OR จัดแผนธุรกิจปี 65 เตรียมขยายปั๊มเพิ่ม 120 แห่ง ร้านคาเฟ่อเมซอน 500 แห่ง

Highlight

บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ เปิดแผนธุรกิจปี 2565 เตรียมขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ เปิดรับหาพันธมิตรร่วมลงทุน ทั้งรายใหญ่ รายย่อย เอสเอ็มอี สตาร์ตอัพ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ และขยายสาขาสาขาสถานีบริการน้ำมันประมาด 120 สาขา และสาขาร้านาเฟ่อเมซอนอีกราว 500 สาขา

น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ เปิดเผยว่า สำหรับแผนธุรกิจและการดำเนินงานปี 2565 บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันไว้ที่ 110-120 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2,000 สาขา ขณะที่ร้านคาเฟ่ อเมซอน จะขยายสาขาเพิ่มอีก 400-500 สาขา จากปัจจุบันมีประมาณ 3,500 สาขา เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยในปี 2566 จะเพิ่มเป็น 5,000 สาขา ทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม)

นอกจากนี้ ในปี 2565 นี้จะขยายแผนการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ เพิ่มเติม โดยจะเปิดกว้างหาพันธมิตรร่วมลงทุน ทั้งรายใหญ่ และรายย่อย ที่เป็นเอสเอ็มอี และสตาร์ตอัพ เช่น ธุรกิจบริการ ท่องเที่ยว สุขภาพ ดิจิทัล โลจิสติกส์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ และจะเปิดตัวซูเปอร์แอปพลิเคชั่น ที่ตั้งเป้าหมายให้ทุกกลุ่มอายุ โหลดติดหน้าจอแรกในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะมีไลฟ์สไตล์หลาย ๆ กิจกรรมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค

“งบฯลงทุนในปี 2564 ที่ผ่านมา เดิมตั้งงบฯลงทุนไว้ที่ 20,000 ล้านบาท แต่ได้ใช้ไปประมาณ 6,000-8,000 ล้านบาท” น.ส.จิราพร กล่าว

ส่วนยอดขายน้ำมันในปี 2565 คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัว หลังจากรัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และคาดว่า ยอดขายน้ำมันของโออาร์ ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดในเดือนสิงหาคม 2564 ไปแล้ว ขณะที่ยอดขายน้ำมันอากาศยาน ปี 2565 คาดว่า จะเพิ่มขึ้น 50% ของยอดขายน้ำมันอากาศยานปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19

ขณะที่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในปีนี้นั้น จะขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังจากเปิดให้บริการศูนย์ธุรกิจค้าปลีกโออาร์ จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมกันทั้งศูนย์กระจายสินค้า (ดีซี), โรงคั่วกาแฟ, โรงผงผสม, โรงงานเบอเกอรี่

ซึ่งโรงงานต่าง ๆ ทางโออาร์ได้นำระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์มาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้ลดต้นทุนด้านบุคลากร เพิ่มความแม่นยำในการจัดส่งสินค้าบริการได้สะดวกมากขึ้น ถือเป็นโรงงานอันดับต้น ๆ ที่นำระบบทันสมัยมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ 

ล่าสุดเมื่อ 24 ธันวาคม 2564 ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท OR คร้ังที่ 11/2564 มีมติอนุมัติให้ บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด (Modulus) บริษัทย่อยของ OR เข้าลงทุนโดยการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมของ บริษัท คามุ คามุ จากัด (KAMU ) ในวงเงินไม่เกิน 480 ล้านบาท โดยภายหลังการเข้าลงทุนดังกล่าวจะทำให้ Modulus มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 25 และกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ KAMU มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 75 ใน KAMU 

โดย KAMU เป็นผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มชา และเครื่องดื่มอื่นๆ ภายใต้แบรนด์คามุที การลงทุนคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อการเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของ OR โดยเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภครวมทั้งสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกันทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ Modulus จะเข้าลงนามในสัญญา ซื้อขายหุ้นและสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นกับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม ของ KAMU ต่อไป