23 มิถุนายน 2565
1,683

บล. เมย์แบงก์ (MST) ผนึก BNY Mellon IM ยักษ์ใหญ่การลงทุนระดับโลก ปรับกลยุทธ์ธุรกิจสู่ดิจิทัลเวลธ์

บล. เมย์แบงก์ (MST) ผนึก BNY Mellon IM ยักษ์ใหญ่การลงทุนระดับโลก  ปรับกลยุทธ์ธุรกิจสู่ดิจิทัลเวลธ์
Highlight

เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) พลิกโฉมธุรกิจ มุ่งสร้างโอกาสการลงทุนเท่าเทียมเดินหน้าผนึก บีเอ็นวาย เมลลอน ที่ปรึกษาการลงทุนระดับโลกเพิ่มศักยภาพ ยกระดับบริการสู่เวิร์ลคลาส ต่ออยอดการบริการด้วยดิจิทัลเวลธ์ นำเสนอชุดการลงทุนที่มีความแตกต่างด้านความเสี่ยง 5 รูปแบบ และความแตกต่างด้านความผันผวน 5 รูปแบบ ตอบสนองความต้องการเมรนด์การลงทุนยุคใหม่


บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST ผู้นำด้านการลงทุน ถือหุ้นโดย เมย์แบงก์ ธนาคารอันดับ 1 ของมาเลเซีย เดินหน้าธุรกิจสู่การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน ชูกลยุทธ์มุ่งสร้างโอกาสการลงทุนที่เท่าเทียม พร้อมเร่งเครื่องปรับการทำงานสู่องค์กรรุ่นใหม่ สร้างผู้บริหารนิวเจน ต่อยอดความเชี่ยวชาญด้วยบริการรูปแบบดิจิทัลเวลท์ ให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลการลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา 

MST ล่าสุดผนึกยักษ์ใหญ่ที่ปรึกษาการลงทุนระดับโลก บีเอ็นวาย เมลลอน ไอเอ็ม (BNY Mellon IM) ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนทั่วโลกมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เสริมความแข็งแกร่งด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางร่วมบริหารความมั่งคั่ง ยกระดับพอร์ตลูกค้าสู่การลงทุนแบบไร้พรมแดน

นายอารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์(ประเทศไทย) หรือ MST กล่าวว่า เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจการเงินในประเทศไทยมากว่า 30 ปี มีผลการดำเนินการเติบโตต่อเนื่อง และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าจากรุ่นสู่รุ่น โดยล่าสุดยังได้รับรางวัล Best Retail Broker และ Best Institutional Broker ประจำปี 2022 จากเวที Alpha  Southeast Asia Awards ในการจัดอันดับสถาบันการเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

20220623-a-01.jpg

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ที่โลกได้เปลี่ยนแปลงไป ความต้องการด้านการลงทุนของลูกค้าก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อธุรกิจได้เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เดินหน้าปรับเปลี่ยนองค์กรเพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง 

โดยมองเห็นถึงโอกาสในการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งต่อข้อมูลและเพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับทุกคนได้อย่างเท่าเทียม จึงเดินหน้าปรับองค์กรภายใต้แนวคิด “Opportunity of Change” มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยมุ่งพัฒนาใน 3 ด้าน ได้แก่

1. ภาพลักษณ์ (New Brand) MST ได้ทำการ Rebranding เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และค่อยๆปรับภาพลักษณ์ให้ดูสดใส มีชีวิตชีวา เน้นสร้างแรงบันดาลใจเชิงบวก แต่ยังคงความเป็นมืออาชีพที่น่าเชื่อถือ

2. การบริหารงานในองค์กร (New Team and Culture) มีการเปิดรับคนรุ่นใหม่เข้าสู่องค์กรจำนวนมาก ด้วยโครงการสร้างการทำงานที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ต่างๆได้มีประสิทธิภาพ และปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำงานสไตล์พื้นที่เปิดเพื่อเอื้ออำอวยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงเน้นความเป็นมืออาชีพสูงสุด

3. การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ (New Investment Solutions) ที่ตอบโจทย์ตรงใจนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการการลงทุนแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งลูกค้ารายบุคคลและลูกค้าสถาบัน  ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่งคั่งและความยั่งยืนให้กับลูกค้าได้  
 
