BOI เปิดจุดแข็งการลงทุนไทย โดดเด่นในภูมิภาคใน 3-5 ปีข้างหน้า
Highlight
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดจุดแข็งการลงทุนไทย โดดเด่นในภูมิภาคใน 3-5 ปีข้างหน้า กรุงเทพฯ จะพลิกโฉมตลอดไป จะเป็นเมืองที่มีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานพร้อมทั้งรถไฟฟ้าให้บริการทั่วกรุงเทพและปริมณฑล มีรถไฟเชื่อมสนามบินและท่าเรือส่งออก โดยบีโอไอมุ่งส่งเสริมธุรกิจ BCG, EV, Electronics, Digital และ Creative ซึ่งจะเป็น Game Changer ที่ไทยจะก้าวหน้าไปอีกขั้น
เมื่อมีความพร้อมที่รองรับสำหรับการเติบโตของประเทศในทุกด้าน ไทยจะเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ขณะที่ได้เปรียบทางภูมิรัฐศาสตร์อีกด้วย เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทยจะมีโอกาสถูกเลือกเป็นศูนย์กลางสำนักงานภูมิภาคของบริษัทระดับโลกมากที่สุด และเป็นแหล่งดึงดูด Talent ของภูมิภาค
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวในงานเสวนา โครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ครั้งที่ 1/2566 - “BOI พบนักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบัน” จัดขึ้นโดยสภาธุรกิจตลาดทุนไทยในวันนี้ (14 ก.พ.)
(Federation of Thai Capital Market Organisations)
บีโอไอ เปิดเผยยุทธศาสตร์ในสนับสนุนภาคการผลิตและอุตสาหกรรม สอดคล้องกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว ในการสนับสนุนภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างรากฐานการเติบโต รวมทั้งธุรกิจที่เป็นจุดแข็งของประเทศในปัจจุบันและธุรกิจใหม่ๆที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต
ความท้าทายของภาคธุรกิจ
สำหรับประเด็นความท้าทายในระดับนานาชาติ หรือตลาดโลกในปัจจุบันได้แก่ การลดปริมาณคาร์บอนในอากาศ, ปัญหาความแย้งระหว่างประเทศ, ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ หรือ Supply Chain, Technology Disruption, โรคระบาด และการเข้าสู่สังคมสูงวัย
การลงทุนในอนาคต หรือ New Investment Trends จะต้องวางแผนใน 3 เรื่องต่อไปนี้คือ Diversify Investment, Green Investment และ Smart Manufacturing
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนในอนาคต ประกอบด้วย
ศักยภาพด้านการตลาดของไทย
- โครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ พร้อมทั้งด้านไฟฟ้า ประปา ถนน ขนส่ง ท่าเรือ นิคมฯ
- ความพร้อมของบุคลากร โดยรวมมีคุณภาพ
- กฏระเบียบที่เอื้อต่อภาคธุรกิจ
- ฐานอุตสาหกรรมสนับสนุน
- ต้นทุนที่เหมาะสม สิทธิประโยชน์ทางภาษีแข่งขันได้
- สิทธิประโยชน์จากภาครัฐ
ประเทศไทยในมุมมองใหม่ มีศักยภาพในการแข่งขันดังนี้
- ได้รับผลกระทบไม่มากจากสงครามการค้า
- มีความขัดแย้งระหว่างประเทศน้อย
- มีความยืดหยุ่นของ Supply Chain
- การบริหารจัดการวิกฤตที่ไม่กระทบภาคธุรกิจ เช่น การรับมือโรคโควิดในช่วงที่ผ่านมา
- มีความสามารถในการจัดหาพลังงานหมุนเวียน
7 ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใน 5 ปีข้างหน้า (2566-2570)
- ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมและความเข้มแข็ง (Supply Chain)
- เร่งเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไปสู่ Smart & Sustainable Industry
- ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศและประตูการค้าการลงทุนของภูมิภาค
- ส่งเสริม SME & Startup ให้เข้มแข็งและเชื่อมโยงกับโลก
- ส่งเสริมการลงทุนตามศักยภาพพื้นที่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างทั่วถึง
- ส่งเสริมการลงทุนเพื่อชุมชนและสังคม
- ส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ
“บีโอไอ จะส่งเสริมการลงทุนเพื่อมุ่งสู่เศรษฐกิจใหม่ และสร้างอนาคตที่ดีให้กับคนรุ่นต่อไป โดยเน้นไปที่ Innovative, Competitive และ Inclusive” นายนฤตม์ กล่าว
ยกระดับอุตสาหกรรมเดิม ได้แก่
- เกษตร 👉 Smart Faming , Plant Factory
- อาหาร 👉 High value food เช่น Alternative Protein
- ท่องเที่ยว 👉Affluent, Long-term,Medical / Wellness
- ยานยนต์ 👉 Electric Vehicals (EV)
- อิเล็กทรอนิกส์ 👉 Upstream & Smart Electronics
- ปิโตรเคมี/เคมีภัณฑ์ 👉 Bio based ,Specialty, CCUS
- พลังงาน 👉 Renewable Energy, Hydrogen
- สิ่งทอและแฟชั่น 👉 Functional Textile, ODM/OBM
สร้างอุตสาหกรรมใหม่
- สุขภาพทางการแพทย์ - Healthcare & Medical
- ดิจิตัล - Digital
- ระบบอัตโนมัติ/หุ่นยนต์ -Automation/Robotics
- อากาศยานและอวกาศ - Aerospace
- ป้องกันประเทศ - Defense
- อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ - Creative & Soft Power
สำหรับแผนงานในระยะ 1 ปีข้างหน้า ได้แก่
- การผลักดันการลงทุนใน 5 อุตสาหกรรม ได้แก่ BCG, EV, Electronics,Digital, Creative ซึ่งเป็น Game Changer ที่สำคัญ
- ผลักดันให้ไทยเป็น “สำนักงานภูมิภาค” และแหล่งดึงดูด “Talent ของภูมิภาค”
- สร้างความพร้อมของปัจจัยสนับสนุน โดยเฉพาะเรื่องบุคลากร และ Ease of Investment
- เร่งยกระดับอุตสาหกรรมไทยไปสู่ Smart & Sustainable Industry
- สร้างความเข้มแข็งและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ SME & Startup
- ส่งเสริมให้บริษัทขนาดใหญ่ มีบทบาทมากขึ้นใน 3 ด้านคือ พัฒนาคน, พัฒนา SMEs และพัฒนาชุมชน
ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ
🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC