01 มีนาคม 2566
2,394

10 อันดับกองทุน Global Equity ที่ให้ผลตอบแทนสูง

10 อันดับกองทุน Global Equity ที่ให้ผลตอบแทนสูง
Highlight

กองทุนรวมหุ้นต่างประเทศให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี สำหรับการลงทุนในช่วงระยะเวลา 3 ปี โดยกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 5 ลำดับแรกได้แก่ SCBPGF รองลงมาคือ K-CHANGE-A(A), PWIN, TMBWDEQ และ K-HITA-(A) ส่วนกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดจากช่วงต้นปี 2566 ถึงปัจจุบันคือ K-HITA-(A) ทั้งนี้กองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในปีนี้ส่วนใหญ่มีนโยบายการลงทุนใน ธุรกิจเมกะเทรนด์ ดิจิทัลเฮลท์แคร์ และเทคโนโลยี

Morningstar Research (Thailand) รวบรวมสถิติผลตอบแทนกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ ที่สร้างผลตอบแทนสูงสุดในรอบ 3 ปี โดยส่วนใหญ่ ในรอบนี้จะเป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจ mega trend

  • หากดูสถิติในช่วงท้ายของปี2565 ตลาดหุ้นจีนมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการโควิดในประเทศ ทำให้การลงทุนหุ้นจีนฟื้นตัวส่งผลให้กองทุนหุ้นจีนมีผลตอบแทนเฉลี่ย 5.3% กองทุนหุ้นจีนจึงกลับมามีแรงซื้อมากขึ้นในไตรมาสล่าสุดที่เกือบ 6 พันล้านบาท

  • โดยส่วนใหญ่เป็นการเข้าซื้อในเดือนธันวาคมจากทั้งกองทุนประหยัดภาษีและกองทุนรวมทั่วไป รวมทั้งปีมีเงินไหลเข้าสุทธิสะสม 2.1 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดีกองทุนหุ้นจีนมีผลตอบแทนติดลบค่อนข้างมากในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิหดตัว 17.7% จากปี 2564 แต่ยังมี organic growth เป็นบวกที่ 12.3%

  • นอกจากตลาดหุ้นจีนแล้ว ตลาดหุ้นเวียดนามในปี 2565 ก็เผชิญปัจจัยลบค่อนข้างมาก โดยมีทิศทางของการปรับตัวลงตลอดทั้งปี ทำให้เป็นหนึ่งในกลุ่มกองทุนที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบมากที่สุดในรอบปีที่ -32.9%

  • อย่างไรก็ดีนักลงทุนไทยยังคงแสดงความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในเวียดนามจากการเป็นกลุ่มกองทุนตราสารทุนที่มีเงินไหลเข้าสุทธิสูงสุดของปีด้วยมูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินไหลเข้าไตรมาสสุดท้ายมูลค่า 8 พันล้านบาท ซึ่งไม่ได้กระจุกตัวเฉพาะจากกองทุนประหยัดภาษี

  • ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมามีการเปิดกองทุนเวียดนามเพิ่ม 27 กองทุนทำให้ปัจจุบันมีกองทุนในกลุ่มนี้ทั้งหมด 41 กองทุนจากบลจ. 15 แห่ง รวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.5 หมื่นล้านบาท

  • สำหรับ 10 อันดับกองทุน Global Equity ที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนในหุ้นต่างสูงสุดในรอบ 3 ปี ส่วนใหญ่มีการลงทุนในธุรกิจเมกะเทรนด์และเทคโนโลยี โดยกองทุน 5 อันดับแรก ได้แก่

1. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ แพลทตินัม โกลบอล ฟันด์ (ชนิดสะสมมูลค่า) (SCBPGF)

เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ DWS Invest CROCI Sectors Plus ใน Share Class FCH (P) ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในประเทศลักเซมเบิร์ก โดยกองทุนรวมต่างประเทศดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วด้วยกระบวนการคัดเลือกหุ้นของ CROCI โดยจะคัดเลือก 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีค่าเฉลี่ยของ CROCI Economic P/E ต่ำที่สุด จาก 9 กลุ่มอุตสาหกรรม และเลือกลงทุนในหุ้นที่มี CROCI Economic P/E ต่ำที่สุดจาก 3 กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว โดย 9 กลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ในกรอบการลงทุนได้แก่ Consumer Discretionary, Consumer Staples, Health Care, Information Technology, Industrials, Materials, Telecom Services, Utilities และ Energy (Equity Fund) โดยกองทุนมี net exposure ในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศดังกล่าวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีการลงทุนที่ส่งผลให้มี net exposure ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

Overall Rating 5 ดาว จาก MorningStar ประเภท Thailand Fund Global Equity , ณ 31 ม.ค. 2566

 

2. กองทุนเปิดเค พอสซิทีฟ เชนจ์ หุ้นทุน-A ชนิดสะสมมูลค่า (K-CHANGE-A(A))

นโยบายการลงทุน ลงทุนในของกองทุน Baillie Gifford Positive Change Fund - Class B accumulation (GBP)  (กองทุนหลัก) ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือมีพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบเชิงบวก (Positive Impact) ต่อสังคมโดยรวม หรือสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ เช่น การศึกษา ความเท่าเทียมทางสังคม คุณภาพของระบบการดูแลสุขภาพ และด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ 

 

3. กองทุนเปิดฟิลลิป เวิลด์ อินโนเวชั่น (PWIN)

นโยบายการลงทุน กองทุนเปิดฟิลลิปเวิลด์อินโนเวชั่น (PWIN) เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศ และ/หรือ กองทุนรวม ETF ต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหลัก โดยกระจาย การลงทุนใน 5 ธีมที่เป็นเมกะเทรนด์ ได้แก่ e-sports-วีดีโอเกม ความปลอดภัยทางไซเบอร์ นวัตกรรมอินเทอร์เน็ต นวัตกรรมอุตสาหกรรมและธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพต่าง ๆ

 

4. กองทุนเปิดทหารไทย World Equity Index (TMBWDEQ)

นโยบายการลงทุน สร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี MSCI World ให้มากที่สุด กลยุทธ์การลงทุนของกองทุนจะใช้นโยบายในการบริหารเชิงรับ (Passive Investment Strategy) โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Lyxor ETF MSCI World (เป็นกองทุนหลักที่ลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี MSCI World) (ซึ่งกระจายการลงทุนในหุ้นของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจัดตั้งและจัดการโดย Lyxor International Asset Management และมี Societe Generale เป็น Custodian โดยกองทุนได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ EN Paris (Euronext Paris)

 

5. กองทุนเปิด เค โกลบอล ไฮ อิมแพ็ค ธีมาติก หุ้นทุน (K-HIT-A (A))

K-HIT มีนโยบายการลงทุนในบริษัทชั้นนำที่น่าสนใจและมีแนวโน้มเติบโตไปกับ Megatrends ของโลก ผ่านกองทุนหลัก Allianz Global Investors Fund - Allianz Thematica Share Class P (EUR) ซึ่งบริหารโดย Allianz Global Investors ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนระดับโลก มีการเปลี่ยนธีมธุรกิจใหม่ๆ อย่างน้อย 1 ธีม ในทุกๆ ปี เพื่อให้ทันต่อเทรนด์ใหม่ ๆ  และลงทุนในหุ้นทั่วโลกโดยไม่จำกัดทั้งขนาดและกลุ่มอุตสาหกรรม

ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ

🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC

ติดต่อโฆษณา!