Bitcoin ราคาพุ่งแตะ 19,000 ดอลลาร์ อานิสงส์เงินเฟ้อสหรัฐฯ แผ่ว คาด Fed ขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้

Highlight

Bitcoin มีราคา รับขึ้นสูงสุดในรอบ 2-เดือน หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ แผ่วลงมาอยู่ที่ 6.5% ตลาดคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อน่าจะเลยจุดพีคไปแล้ว จึงคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed  จะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% จากคราวก่อนหน้าปรับขึ้น 0.75% ติดต่อกันมาหลายครั้ง โดยการประชุมครั้งถัดไปคือ 31 ม.ค. นี้ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์คาดว่า Fed อาจต้องการให้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงระยะเวลาหนึ่งแม้ว่าจะไม่ปรับเพิ่มก็ตาม

หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ โดยตัวเลข CPI ทุกรายการสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวต่างๆในภาคตลาดทุนดังต่อไปนี้

1. ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเริ่มกลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุนอีกครั้ง หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนรับที่ผ่านมา (12 ม.ค.)ต่อเนื่องถึงวันนี้ (13 ม.ค.)​ ราคาเหรียญ Bitcoin ซึ่งเป็นเหรียญที่ได้ความนิยมสูงสุดปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 19,000 ดอลลาร์ ได้อีกครั้ง

2. ตลาดคาดจุดสูงสุดเงินเฟ้อได้ผ่านไปแล้ว สำหรับการเคลื่อนไหวของ Bitcoin ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 18,880 ดอลลาร์ ย่อตัวลงเล็กน้อยหลังจากพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 19,112 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งการเคลื่อนไหวในแดนบวกของราคา Bitcoin มีขึ้นหลังจากดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(12ม.ค.)พุ่งขึ้น 216 จุด ขานรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ออกมาสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว

3. ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 216.96 จุด หรือ 0.64% ปิดที่ 34,189.97 จุด

ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 13.56 จุด หรือ 0.64% ปิดที่ 3,983.17 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 69.43 จุด หรือ 0.64% ปิดที่ 11,001.10 จุด

4. นักวิเคราะห์คาดว่า Fed ตะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในรอบการประชุมที่จะถึงนี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงขณะเปิดตลาด ท่ามกลางความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัว แต่ดัชนีดาวโจนส์ก็ดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา ขณะที่นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนก.พ. หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้

5. นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนัก 76.7%

6. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ โดยตัวเลข CPI ทุกรายการสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

7. ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.5% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดเมื่อเทียบรายปี นับตั้งแต่เดือนต.ค.2564

8. เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวลง 0.1% ในเดือนธ.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน และเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือน นับตั้งแต่เดือนเม.ย.2563 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19

9. KKP Research ระบุว่า หากทิศทางเงินเฟ้อยังคงทยอยลดลงแบบนี้ได้ต่อเนื่องจนมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายของเฟดได้ตามคาด ก็มีโอกาสที่ในระยะข้างหน้าที่ Fed อาจปรับท่าทีนโยบายการเงินซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางตลาดการเงินได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยตัวเลขตลาดแรงงานที่ยังคงตึงตัวทำให้ยังมีความเสี่ยงของเงินเฟ้อในหมวดบริการที่อาจจะสูงยืดเยื้อได้  KKP ยังคาดว่า Fed จะยังคงขึ้นดอกเบี้ยตามแผนเดิมให้ได้อย่างน้อยจนถึงระดับ 5% และคงไว้ที่ระดับดังกล่าวต่อไป

ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ

🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC