อวสาน LUNA ล่มสลาย… ตลาดคริปโทสะเทือน!

Highlight

ตลาดคริปโทที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดก่อนหน้านี้ เป็นตลาดที่คนรุ่นใหม่ ให้ความสนใจสูง เพราะทำกำไรได้อย่างมหาศาล แต่ด้านความเสี่ยงนั้นก็มีมากมายทั้งการถูกแฮกเงินหายจากระบบ การถูกโกงโดยการปิดเว็บเทรดหนีไป และความเสี่ยงจากตัวเหรียญที่ไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย มารอบนี้ LUNA สร้างฝันร้ายด้วยการใช้เวลา 3-4 วัน เหรียญถูกทุบจากราคา 2,300 บาท เหลือไม่ถึง 1 สตางค์ และ App Trade ต่างๆ พากันถอดเหรียญออกจากระบบซื้อขายเรียบร้อยแล้ว

ราคาเหรียญจาก 2,300 บาท เหลือไม่ถึง 1 สตางค์ในเวลาไม่ถึงเดือนทำหลายคนช็อคกับเหตุการณ์ครั้งนี้ 

เหรียญที่เป็นกระแสในขณะนี้คือ ‘LUNA’ ในเครือ Terra Chain หรือสกุลเงินดิจิทัล UST ถึงราคาลงต่ำ -99.99% จนแทบไม่มีมูลค่าและถูกถอนออกจากหลาย App trade ไปเรียบร้อย 

ตลาดคริปโทย่ำแย่ยืนแทบไม่ติด มูลค่าตลาดหายไปถึง 800,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มาอยู่ที่ราว 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่งพีคที่ราว 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในช่วงต้นปี นอกจากความกดดันเรื่องดอกเบี้ยที่ Fed จะปรับขึ้นแล้ว มาจากการถูกเทขายเหรียญ Altcoin จำนวนมาก หลังจาก LUNA ถูกถล่มขายยับอย่างเนื่องในสัปดาห์นี้



เรื่องนี้เป็นมาอย่างไร มาหาข้อสรุปกัน 

เหรียญ LUNA มีไอเดียในการสร้างเหรียญ Stablecoin ที่แตกต่างจากเหรียญอื่นๆ เป็นเหรียญที่เชื่อมโยงกันกับ USTและเคยติดอันดับเหรียญเทรด 10 อันดับแรกของโลก

ความเชื่อมโยง UST กับ LUNA

หากความต้องการ UST มีมากขึ้น และ LUNA จะถูกเบิร์นทิ้งไป หากความต้องการ UST น้อยลง LUNA ก็จะกลับมา ยกตัวอย่างง่ายๆคือ การที่จะมี UST 1 เหรียญ ก็จะต้องมีการเผา LUNA ทิ้งไป 1 เหรียญเช่นกัน และเมื่อความต้องการในตลาดมากขึ้นกว่าจำนวนเหรียญ จะทำให้มูลค่าของเหรียญมีโอกาสจะเพิ่มขึ้นเยอะตามไปด้วย ทำให้เราเห็นว่าราคาของเหรียญ LUNA ขึ้นไปเยอะมากเพราะสกุลเงิน USDT มีการใช้งานมาก และมี LFG หรือ Luna Foundation Guard ที่มีการถือบิทคอยน์ไว้เป็นเงินสำรองของระบบนี้



LUNA ดึงความสนใจนักเทรดได้อย่างไร ในขณะเหรียญอื่นราคาตก

เนื่องจากช่วงเวลาที่ตลาดคริปโทฯอื่นๆราคาลง มีแพลตฟอร์มการออมเหรียญที่ชื่อว่า Anchor Protocol ของ Terra Chain ที่ให้ดอกเบี้ยถึง 20% คนจึงนำเงินในช่วงที่ตลาดซบเซาไปแปลงเป็น USDT เพื่อที่จะใช้ Anchor Protocol ได้ ซึ่งในขณะนั้นแพลตฟอร์มการออมเงินเป็นอะไรที่ปลอดภัยที่สุด

ทฤษภีวิเคราะห์เรื่องเหรียญ LUNA จากทวิตเตอร์ที่มีชื่อว่า @OnChainWizard ได้พูดถึงว่า ได้มีคนทำการช็อตบิทคอยน์ คาดว่าจะเป็นวาฬหรือกองทุนก็เป็นได้ 

(ปลาวาฬ) ในตลาดเงินดิจิทัล หมายถึง นักลงทุนที่มีเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิทคอยน์ ไว้ในครอบครองเป็นจำนวนมาก

การโจมตีครั้งนี้ เกิดจากจุดอ่อนของระบบ Luna Foundation Guard หรือสกุลเงิน LFG ที่มีไว้ป้องกันแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และจึงเกิดการช็อตบิทคอยน์เพื่อโจมตีจุดอ่อนนี้ วิธีการคือ ซื้อ UST มาเป็นจำนวนมากและเมื่อแผนการช็อตเริ่ม ก็ดั้มลดราคาลงใส่ตลาดอย่างรวดเร็ว ทำให้ UST ไม่สามารถเติบโตได้ต่อไป และทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนสูญเสียไป และทำให้คนกังวลและเทขายเพื่อจะให้ขาดทุนน้อยที่สุด

