09 กุมภาพันธ์ 2565
3,250

GPSC ธุรกิจเรือธงด้านไฟฟ้า กลุ่ม ปตท. นักวิเคราะห์หนุนลงทุนระยะยาว ชี้โตต่อเนื่อง

GPSC ธุรกิจเรือธงด้านไฟฟ้า กลุ่ม ปตท. นักวิเคราะห์หนุนลงทุนระยะยาว ชี้โตต่อเนื่อง
Highlight

นักวิเคราะห์หลายสำนักมีมุมมองกำไรของ GPSC อ่อนตัวในช่วง Q4/64 เนื่องจากต้นทุนค่าก๊าซที่สูงขึ้นและการปิดซ่อมโรงไฟฟ้าฉุกเฉินในช่วง Q4/64 ที่ไม่ได้อยู่ในแผนล่วงหน้า แต่คาดว่ากำไรจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ Q1/65 ระยะยาวคาดว่ารายได้จากธุรกิจแบตเตอรี่ จะช่วยหนุนการเติบโตอย่างมั่นคง แนะทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว


FSS International Advisory(FSSIA) มีมุมมมองต่อผลประกอบการของ GPSC ใน Q4/64 ไม่โดดเด่นเนื่องจากการหยุดเดินเครื่องและปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าฉุกเฉินในช่วงปลายปีที่แล้วเป็นบางช่วง เข่น โรงไฟฟ้าของบริษัท Glow Energy  โดยมีการหยุดเดินเครื่องโดยไม่ได้วางแผนของ Gheco- One เป็นเวลา 28 วัน (30 ส.ค. ถึง 26 ก.ย.21) และการหยุดทำงานของ Glow Energy ระยะที่ 5 ซึ่งอาจจะสิ้นสุดเดือน มี.ค 65 นี้ 

FSSIA คาดว่ากำไรขั้นต้นจาก SPPs และ VSPPs จะหดตัวในครึ่งปีหลัง64 - 1Q/65 แต่น่าจะค่อยๆดีขึ้นใน 2Q/65 เนื่องจากคาดว่าราคาก๊าซจะอ่อนตัวลงจากอุปทานก๊าซธรรมชาติราคาต่ำจากอ่าวไทยที่สูงขึ้นและราคาน้ำมันทั่วโลกที่คาดว่าจะเริ่มลดลง ยังไม่รวมธุรกิจแบตเตอรี่

อย่างไรก็ตามจากปัจจัยการดำเนินงานที่ยังเดินเครื่องไม่เต็มที่ ประกอบกับราคาก๊าซที่สูงกว่าที่คาด ทำให้ผลประกอบการในปีที่ผ่านมาไม่โดดเด่นนัก ซึ่งคาดว่าการเติบโตของกำไรสุทธิจะชะลอตัวลง 5% เมื่อเทียบกับปี 63 ซึ่งเป็นปีที่มีกำไรโดดเด่นมากเทียบกับปีก่อนหน้าที่กำไรเพิ่มถึง 85% โดยได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรสุทธิของ Glow Energy ที่มีต่อ GPSC ทั้งปีหลังการเข้าซื้อกิจการทั้งหมด ปี 2562 

20210209-a-01.jpg

อย่างไรก็ตาม FSSIA คาดว่าการเติบโตของกำไรสุทธิของ GPSC จะฟื้นตัวเป็น 11% ในปี 2565 และ 20% ในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากค่าน้ำมันที่ลดลง กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการ และสัญญาซื้อขายไฟฟ้า SPP ใหม่ โดยที่การปิดโรงงานฉุกเฉินและผลกระทบของต้นทุนก๊าซจะสิ้นสุดภายใน 2Q22 นี้ 

ทั้งนี้คาดว่าผลประกอบการ Q2/65 จะฟื้นตัวดีขึ้น โดยคาดว่าราคาก๊าซจะอ่อนตัวลงจากอุปทานก๊าซธรรมชาติราคาต่ำจากอ่าวไทยที่สูงขึ้นและราคาน้ำมันทั่วโลกที่ลดลง การผลิตน้ำมันจากชั้นหินของสหรัฐฟื้นตัวยังไม่รวมธุรกิจแบตเตอรี่

20210209-a-03.jpg

สำหรับธุรกิจแบตเตอรี่ G-Cell ของ GPSC ซึ่งใช้เทคโนโลยี SemiSolid ใหม่ที่มีประวัติความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในระยะยาวที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ ดังนั้น FSSIA คิดว่า GPSC และ AXXIVA อาจต้องใช้เวลา 1-2 ปีในการแสดงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 

ด้วยเหตุนี้ในการวิเคราะห์จึงไม่รวมกำไรสุทธิและส่วนต่างจากการประเมินมูลค่าจากการร่วมทุนด้านแบตเตอรี่ของ GPSC ซึ่งอยู่ระหว่างรอความคืบหน้าเพิ่มเติมและการทดสอบความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์และความปลอดภัยของลูกค้าที่ประสบความสำเร็จ

แนะนำทยอยลงทุนก่อนกำไรดีดกลับใน  2Q22

FSSIA ยังคงแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับลด TP ตาม SoTP จาก 100 บาทเป็น 90 บาท เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้น และลด EPS ในปี 2021-23E ลง 5.1-11.5% 