นอกจากนั้น ในส่วนของการบริการยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น “Maybank Invest 
(MBI)” เครื่องมือใหม่ที่จะเป็นตัวช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
ต่างๆได้ครบจบใน Application เดียว ครอบคลุมทั้ง หุ้น, กองทุน, ตราสารหนี้ และอื่นๆ
มากมาย ทั้งในและต่างประเทศ 

นอกจากนี้ยังจะมีการนำข้อมูลของลูกค้าในส่วนต่างๆ ผ่านระบบประมวลผลอัจฉริยะ 
(AI) เพื่อทำให้นักลงทุนสามารถจัดพอร์ตการลงทุนได้อย่างเหมาะสม และเลือก
ผลิตภัณฑ์การลงทุนได้ตรงตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หลากหลาย
ฟังก์ชันด้านการลงทุน เพื่อตอบสนองทุกความต้องการ และอำนวยความสะดวกให้กับ
ลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดใช้บริการได้อย่างเป็นทางการภายในไตรมาส
สามของปีนี้

อีกทั้ง เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ยังได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายทางธุรกิจที่
มุ่งสู่ความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาใน 3 มิติ ได้แก่ การลงทุนที่มั่งคั่งอย่างยั่งยืน 
ผ่านการให้ความรู้ด้านการลงทุนที่ถูกต้องและปลอดภัยทั้งแก่นักลงทุนและประชาชน
ทั่วไป การดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด การสร้างสังคมที่น่าอยู่และ
ยั่งยืน โดยเราสนับสนุนเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนผ่านการลงทุนในธุรกิจที่ไม่สร้างมลพิษ
ต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมในองค์กร ทั้งนี้ 
ได้มีการวัดผลด้านความยั่งยืนในระดับโลกภายใต้ธุรกิจในเครือเมย์แบงก์ทั้งหมด

ล่าสุด เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประกาศความร่วมมือกับ บีเอ็นวาย เมลลอน ไอเอ็ม 
(BNY Mellon IM) พันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลก ภายใต้ความร่วมมือนี้ BNY
Mellon IM จะช่วยมอบความเชี่ยวชาญระดับโลกให้แก่ลูกค้า ผ่านการพัฒนาบริการ
ด้านโมเดลพอร์ตการลงทุน 

โดยจะนำเสนอพอร์ตการลงทุน 5 พอร์ตฯ ที่มีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน และอีก 5 
พอร์ตที่มีระดับความผันผวนที่แตกต่างกัน BNY Mellon IM จะให้การสนับสนุนเมย์
แบงก์ (ประเทศไทย) ในการสร้างและดูแลโมเดลพอร์ตการลงทุนซึ่งรวมถึงการกระจาย
ทรัพย์สิน การบริหารความเสี่ยง และการคัดเลือกผู้จัดการ ซึ่ง เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) 
จะใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญดังกล่าวในการคัดเลือกและปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนที่
เหมาะสมกับลูกค้าในตลาดประเทศไทย

มร. โดนี่ ชามซูดิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก BMY Mellon 
Investment Management กล่าวว่า "ด้วยความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจระดับโลก
ของ BNY Mellon Investment Management มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นำเสนอโซลูชั่น
ด้านการลงทุนที่ออกแบบตามความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ความช่วยเหลือและ
สนับสนุนโมเดลพอร์ตการลงทุนสำหรับลูกค้าในประเทศไทย

“ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจบริการให้
คำปรึกษาการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่ง เสริมให้ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มี
ความพร้อมในการนำเสนอข้อมูลทางเลือก เพิ่มคุณค่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่ม
ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ซึ่งช่วยให้บริษัทได้พัฒนาธุรกิจการจัดการความมั่งคั่งและการ
ลงทุน เดินหน้าตามวิสัยทัศน์สู่การเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่หนึ่งในใจคนไทย” นาย
อารภัฏ กล่าว

MST แจ้งผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในไตรมาสแรกของปี 
2565 มีกำไรสุทธิ 281.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.87 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.76% จากช่วง
เดียวกันของปีก่อน

ติดต่อโฆษณา!