กลไกเหล่านี้ทำให้นี่คือช่องโหว่ของ LUNA เพราะหากสกุลเงิน UST และ LUNA ไม่สามารถสลับกันเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบ LFG จะต้องทำการขายบิทคอยน์ เพื่อนำเงินมาซื้อ UST กลับ ทำให้สกุลเงินทั้งหมดถูกโจมตีอย่างสมบูรณ์ ทั้งบิทคอยน์ LUNA และ UST ราคาร่วง



กระดานเทรดถอดเหรียญ LUNA/UST

ขณะนี้ LUNA และ UST ได้ถูก Binance และ Exchange อื่นๆ ถอดเหรียญออกจากกระดานเทรดแล้ว

สื่อในเกาหลีรายงานว่า โดควอน ผู้ก่อตั้งเหรียญ LUNA ได้รีบขอความคุ้มครองจากตำรวจอย่างเร่งด่วน หลังมีนักลงทุนพอร์ตแตกหลายฝ่ายข่มขู่เข้ามา

ทวิตเตอร์ LUNA ได้แจ้งถึงการยุติบล็อกเชนและรอการฟื้นฟู อย่างไรคนที่ถือสกุลเงิน LUNA ยังคงต้องติดตามข่าวกันต่อไปว่าโดควอน จะกู้ Terra กลับมาได้หรือไม่ 

Blockchain Terra ปิดระบบ

อัปเดต วันนี้ 13 พ.ค. 65 เหรียญคริปโต LUNA Coin Cryptocurrency ประกาศตัดสินใจปิดการทำงานของ Blockchain Terra เพื่อป้องกันการโจมตีระบบที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และข่าวล่าสุดเหรียญคริปโต LUNA ร่วงไป -99.99% แตะที่ระดับ 0.000001 ดอลลาร์ อนาคตเหรียญ LUNA Coin ราคา ดิ่งฮวบ ล่มสลายตามคาด และจะเป็นบทพิสูจน์และศรัทธาที่สำคัญในการลงทุนในตลาดคริปโทหลังจากนี้





นักลงทุนถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย

การล่มสลายของ Luna ส่งผลทำให้มีนักเทรดชาวไทยเป็นจำนวนมากที่ออกมาแสดงความเศร้าโศกเสียใจ บ้างก็บอกว่าลงทุนเงินไปถึง 1.5 ล้านบาท แต่ตอนนี้เงินเหลืออยู่แค่หลักร้อย 

นอกจากนี้ยังมีนักเทรดที่คาดว่าน่าจะเป็นชาวอินเดียรายหนึ่งที่ออกมาโพสต์ว่าเพื่อนของเขาสูญเงินกว่า 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะเหรียญ Luna และพยายามที่จะฆ่าตัวตาย แต่ก็สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ทัน แต่อาการของเขาก็ไม่สู้ดีเท่าไรนัก เพราะต้องเข้า ICU 

จำไว้เสมอว่า การลงทุนคือความเสี่ยง.. เสี่ยงมากกำไรมาก และด้านขาดทุนก็มากเช่นกัน รอบนี้เป็นบทพิสูจน์ว่า การลงทุนอะไรก็ตามต้องคำนึงถึงความเสี่ยงและความรู้เท่าทัน ในสิ่งที่เราลงทุน 



การเติบโตของตลาดคริปโทในช่วงที่ผ่านมา

การเติบโตที่ก้าวกระโดดในตลาดคริปโทนั้น มาจากระบบที่เอื้ออำนวย และเปิดบัญชีที่ซื้อขายได้ง่าย

การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล สามารถลงทุนได้ง่ายๆผ่านช่องทางศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) เช่น ไบแนนซ์  (Binance),  บิทคับ (Bitkub) , สตางค์โปร (Satang Pro) หรือ ซิปเม็กซ์ (Zipmex) และอื่นๆอีกมากมาย โดยการเทรดและดูกราฟมีความคล้ายกระดานคล้ายหุ้น แต่สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

โดยผู้ซื้อขายจะต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (อายุระหว่าง 18-20 ปี ต้องยื่นเอกสารเพิ่มและได้รับความเห็นชอบจากผู้ปกครอง)

ตลาดของคริปโทเคอร์เรนซีสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง นักลงทุนจึงสามารถแบ่งออกได้เป็นหลากหลายสไตล์การลงทุน เช่น เทรดรายวัน, ถือระยะยาว, ออมสินทรัพย์ดิจิทัล, เทรดข้ามกระดาน และอื่นๆอีกมากมายซึ่งเป็นศัพท์ในวงการคริปโทเคอร์เรนซี

เทคนิคส่วนใหญ่จะเป็นการตามข่าวสารที่รวดเร็ว หาข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญดิจิทัลอย่างละเอียดก่อนการลงทุน การวางแผนในการลงทุนหรือการซื้อขาย เนื่องจากตลาดของคริปโทเคอร์เรนซีมีความผันผวนสูงนั่นเอง

การลงทุนผ่านคริปโทเคอร์เรนซี อาจได้รับความเชื่อถือน้อยลงจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เนื่องจาก LUNA เคยเป็นเหรียญที่ได้รับความเชื่อมั่นสูงจากทั่วโลก แต่ยังถูกโจมตีและต้องปิดตัวลงในที่สุด และพาให้ความเชื่อมั่นของสกุลเงินยักษ์ใหญ่อย่างบิทคอยน์ลดลงและราคาตกไปด้วย

อ้างอิง : Springnews, Siam blockchain