสู่เทรนด์โลกอนาคตด้านดิจิตัล และเมทาเวริ์ส ซึ่งดูเหมือนจะเป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่นและเติบโตมากที่สุดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19