28 กุมภาพันธ์ 2566
770

เงินบาทอ่อนค่าในรอบ 2 เดือน แตะ 35/USดอลลาร์ กังวล Fed ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

เงินบาทอ่อนค่าในรอบ 2 เดือน แตะ 35/USดอลลาร์  กังวล Fed ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง
Highlight

ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องแตะ 35.10 เมื่อวานนี้ ก่อนรีบาวน์มาเล็กน้อยในวันนี้ที่ 35/US ดอลลาร์ จากการที่ตลาดกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในเดือนหน้า คาดว่าเงินบาทในระยะสั้นอาจอ่อนค่าต่อถึง 35.20/USดอลลาร์  ขณะที่เงินทุนต่างชาติยังคงไหลออก โดยค่าเงินระยะสั้นยังคงผันผวนจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดสาขาต่าง ๆ ซึ่งจะมีการประชุมกันตั้งแต่วันพุธนี้เป็นต้นไป

Krungthai Global Markets มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดอยู่ที่ 34.85-35.10 บาท/ดอลลาร์ ชี้มีโอกาสอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านแถว 35.20 บาทต่อดอลลาร์ นักลงทุนรอติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

  • นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อวานนี้จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.10 บาทต่อดอลลาร์

  • แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ในจังหวะย่อตัว (Buy on Dip) ได้ช่วยหนุให้บรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างปรับตัวขึ้น

  • หุ้นกลุ่มเทคนำโดย Tesla +5.5%, Nvidia +0.9%, Apple +0.8% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq รีบาวด์ขึ้น +0.63% ส่วน ดัชนี S&P500 พลิกกลับมาปิดตลาด +0.31% หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรงในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาจากความกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด

  • ในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นกว่า +1.07% หนุนโดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ในจังหวะย่อตัว เช่นเดียวกันกับในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ (ASML +2.9%, Adyen +1.8%,)

  • นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลอังกฤษกับสหภาพยุโรป (EU) ได้บรรลุข้อตกลงกฎเกณฑ์ทางการค้าหลัง Brexit สำหรับไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งจะช่วยให้การค้าระหว่างประเทศมีความคล่องตัวมากขึ้น

  • ส่วนทางด้านตลาดบอนด์ แม้ว่าผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ยังคงกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ทว่าการปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 4.00% ของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา ได้หนุนให้ผู้เล่นบางส่วนทยอยเข้ามาซื้อสะสมบอนด์ระยะยาวในจังหวะปรับฐาน

  • ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ แกว่งตัว sideways และย่อตัวลงเล็กน้อยสู่ระดับ 3.92% ซึ่งภาพดังกล่าว สอดคล้องกับมุมมองของเรา ที่คงมองว่า จังหวะบอนด์ยีลด์ ปรับตัวสูงขึ้น จะเปิดโอกาสในการทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวได้ (Buy on Dip)

  • ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังบรรยากาศในตลาดการเงินกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น นอกจากนี้ การแข็งค่าขึ้นของเงินยูโร (EUR) และเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) หลังรัฐบาลอังกฤษและสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงกฎเกณฑ์ทางการค้าหลัง Brexit สำหรับไอร์แลนด์เหนือ ก็มีส่วนกดดันให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลงบ้าง

  • โดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวลงใกล้ระดับ 104.7 จุด ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า เงินดอลลาร์จะยังไม่ได้อ่อนค่าลงชัดเจน จนกว่าตลาดจะคลายกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด

 

แนวโน้มค่าเงินดอลล่าร์

  • ธนาคารกรุงไทยมองว่า เงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways และอาจแข็งค่าขึ้นต่อได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงออกมาดีกว่าคาด ส่วนในฝั่งราคาทองคำ การย่อตัวลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้ช่วยหนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) รีบาวด์ขึ้นจากโซนแนวรับ มาสู่ระดับ 1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์

  • ตลาดจะรอติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Conference Board Consumer Confidence) โดยบรรดานักวิเคราะห์ได้ประเมินว่า ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่งและตึงตัวจะยังคงช่วยหนุนให้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นแตะระดับ 108.5 จุด ทั้งนี้ต้องจับตาว่ามุมมองของผู้บริโภคต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคตเริ่มปรับตัวแย่ลงหรือไม่

  • นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก อาทิ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประเมินแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของทั้ง BOE และ ECB ว่าจะมีโอกาสขึ้นต่อเนื่องได้ถึงระดับใด

 

แนวโน้มค่าเงินบาท

  • สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท ธนาคารกรุงไทย มองว่าการพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมานั้น ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ธนาคารกรุงไทยมองว่า เงินบาทจะยังคงไม่กลับตัวมาเป็นฝั่งแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องอย่างชัดเจน เนื่องจาก ปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าดังกล่าวจะยังคงมีอยู่ในระยะสั้นนี้

  • โดยคาดว่า จะเห็นเงินบาทกลับมาแข็งค่าได้ชัดเจน เมื่อตลาดคลายกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด ทำให้ในช่วงนี้ เงินบาทมีโอกาสแกว่งตัว Sideways UP และมีโอกาสอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านแถว 35.20 บาทต่อดอลลาร์ที่ประเมินไว้ได้

  • ทั้งนี้ หากราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นต่อได้บ้าง การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจถูกชะลอลงด้วยโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ

  • ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ธนาคารกรุงไทยมองว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานดัชนี ISM PMI ของสหรัฐฯ (ISM PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมในวันพุธ และ ISM PMI ภาคการบริการในวันศุกร์) รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด (ตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป) ทำให้ตลาดค่าเงินยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนต่อได้

  • ทั้งนี้ ความผันผวนของตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง จึงมองว่าผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน นายพูน ระบุ

  • มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.85-35.10 บาท/ดอลลาร์


ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ

🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC

ติดต่อโฆษณา!