17 มีนาคม 2566
1,238

6 หุ้นได้อานิสงส์จากการยุบสภา

6 หุ้นได้อานิสงส์จากการยุบสภา
Highlight

ตามไทม์ไลน์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) การประกาศยุบสภาจะต้องเกิดก่อนที่สภาผู้แทนราษฎร จะครบวาระอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 มีนาคม 2566 เพื่อให้ทันกำหนดเวลาในการเลือกตั้ง 7 พฤษภาคม 2566 ดังนั้นในสัปดาห์หน้าอาจจะเป็นไปได้ว่า จะมีการประกาศยุบสภาแล้ว บล.โกลเบล็ก คัด 7 หุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการยุบสภา ได้แก่หุ้น  TKS, SIRI, PR9, SC, STEC และ STPI

การเลือกตั้งทั่วไป จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ตามไทม์ไลน์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยเป็นการประกาศยุบสภาก่อนที่สภาผู้แทนราษฎร จะครบวาระอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 มีนาคม 2566 

  • ดังนั้นในสัปดาห์หน้า จึงคาดว่าน่าจะมีการประกาศยุบสภา ซึ่งอยู่ที่การตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงวันที่ 20-23 มีนาคม

  • บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่าการเมืองถือเป็นประเด็นที่มีผลต่อเศรษฐกิจและการลงทุนอย่างมาก โดยตลาดหุ้นมักจะมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น หากพิจารณาสถิติย้อนหลังช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการเลือกตั้งสำคัญ 5 ครั้ง (ปี 44-62) พบว่า SET ปรับตัวขึ้นเด่น 3 เดือนก่อนวันเลือกตั้ง ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย +3.4% และปรับขึ้นต่อเนื่อง 1 เดือนหลังเลือกตั้ง ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย +3.4% (โอกาสความน่าจะเป็น 60%) และหลังจากนั้น SET ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง +5.3% ท่ามกลางโอกาสความน่าจะเป็นที่ SET จะปรับขึ้นต่อสูงถึง 80% หลังเลือกตั้ง แต่ต้องพิจารณาถึงขั้วการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งเป็นสำคัญ !!

  • ด้านบล.โกลเบล็ก (GBS) มองว่าในช่วงนี้หุ้นไทยผันผวนจากความกังวลต่อเหตุการณ์ปิดกิจการของแบงก์ SVB เนื่องจากขาดสภาพคล่อง และจับตาทิศทางดอกเบี้ยในการประชุมเฟดวันที่ 21-22 มีนาคมนี้ แนะลงทุนในหุ้นได้อานิสงส์มีลุ้นประกาศยุบสภาฯ เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งในช่วงเดือนพฤษภาคม ได้แก่ TKS, SIRI, PR9, SC, STEC และ STPI

  • นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ปรับตัวในลักษณะ Sideway Down โดยนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการลุกลามจากการสั่งปิดกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ประกาศปิดกิจการและคำสั่งปิดกิจการของซิกเนเจอร์ แบงก์ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่ปล่อยกู้ให้กับอุตสาหกรรมคริปโทประกอบกับยังจับตาการประชุม FED ในวันที่ 21-22 มี.ค. เพื่อรอดูทิศทางอัตราดอกเบี้ย

  • อีกทั้งทางนักวิเคราะห์จากธนาคารซิตี้กรุ๊ปเตือนว่า ก่อนหน้านี้รัสเซียจำกัดการส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรป พร้อมประกาศว่าจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงในเดือนนี้เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกต่อเนื่อง ส่วนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-10 มี.ค. 2566 พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,870 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 39,914 ล้านบาท ขณะที่บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ซื้อสุทธิ 3,691 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ซื้อสุทธิ 38,094 ล้านบาท

  • อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ อาทิ ช่วงสัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค วันที่ 29 มี.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 2/2566 

  • ด้านปัจจัยต่างประเทศ โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐใน ปี 2566 ลงสู่ระดับ 1.2% โดยระบุว่าวิกฤตการณ์ที่เกิด ขึ้นกับธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางของสหรัฐได้ สร้างแรงกดดันต่อระบบการเงินเป็นวงกว้าง

  • ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 371.98 จุด หรือ +1.17% นักลงทุนคลายกังวลวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร หลังจากธนาคารรายใหญ่ในวอลล์สตรีท ซึ่งรวมถึงเจพี มอร์แกน และโกลด์แมน แซคส์ ประกาศอัดฉีดเงิน รวมกันมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมสภาพคล่อง ให้กับธนาคาร First Republic Bank

  • ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์ หากมีประกาศยุบสภาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าว ได้แก่ TKS, SIRI, PR9, SC ,STEC และ STPI และแนะนำต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ที่ใช้สิทธิ์หมดอย่างรวดเร็ว ได้แก่ MINT, CENTEL, ERW, SPA, AU และ SHR

  • ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังคงต้องติดตามการประกาศตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อ CPI เดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐโดยคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 6.4%ซึ่งทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนมกราคมสะท้อนถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวระดับสูงต่อไป หากตัวเลขดังกล่าวออกมาสูงกว่าคาดการณ์จะหนุนให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตามราคาทองคำได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังธนาคาร SVB ได้ปิดกิจการลง

  • ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำมี Upside ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากธนาคาร FRB อาจเป็นรายต่อไปที่ต้องปิดกิจการจากผลกระทบของ CRYPTO และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้เราประเมินกรอบราคาทองคำที่ 1,885-1,950 $/Oz



ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ

🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC
ติดต่อโฆษณา!