26 มีนาคม 2566
2,510

หุ้น VS คริปโท แตกต่างกันอย่างไร ??

หุ้น VS คริปโท แตกต่างกันอย่างไร ??
Highlight

สำหรับมือใหม่ในการลงทุนนั้น คงมีคำถามที่คาใจ และอยากเปรียบความเหมือนและความต่างระหว่าง “หุ้น” และ “คริปโท” เพราะในอดีตนั้นสินทรัพย์ในการลงทุนก็ไม่ได้มีหลากหลายอย่างเช่นทุกวันนี้ แต่สำหรับคนรุ่นใหม่แล้ว การลงทุนในคริปโทนั้นดูจะได้รับความสนใจไม่น้อย ทั้งที่มีความเสี่ยงสูงกว่าหุ้นหลายเท่า เพราะคริปโทนั้นไม่มีสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ ทั้งสิ้น ราคาขึ้นลงจากจากการเก็งกำไรเป็นหลัก


วันนี้มาเปรียบเทียบดูกันว่า “ลงทุนในหุ้น” และ “คริปโตเคอร์เรนซี” ในเชิงของการลงทุน มีจุดที่เหมือนกันและจุดที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง?

▪️ ความเหมือน 

ก่อนที่เราจะไปดูว่าหุ้นและคริปโตเคอร์เรนซีนั้นแตกต่างกันอย่าง เราต้องทำความเข้าใจถึงพื้นฐานที่เหมือนกันของสินทรัพย์ทั้ง 2 ประเภทนี้เสียก่อน โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.ขับเคลื่อนโดยอุปสงค์

มูลค่าของทั้งคริปโตและหุ้นต่างขึ้นอยู่กับปัจจัยเดียวกันนั่นคือปริมาณอุปสงค์ หรือความต้องการซื้อของตลาดนั่นเอง การทำกำไรจากการซื้อขายหุ้นหรือคริปโต เรียกว่าการ “เก็งกำไร” (Speculation) หรือก็คือการเลือกเข้าซื้อในช่วงราคาหนึ่ง รอให้ราคาสูงขึ้นในอนาคตเพื่อที่จะทำการขาย และทำกำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขาย 

2.ไอเดีย

สมมติว่าหากเหรียญคริปโตเหรียญหนึ่งถูกสร้างขึ้นมาโดยมีไอเดียหรือจุดประสงค์ที่น่าสนใจ ก็ย่อมมีความต้องการซื้อหรืออุปสงค์ในเหรียญนั้นๆที่มากตาม เหมือนกับบริษัทที่มีผลประกอบการดีและพื้นฐานมั่นคงทำให้เป็นที่ต้องการของนักลงทุน ซึ่งความน่าสนใจนี้นี่เองที่จะทำให้ปริมาณอุปสงค์เกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงลบและเชิงบวก ซึ่งรวมถึงข่าวสารต่างที่อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทหรือตัวเหรียญด้วย

3.มูลค่ายังผูกมัดกับเงิน Fiat

ปฏิเสธไม่ได้ว่ามูลค่าของคริปโตและหุ้นยังจำเป็นต้องนำไปเทียบกับเงิน Fiat อย่างเงินบาท ดอลลาร์ หรือยูโร เพื่อให้การเปรียบเทียบมูลค่าเป็นไปได้โดยง่าย เพราะว่าเงิน Fiat ยังเป็นที่ถูกใช้งานกันอย่างกว้างขวาง 

4.ซื้อ-ขายผ่านแอป

หากเป็นคนที่เคยซื้อขายหุ้นหรือสินทรัพย์ประเภทอื่นอย่าง ทองคำ น้ำมัน หรือค่าเงินมาก่อน ก็น่าจะคุ้นเคยกับการใช้แอปพลิเคชั่นสำหรับการซื้อขายคริปโตเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นการใช้กราฟวิเคราะห์ราคา การส่งคำสั่งซื้อ-ขาย การใช้ Indicators ต่างๆนั้นแทบจะเหมือนกันทุกระเบียดนิ้ว

▪️ ความแตกต่าง

เมื่อเข้าใจในพื้นฐานที่เหมือนกันของทั้ง 2 สินทรัพย์ เรามาดูกันว่าสิ่งที่แตกต่างกันมีอะไรบ้างและเหมาะกับนักลงทุนแบบไหน ดังต่อไปนี้ 

1.ความมั่นคง

หากลองเปรียบเทียบเรื่องของความผันผวนของราคาแล้ว นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็งกำไรต่างยอมรับว่าคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนที่มากกว่าหุ้น

ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะการสร้างเหรียญคริปโตมีระยะเวลาที่สั้นกว่า เพราะความเป็น Open-source ของคริปโต ที่ใครก็ตามที่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมสามารถทำการคัดลอก Source Code และสร้างเป็นเครือข่าย Cryptocurrency ใหม่ขึ้นได้

ส่วนการที่จะเกิดหุ้นขึ้นมาตัวหนึ่ง จำเป็นต้องมีการยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ประเมินความเสี่ยง บริษัทที่จะสามารถเข้ามาในตลาดหุ้นได้ก็จำเป็นต้องมีชื่อเสียงและความมั่นคงที่สูงในระดับหนึ่งถึงจะได้รับการยอมรับ 

2.เงินปันผล

การซื้อหุ้นก็เหมือนกับการนำเงินของเราไปให้บริษัทใช้ลงทุน หากประสบผลสำเร็จ บริษัทก็จะแบ่งผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนหุ้นที่ถือ หรือที่เรียกว่าเงินปันผล (Dividend) แต่ในวงการคริปโต หากไม่ใช่การเก็งกำไรแล้ว การทำให้เหรียญที่มีงอกเงยสามารถทำได้โดยการขุด (Mining) สำหรับเครือข่ายคริปโตที่เป็นแบบ Proof-of-work เช่น Bitcoin, Dogecoinโดยต้องลงทุนเพิ่มไปกับเครื่องขุดและค่าไฟ หรืออีกวิธีหนึ่งที่เรียกว่าการ Stake เหรียญ สำหรับเครือข่ายแบบ Proof-of-Stake เช่น Ethereum, Polkadot โดยต้องทำการล็อคเหรียญ (Staking) ที่ถือครองจำนวนหนึ่งลงบนเครือข่ายและรอรับผลตอบแทนจากการเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม 

3.เวลาซื้อขาย

เนื่องจากหุ้นส่วนใหญ่มักจะสามารถซื้อขายได้เฉพาะช่วงที่ตลาดหุ้นเปิดทำการเท่านั้น บางที่อาจไม่สามารถซื้อขายได้ในวันเสาร์-อาทิตย์ และตลาดก็มักจะปิดทำการในวันหยุดประจำชาติ แม้หุ้นจะสามารถซื้อขายได้ 24 ชั่วโมงผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือ Futures แต่ช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวหนักๆก็มักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดเปิดทำการเป็นส่วนมาก  ขณะที่คริปโตเคอร์เรนซีคือเครือข่ายที่ไม่มีตัวกลาง จึงไม่จำเป็นต้องรอให้คนใดคนหนึ่งเปิดให้บริการ การซื้อขายจึงเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ และไม่มีวันหยุดใดๆเข้ามาเกี่ยวข้อง 

4.ต้นทุนขั้นต่ำ

การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีมีต้นทุนขั้นต่ำที่ต่ำกว่าหุ้นอย่างมาก ยกตัวอย่าง Bitcoin นักลงทุนไม่จำเป็นต้องเริ่มซื้อขั้นต่ำที่ 1 Bitcoin (ราคาประมาณ 410,000 บาทต่อ 1 Bitcoin ข้อมูล ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2020) แต่สามารถซื้อในหน่วยย่อยได้ถึง 0.00000001 Bitcoin หรือเรียกว่า 1 Satoshi (ประมาณ 0.004 บาท) ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละกระดานเทรด

ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ถูกกำหนดให้ซื้อขั้นต่ำที่ 100 หุ้น (ขึ้นอยู่กับนโยบายของโบรกเกอร์) สมมติว่า 1 หุ้นมีมูลค่าที่ 50 บาท เมื่อคูณมูลค่าของหุ้นและจำนวนหุ้นขั้นต่ำเท่ากับว่าการซื้อหุ้นต้องมีเงินทุนอย่างน้อย 5,000 บาทเลยทีเดียว

▪️ สรุป

ตามปัจจัยที่ยกมาด้านบน จะเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่าการลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยงที่สูงกว่าการลงทุนในหุ้น และยังมีวิธีที่จะทำให้เงินที่ลงทุนนั้นงอกเงยแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยข้อดีและข้อเสียของการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์สามารถแบ่งออกเป็นข้อๆได้ตามนี้

หากมองอีกมุมหนึ่ง การที่คริปโตเคอร์เรนซีมีเหรียญใหม่ๆเกิดขึ้นบ่อยและราคามีความผันผวนที่สูงกว่าอาจเป็นโอกาสในการทำกำไรของนักลงทุนบางกลุ่ม แต่ก็ควรตระหนักเสมอว่าไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือคริปโต การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นนักลงทุนต้องรู้จักประเมินกำลังทรัพย์ของตนให้ดี ศึกษาและทำความเข้าใจในสินทรัพย์นั้นๆก่อนจะตัดสินใจ

 

อ้างอิง : Bitkub, Provocome, The Balance


ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ

🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC

ติดต่อโฆษณา!