06 กุมภาพันธ์ 2566
1,398

“ทำไมไม่ควรมองข้าม ‘หุ้นไทย’ ถึงจะเคลื่อนไหวนิ่งกว่าตลาดอื่น” บลจ.บัวหลวง มองไทยเศรษกิจโอกาสเติบโตสูง

“ทำไมไม่ควรมองข้าม ‘หุ้นไทย’ ถึงจะเคลื่อนไหวนิ่งกว่าตลาดอื่น”  บลจ.บัวหลวง มองไทยเศรษกิจโอกาสเติบโตสูง
Highlight

นักลงทุนหลายคนมองข้ามการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากการเคลื่อนไหวของดัชนีไม่ค่อยหวือหวาเหมือนอย่างตลาดหุ้นในต่างประเทศ จึงทำให้มองว่าผลตอบแทนจากการลงทุนอาจไม่สูงเท่ากับตลาดที่มีความผันผวนหรือตลาดที่มีความเสี่ยงกว่า แต่เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวจากท่องเที่ยว และการเปิดประเทศ ธุรกิจที่เกี่ยวกับปัจจัยสี่ และสาธารณูปโภคพื้นฐานยังคงเติบโต บลจ.บัวหลวงแนะลงทุนกองทุน BBASIC และ B-INFRA ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนโตควบคู่เศรษฐกิจ


  • ในปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปีที่ตลาดหุ้นทั่วโลกติดลบกันถ้วนหน้า โดยเฉลี่ยปรับลดลงกว่า 20% โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ติดลบถึง 24% เมื่อหันมาดูภาพรวมตลาดหุ้นไทย ปรากฏว่า ดัชนีปรับตัวลดลงเพียง 3% เท่านั้น
  • ปัจจัยภายในประเทศ จึงถือเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยพยุงดัชนีตลาดหุ้นไทย หลังจากที่เศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัวมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา และส่งสัญญาณการ “Take Off” อย่างชัดเจนในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา

  • แม้ไทยจะมีประเด็นเรื่องเงินเฟ้อเช่นเดียวกับทั่วโลก แต่ก็ไม่ได้พุ่งพรวดเหมือนในฝั่งตะวันตก ในทางกลับกันราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของเงินเฟ้อสูง ถือเป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นหุ้น Big Cap ในตลาดหลักทรัพย์ และช่วยดันดีชนีตลาดได้อีกแรงหนึ่ง

 

ภาพตลาดหุ้นไทยในปี 2023 ประเมินจากปัจจัยพื้นฐานในเรื่องหลัก ๆ มีดังนี้

  • ภาวะเศรษฐกิจ คาดการณ์เศรษฐกิจไทยออกมาค่อนข้างดี กระทรวงการคลังประมาณการว่าจะเติบโต 3.8% ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์เติบโต 3.7% ด้าน IMF ก็มองว่าเศรษฐกิจไทยจะโตได้ 3.7% ในปีนี้เช่นกัน

  • ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่จีดีพีโตเกิน 3% สวนทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงเหลือ 2.7% ในปีนี้ ที่สำคัญคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาเติบโตในระดับก่อนโควิด-19 ได้ในปี 2023 นี้

  • ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมาจากการท่องเที่ยว โดยคาดว่าในปี 2023 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย 22 ล้านคน เติบโต 2 เท่าจาก 10 ล้านคนในปีที่แล้ว แม้ภาคบริการจะสามารถฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากวิกฤตโควิด-19

  • แต่การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐฯ ซบเซาลง ขณะที่ประเทศในกลุ่มยูโรโซนมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

  • กำไรบริษัทจดทะเบียน นักวิเคราะห์คาดว่า อัตราเติบโตการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปีนี้จะอยู่ที่ 5% ลดลงจากปี 2022 ที่เติบโต 20% สาเหตุมาจาก 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือกลุ่มพลังงานที่แรงหนุนของปัจจัยราคาพลังงานเริ่มแผ่วลง ส่วนกลุ่มธนาคารถูกกดดันด้านต้นทุน ทั้งต้นทุนการเงินจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และต้นทุนในการตั้งสำรองหนี้เสียจากคุณภาพสินเชื่อที่ลดลงเพราะผลกระทบโควิด-19

  • มูลค่าหุ้น (Valuation) มูลค่าหุ้นไทยตอนนี้ไม่แพงและไม่ถูกเกินไป โดยตลาดประเมินอัตราส่วน P/E ratio ไว้ที่ 15 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 10 ปี แต่เมื่อเปรียบเทียบส่วนต่างผลตอบแทนตลาดหุ้นกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแล้ว พบว่าหุ้นไทยแพงกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย

  • นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสริมพิเศษอย่างการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงกลางปี 2023 ซึ่งแม้จะไม่ได้ส่งผลกับตลาดหุ้นโดยตรงอย่างมีนัยสำคัญ แต่กระแสการเลือกตั้งจะสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้คึกคักขึ้น ส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นให้คึกคักตื่นตัวขึ้นมาด้วย

  • จากสถิติการเลือกตั้งทั่วไป 5 ครั้งที่ผ่านมา มี 4 ครั้งที่หุ้นไทย Outperform หรือเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดหุ้นเอเชีย ในช่วง 6 เดือนหลังการเลือกตั้ง และเห็นหุ้นในบางกลุ่มมีแรงหนุนมากขึ้นระหว่างการเลือกตั้ง เช่น ค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม

  • กลยุทธ์ที่ BBLAM แนะนำคือ ต้อง Active และ Selective โดยเลือกหุ้นที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดเมืองทั้งของไทยและจีน กลุ่มอุปโภคบริโภค กลุ่มท่องเที่ยวและบริการ การเดินทางและโลจิสติกส์ น่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานก็ยังน่าสนใจ ซึ่งปัจจัยการเลือกตั้งอาจส่งผลเชิงบวกในหุ้นบางตัว

  • สำหรับนักลงทุนที่กระจายความเสี่ยงในหลายประเทศ ก็ไม่ควรพลาดที่จะมีหุ้นไทยติดพอร์ตไว้บ้าง เพื่อช่วยให้พอร์ตการลงทุนไม่ถูกกระทบมากนักจากความผันผวนที่ยังมีต่อเนื่อง

 

ใครที่สนใจหุ้นไทย BBLAM คัดกองทุน BBASIC หรือกองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัยสี่ ที่เน้นลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริโภค การจับจ่ายใช้สอยในประเทศ และ B-INFRA หรือกองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐาน เน้นลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นอีกเซกเตอร์หนึ่งที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากปัจจัยบวกในปีนี้ 

 

ที่มา : บลจ.บัวหลวง

ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ

🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC

ติดต่อโฆษณา!