“เราเชื่อว่า GPSC ในฐานะบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วย SPP จะยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านอัตรากำไรจากต้นทุนก๊าซที่สูงขึ้นในไตรมาส 1/22 โดยกำไรจากกิจการแบตเตอรี่ยังคงเป็นสีแดง” รีเสิร์ซระบุ 

SBI Thai Online คาดว่า GPSC จะรายงานกำไรสทุธิ 4Q/64 ที่ 2,007 ล้านบาทเพิ่มขึ้น  37.65% YoY และเพิ่มขึ้น 7.04% QoQ จากแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่ดีต่อเนื่องจาก 3Q/64 และ การรับรู้รายได้จากเงินประกันซ่อมบำรุงนอกแผนของ โรงไฟฟ้า GHECO-ONE

คาด GPSC จะรายงานผลประกอบการ 4Q64 จะมีรายได้รวมจำนวน 18,571 ล้านบาท เพิมขึ้น 12.33% YoY ผลจากแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมท่ีดีต่อเนื่องจาก 3Q/64, SBI Thai Online ระบุ

ประกอบกับบริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากเงินประกันการหยุดซ่อมบำรุงนอกแผนของโรงไฟฟ้า GHECO-ONE(ระหว่างวันที่ 30 ส.ค.64 ถึง 27 ก.ย.64) จำนวนประมาณ 1,170 ล้านบาท จึงคาดว่าจะส่งผลให้กำไร 4Q/64 อยู่ที่ 2,007 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.65% YoY และ 7.04% QoQ

20210209-a-02.jpg

ปัจจัยลบจากต้นทุนพลังงานได้แก่ราคาก๊าซธรรมชาติและน้ามันดิบในตลาดโลกที่ทรงตัวในระดับที่สูงผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา และ จีน โดยคาดอัตราส่วนต้นทุนขาย/รายได้รวม จะเพิ่มขึ้นจากระดับ 73% ใน 3Q64 มาอยู่ท่ี ระดับ 80% ใน 4Q64

ด้านบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส หรือ ASPS มีมุมมองต่อแนวโน้มผลประกอบการของ GPSC ว่ากำไรสุทธิงวด Q4/64 คาดลดลง 25.1% qoq กดดันจากกำไรปกติที่คาดจะลดลง 39.5%qoq 

โดยหลักๆมาจากทั้งรายได้การขายไฟฟ้าที่ลดลงจากช่วง Low season และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากราคาก๊าซฯ, ถ่านหิน, และการหยุดซ่อมบำรุงฉุกเฉินโรงไฟฟ้า GLOW Energy phase 5 เต็มไตรมาส ขณะที่แนวโน้มกำไรปกติงวด Q1/65 คาดจะเริ่มกลับมาฟื้นตัว QoQ จาก demand การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามช่วงฤดูกาล และแรงหนุนชดเชยบางส่วนจากค่า ft ที่เพิ่มขึ้น
 
ประเมิน FV ปี 2565 ที่ 90.0 บาท/หุ้น แนะนำให้หาจังหวะทยอยซื้อสะสมลงทุนระยะยาว รับปัจจัยพื้นฐานทิศทางกำไรปกติ Q1/65 ที่คาดจะเริ่มฟื้นตัว รวมถึงภาพทั้งปี 2565 ยังเห็นการเติบโตขึ้นได้กว่า 10.7% (yoy) ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันผ่านการปรับฐานจนเริ่มเห็น upside กว่า 15%

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่า GPSC มีกำไรสุทธิ Q4/64 ที่ 1.9 พันล้านบาท ภาพรวมถือว่าผลประกอบการไม่เด่น โดยกำไรปกติคาดทำได้เพียงประคองตัว YoY และลดลง QoQ จากปัจจัยด้านฤดูกาลของ IPP และโรงไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศลาว, การปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า, และต้นทุนเชื้อเพลิงสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ไตรมาสนี้จะมีการบันทึกเงินเคลมประกันภัยเข้ามาช่วย ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 28% YoY และทรงตัว QoQ 

ระยะยาวหุ้นยังมีความน่าสนใจจากการทยอย COD โรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง, เป็น Flagship ด้านไฟฟ้าของกลุ่ม PTT, และมาตรการส่งเสริมการใช้งาน EV จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จในธุรกิจแบตเตอรี่

ทั้งนี้ กำไรปกติ Q1/65 จะฟื้นตัวอย่างช้าๆ เพราะยังถูกถ่วงจากการปิดซ่อมโรงไฟฟ้า GLOW Phase 5 (กลับมาผลิตเดือนก.พ.) และต้นทุนเชื้อเพลิงสูงขึ้น งบ Q4/64 ไม่เด่น ปันผลไม่สูง และราคาหุ้นเต็มมูลค่า จึงไม่ต้องรีบซื้อ แนะนำรอเข้าลงทุนเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว

อ้างอิง : FSSIA, ASPS, SBI Thailand, บล.หยวนต้า, IAA Consensus

ติดต่อโฆษณา!