IMF ชี้เงินคริปโต มักได้รับความนิยมในกลุ่มประเทศที่อัตราคอรัปชั่นสูง
Highlight
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เปิดเผยรายงานวิจัยที่ระบุว่า เงินสกุลดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี มักเป็นที่นิยมเทรดมากโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการคอรัปชั่นสูง ซึ่งพบว่าประชากรในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในอัตราที่สูงเช่นกัน รายงานการศึกษาของไอเอ็มเอฟ ระบุว่า สินทรัพย์ดิจิทัลอาจถูกผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ทำธุรกรรมเพื่อการคอรัปชั่น
วันที่ 11 เมษายน 2565 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เปิดเผยรายงานวิจัยที่ระบุว่า เงินสกุลดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี มักเป็นที่นิยมเทรดมากโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการคอรัปชั่นสูง ซึ่งพบว่าประชากรในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในอัตราที่สูงเช่นกัน
รายงานการศึกษาของไอเอ็มเอฟ ระบุว่า สินทรัพย์ดิจิทัลอาจถูกผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ทำธุรกรรมเพื่อการคอรัปชั่น หรือใช้เป็นเครื่องมือในการเลี่ยงกฎเกณฑ์ด้านการควบคุมทางการเงินที่กำหนดโดยภาครัฐของประเทศนั้น อย่างไรก็ตาม รายงานของไอเอ็มเอฟไม่ได้ระบุรายชื่อประเทศอย่างชัดเจนว่ามีชาติใดบ้าง
รายงานของไอเอ็มเอฟ ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่แต่ละประเทศต้องออกมาตรการให้ผู้ใช้งานทำการรู้จักลูกค้า (Know your customer) ก่อนใช้บริการเทรดคริปโต หรือทรัพย์สินดิจิทัลชนิดอื่น ๆ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้งาน ออกแบบมาเพื่อป้องกันการฉ้อโกง การฟอกเงิน และการจัดหาเงินทุนของกลุ่มก่อการร้าย ดังเช่นในบางประเทศ อาทิ สหรัฐ ที่มีการออกมาตรการควบคุมดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟยอมรับว่า ทุกภาคส่วนควรให้ความสนใจกับรายงานการศึกษานี้ แต่จำเป็นต้องตีความอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเป็นการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างในจำนวนไม่มาก ซึ่งจัดทำโดย Statista บริษัทวิจัยข้อมูลเชิงสถิติสัญชาติเยอรมนี ผ่านการสำรวจใน 55 ประเทศ โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามราว 2,000 – 12,000 คน ในแต่ละดินแดน
รายงานดังกล่าวของไอเอ็มเอฟ มีขึ้นในช่วงเวลาที่หลายชาติพยายามออกข้อกำหนดที่เกี่ยวกับการเทรดตลาดคลิปโตเคอร์เรนซี่ ซึ่งแต่ละชาติหรือดินแดนมีความเข้มงวดและรูปแบบการคุมคริปโตที่แตกต่างกันออกไป
อินเดียขึ้นที่ 1 ประเทศที่มีคนถือคริปโตมากที่สุดในโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์ส เผยแพร่รายงานข่าว อินเดียขึ้นที่ 1 ประเทศที่มีคนถือคริปโตมากที่สุดในโลก ผลการสำรวจการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลใน 50 ประเทศทั่วโลกโดยบริษัทนายหน้าซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล BrokerChooser พบว่า อินเดียมีจำนวนผู้ถือครองสกุลเงินดิจิทัลมากที่สุดในโลกที่ 10.07 ล้านคน ตามด้วยสหรัฐ (2.74 ล้านคน) และรัสเซีย (1.74 ล้านคน)
แต่หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งหมด อินเดียจะอยู่ในอันดับ 5 โดยเกือบ 7.3% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของอินเดียถือครองสกุลเงินดิจิทัล ส่วนอันดับ 1 เป็นของยูเครน (12.73% ของประชากรทั้งหมด) ตามด้วยรัสเซีย 11.91% เคนยา 8.52% และสหรัฐ 8.31%
สำหรับนักลงทุนสกุลเงินดิจิทัลของอินเดียนั้น ส่วนใหญ่เพิ่งเข้าสู่วงการนี้เมื่อปลายปีที่แล้วซึ่งเป็นช่วงที่สกุลเงินดิจิทัลเติบโตขึ้นถึง 7 เท่า และมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นจาก 923 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว เป็น 6,600 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือน พ.ค.ปีนี้
ขณะที่ผลการวิจัยจากบริษัทที่ปรึกษา Kantar ในอังกฤษพบว่า 16% ของคนเมืองในอินเดียเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัล และส่วนใหญ่เป็นผู้ชายในวัยไม่เกิน 35 ปีที่ยอมรับความเสี่ยงได้มากกว่ากลุ่มคนที่ฝากเงินในธนาคาร โดยจะลงทุนก้อนเล็กๆ เฉลี่ย 30,000 รูปี หรือราว 13,312 บาท และสกุลเงินที่นิยมคือ Bitcoin ตามด้วย Dogecoin, Ethereum และ Binance
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ที่ถือครองสกุลเงินดิจิทัลในอินเดียถือว่าน่าแปลกใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานะทางกฎหมายของสกุลเงินดิจิทัลในอินเดีย
เมื่อปี 2018 ธนาคารกลางอินเดียประกาศแบนสกุลเงินดิจิทัลเป็นช่วงสั้นๆ ต่อมารัฐบาลเสนอแบนสกุลเงินดิจิทัลโดยห้ามถือครอง ขุด เทรด หรือทำธุรกรรมใดๆ เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทว่าสุดท้ายไม่ได้นำเข้าสภา
อ้างอิง : REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo