ปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนน่ากังวลหรือไม่ หรือจีนจะเจอวิกฤตรอบใหม่อีกครั้ง

Highlight

ข่าว Citigroup คาดจีนเจอวิกฤติอสังหาฯ ครั้งใหม่ เมื่อชนชั้นกลางใน 22 เมืองใหญ่เมินผ่อนบ้าน ทำให้นักลงทุนกังวลว่าจีนจะเผชิญปัญหาใหญ่ครั้งใหม่และกระทบต่อการลงทุน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจเดินทางมาถึงจุดวิกฤติอีกครั้งหรือไม่

Citigroup รายงานว่า ผู้ซื้อบ้านใน 22 เมืองใหญ่ตัดสินใจไม่ผ่อนบ้านเพิ่มขึ้น โดยพวกเขาให้เหตุผลว่าเพราะการก่อสร้างล่าช้า อีกทั้งมูลค่าของบ้านก็ลดลงเมื่อเทียบกับตอนที่ตัดสินใจซื้อเมื่อ 3 ปีก่อน การลดราคาขายอสังหาริมทรัพย์ในปี 2022 ก็ไม่สามารถช่วยได้ เนื่องจากในตอนนี้ ราคาสินทรัพย์มีการปรับตัวลดลงราว 15% เมื่อเทียบกับราคาเมื่อ 3 ปีก่อนแล้ว

ข่าวล่าสุดจีนเตรียมเปิดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ โดยกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถออกขายพันธบัตรพิเศษมูลค่ากว่า 2.2 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งหลังของปี โดยเงินทุนนั้นจะไปใช้ในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและการล็อกดาวน์จากนโยบาย "Covid Zero"

ปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยมูลค่ารวมของสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบนั้นอยู่ที่ระดับ 1.3 หมื่นล้านหยวน หรือประมาณ 2.1% ของยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวม ซึ่งรัฐบาลจีนจะสามารถหามาตรการเพื่อรับมือและป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวลุกลามและส่งผลกระทบเชิงลบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจได้

จากการตรวจสอบการลงทุนของกองทุนหุ้นจีน กองทุนส่วนใหญ่ไม่มีการลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ ยกเว้นกองทุน ETF ที่มีสัดส่วนการลงทุนที่น้อยมาก การลงทุนในกองทุนหุ้นจีนที่ผ่านมามีพัฒนาการที่ดีตามลำดับ

ผลงานกองทุนหุ้นจีน 4 ค่ายดังที่บลจ.คัดมาแนะนำให้นักลงทุนเริ่มทยอยสะสม ผลงานตั้งแต่ต้นปียังติดลบแต่ในระยะเวลา 3 เดือนย้อนหลัง กองทุนสร้างผลงานเป็นบวกได้ระดับ 6.15-23.71% ดังนี้

ผลงานหนึ่ง 3 เดือนย้อนหลัง ณ 26 กรกฎาคม 65 จาก Morningstar

- ASP-EVOCHINA เน้นลงทุนตรง และมีบางส่วนลงทุนในกองทุนหลักบริหารโดย T Rowe Price และลงทุนในกอง ETF ลงทุนหุ้น All Shares ผลตอบแทน+23.71%
- SCBCHEQ กองหลักบริหารโดย Schroder ลงทุนหุ้น All Shares ผลตอบแทน +14.08%
- KT-AShares กองหลักบริหารโดย Allianze ลงทุนหุ้น A Shares ผลตอบแทน +12.31%
- TMBCOF กองหลักบริหารโดย UBS เน้นลงทุนหุ้น H Shares ผลตอบแทน +6.15%

หุ้นจีนมีความหลากหลายและมีการจดทะเบียนอยู่ในหลายๆตลาดสำหรับนักลงทุนที่ถือหุ้นจีนอยู่และต้องการคำแนะนำในการลงทุนสามารถนำพอร์ตการลงทุนมาปรึกษาได้ที่เวลท์ รีพับพลิค

บลน. เวลท์ รีพับบลิค จำกัด อาคารธนิยะ พลาซา ชั้น 14 ถนนสีลม แขวงสุริยะวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ

สนใจลงทุนติดต่อ