ก.ล.ต. เตือนประชาชนระวัง! ร่วมขุดเหมืองคริปโท เสี่ยงหลายด้าน หน่วยงานไทยไม่ได้กำกับดูแล
Highlight
ก.ล.ต. ขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังและพิจารณาอย่างรอบคอบ หากถูกชักชวนให้ลงทุนในเหมืองขุดคริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency mining) มีความเสี่ยงหลายด้าน และไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลของไทย ปัจจุบันพบมีการประกาศเชิญชวนประชาชนร่วมขุดเหมืองคริปโทเคนเรนซี ทั้งป้ายบิลบอร์ดกลางแจ้งและในสื่อออนไลน์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังและพิจารณาอย่างรอบคอบ หากถูกชักชวนให้ลงทุนในเหมืองขุดคริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency mining) เนื่องจากมีความเสี่ยงหลายด้านและไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลของไทย
ตามที่ปรากฏในสื่อสาธารณะเกี่ยวกับธุรกิจการทำเหมืองขุดคริปโทเคอร์เรนซี ที่มีการชักชวนประชาชนให้ซื้อหรือเช่าอุปกรณ์หรือกำลังการประมวลผลของอุปกรณ์ (กำลังขุด) โดยระบุว่าจะได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูง
ก.ล.ต. ขอแจ้งว่า การลงทุนในเหมืองขุดคริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงหลายด้านที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ทั้งในด้านความผันผวนของราคาคริปโทเคอร์เรนซี ความเสี่ยงจากสภาพการแข่งขันของตลาด การเสื่อมค่าของอุปกรณ์ ค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและทรัพย์สินของผู้ทำธุรกรรม รวมทั้งอาจมีบางกรณีที่ผู้มีเจตนาไม่ดีอาศัยเป็นช่องทางในการหลอกลวง (scam) โดยไม่มีการลงทุนจริงอีกด้วย
นอกจากนี้ ธุรกิจเหมืองขุดคริปโทเคอร์เรนซี ไม่ได้เป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) และหน่วยงานกำกับดูแลของไทย
อย่างไรก็ดี หากผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวมีการออกเสนอขายโทเคนดิจิทัล หรือให้บริการเกี่ยวกับการซื้อขาย หรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลตามที่กำหนดประกอบด้วย ต้องได้รับอนุญาตตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ก่อนดำเนินการ หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามที่กฎหมายกำหนด
ดังนั้น ประชาชนที่ได้รับการชักชวนให้ร่วมลงทุนและผู้ที่สนใจลงทุนหรือทำธุรกรรมเกี่ยวกับเหมืองขุดคริปโทเคอร์เรนซีจึงควรใช้ความระมัดระวังในการทำธุรกรรม โดยศึกษาและพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับการขุดคริปโทเคอร์เรนซีและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพิจารณาความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการที่เสนอสินค้าหรือบริการดังกล่าว
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ก.ล.ต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างร่วมกันพิจารณาทบทวนแนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้มีการคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างเหมาะสม
ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลประเภทผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ และตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th/DigitalAsset และแอปพลิเคชัน “SEC Check First” หากมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดแจ้งที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร. 1207 กด 2 หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.
ทั้งนี้ การขุดคริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency mining) เป็นวิธีการหนึ่งในการได้มาซึ่งคริปโทเคอร์เรนซี โดยผู้ขุด (miner) จะต้องใช้อุปกรณ์ในการเรียกใช้ (run) โปรแกรมขุดคริปโทเคอร์เรนซี เพื่อให้ได้โอกาสที่จะได้รับคริปโทเคอร์เรนซีเป็นรางวัลเมื่อสามารถดำเนินการตามเงื่อนไขที่โปรแกรมกำหนดไว้สำเร็จ, ก.ล.ต. ระบุ
สำหรับภาพรวมการลงทุนของตลาดคริปโทเคอเรนซีในปีนี้ บทวิจัยจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เมื่อปลายเดือน ต.ค. ระบุว่าตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีโลกมีความผันผวนค่อนข้างมากและอยู่ในช่วงขาลง จากการที่ต้องเผชิญกับวิกฤติความเชื่อมั่นหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการล่มสลายของเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี และ Stablecoin (LUNA และ UST) รวมไปถึงการล้มละลายของแพลตฟอร์มกู้ยืมเงินคริปโทเคอร์เรนซี (Celsius Network และ Babel Finance) และการปิดตัวของศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ระดับโลก (Mt.Gox)
ขณะเดียวกัน ด้วยภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นทั่วโลก ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโทเคอร์เรนซี และเป็นการตอกย้ำภาพความผันผวนของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีที่ยังยากต่อการหาปัจจัยพื้นฐานมารองรับความเคลื่อนไหวของราคา
ทั้งนี้ ปัจจุบัน (9 พ.ย.65) ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีโลก อ้างอิง coingecko.com มีมูลค่าประมาณ 0.95 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงต้นปี 2565
เมื่อกลับมาพิจารณาตลาดคริปโทเคอร์เรนซีหรือตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ก็พบว่ามีทิศทางการลงทุนเช่นเดียวกับตลาดโลก โดยในเดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการซื้อขาย 66 พันล้านบาท ลดลงราวร้อยละ 51.2 จากเดือนมกราคม 2565 ขณะเดียวกัน ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยยังคงมีมูลค่าไม่มากนัก โดยมูลค่าการซื้อขายคิดเป็นเพียง 0.02 เท่าของมูลค่าตลาดหลักทรัพย์ในไทย
ตลาดคริปโทเคอเรนซียังคงผันผวน มีความไม่แน่นอนสูง และยังคงอ่อนไหวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจขาลงและการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยโลก