เศรษฐกิจอินเดียกับศักยภาพผู้นำร่วมของเอเชีย
ตลาดอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ภาพเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ในประเทศเกิดใหม่ จะโตหรือไม่ อยู่ที่ 4 ปัจจัยหลัก ซึ่งอินเดียเป็นประเทศที่มี 4 ปัจจัยหลักอยู่ครบถ้วน
1. โครงสร้างประชากร อินเดียมีจำนวนวัยแรงงานสูง
ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ข้อมูลจากสหประชาชาติ ระบุว่า ณ เมษายน 2566 อินเดียมีประชากร รวม 1,425 ล้านคน แซงประเทศจีน ดังนั้นจึงน่าสนใจว่า จำนวนประชากรมหาศาลและ อยู่ในวัยแรงงานถึง 60% โอกาสการสร้างงาน รายได้ และการบริโภคที่สูง
2. การเติบโตของกลุ่มชนชั้นกลาง
อินเดียในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง กลุ่มคนวัยแรงงานเริ่มมีเงินออมและกำลังซื้อสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวจากอินเดียที่เดินทางมาไทยเพิ่มขึ้น เทียบจากก่อนหน้านั้น คนที่เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยจะเป็นชนชั้นวรรณะสูง หรือกลุ่ม Wealth เท่านั้น
3. คนอินเดียมีความเก่ง
บริษัทชั้นนำระดับโลก มีผู้บริหารเป็นคนอินเดีย หรือมีเชื้อสายอินเดีย แม้แต่ผู้นำในบางประเทศก็ตาม พื้นฐบานคนอืนเดียจะมีความสามารถด้านการคำนวณ ด้านวิทยาศาสตร์ สอดคล้องกับความต้องการของโลกยุคใหม่ ที่ต้องการบุคลากรที่เกี่ยวกับ Data Science แนวโน้มอินเดียมีอนาคตที่ดีขึ้น จะเห็นว่าอินเดียจะเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่เป็นประเทศเป้าหมาย
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศจีนไม่เติบโตเกิดจากความขัดแย้งกับสหรัฐฯ ที่คอยออกกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาและเติบโตของจีน หลายบริษัทที่เป็นบริษัทข้ามชาติที่ตั้งโรงงานอยู่ในจีน ไม่สามารถส่งออกได้ เพราะนโยบายของสหรัฐฯ หลาย ๆ บริษัทก็เห็นปัญหา ถ้าไม่ย้ายออกจากจีนเลย ก็ใช้นโยบาย China+1 กลุ่มประเทศเป้าหมายที่จะมาตั้งโรงงานในการผลิตนอกจากอาเซียนแล้วก็คืออินเดีย เพราะมีศักยภาพหลายด้าน ทั้งจำนวนประชากรวัยแรงงานและค่าจ้างที่ยังไม่สูง
4. การเมืองที่มั่นคง
แม้ในอดีตจะมีปัญหาเกี่ยวกับการเป็นประเทศอาณานิคม แต่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา การเมืองอินเดียค่อนข้างนิ่ง มีเสถียรภาพ ภายใต้การนำของนายนเรนทรา ดาโมดาร์ดาส โมที (Narendra Damodardas Modi) ที่สามารถประสานทุกฝ่ายของกลุ่มการเมืองในประเทศ รวมทั้งการเมืองในระดับโลก ทำให้อินเดียสามารถเติบโตได้ค่อนข้างราบรื่น
นโยบายหนึ่งที่ทำได้สำเร็จคือนโยบาย “New India” เป็นการยกระดับอินเดียเป็นอีกประเทศหนึ่งให้มีรายได้และเศรษฐกิจเติบโตได้ดี ซึ่งเป้าหมายคือต้องการให้เศรษฐกิจอินเดียเติบโตและมีตัวเลขเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าเดิม 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
มุมมองจากคนภายนอกว่า อินเดียมีโอกาสที่จะเติบโตแล้วจะใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกภายในปี 2570 ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะแซง ญี่ปุ่น เยอรมัน ปัจจุบันเป็นรองแค่สหรัฐฯและจีน ศักยภาพของอินเดียที่โดดเด่นกว่าไทยและฝั่งอาเซียนคือ เรื่องของภาษา
แม้อินเดียเคยไปร่วมกับกลุ่ม BRICS ซึ่งประสบปัญหาทางเศรษฐกิจในระดับหนึ่งมาก่อน แต่เชื่อว่าในแต่ละประเทศมีแนวทางเป็นของตนเอง และอินเดียอาจยึดความเป็นกลางทางการเมืองในระดับสากล เชื่อว่าปัญหาจะไม่กระทบมากเท่ากับคู่ขัดแย้งโดยตรง เช่น สหรัฐฯ รัสเซีย และจีน เป็นต้น
สำหรับการลงทุนในอินเดีย บลจ.บัวหลวง แนะนำกองทุน “B-BHARATA” ซึ่งลงทุนในอินเดีย แบบ Selective บริหารโดย Nippon Life India Asset Management (Singapore) Pte. ซึ่งมีแนวคิดและมุมมองที่น่าสนใจ โดยจะลงทุนในหุ้นรายตัว และคัดเลือกหุ้นลงทุนเพียง 40-60 ตัว จากราว 5 พันกว่าตัว
โดยกองทุนจะลงทุนใน 7 Mega Investment Theme ในอินเดีย ได้แก่ Healthcare, Consumption, Data/Internet/IT Services, Financial, Formalisation of Economy, Investment/Industrial and Manufacturing
อินเดียตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา (2561-2566) เฉลี่ยประมาณ 8% ต่อปี เป็นประเทศใหญ่ที่ GDP เติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงโควิด-19 จะชะลอไปบ้าง แต่โดยรวมยังสูงอยู่
เทียบกับจีนซึ่งในอนาคตอันใกล้อาจกลายเป็นประเทศสังคมสูงอายุ เนื่องจากอัตราการเกิดต่ำ เมื่อเทียบกับอินเดียที่มีวัยแรงงานค่อนข้างมากมีอัตราการเกิดที่ดี ที่น่าสนใจเมื่อมีเงินมากขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น การจับจ่ายใช้สอยด้าน Healthcare ก็จะตามมา
4 ปัจจัย ที่เป็นแรงผลักดันให้ อุตสาหกรรม Healthcare ในอินเดียเติบโตคือ
1. ความต้องการด้านสุขภาพที่มากขึ้น จากชนชั้นกลางที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น ความใส่ใจด้านสุขภาพมากขึ้น และความสามารถในการจ่ายเพิ่มขึ้น
2. มีความเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างประชากร มีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น ปัจจุบันมีราว 100 ล้านคน และจะเพิ่มเป็น 168 ล้านคนในอีกไม่กี่ปี ซึ่งมีแนวโน้มค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น
3. มีการสนับสนุนจากภาครัฐ มีการปรับโครงสร้างยกระดับชีวิต, ดูแลกลุ่มประชากรชนชั้นล่าง, ลดภาษีให้กับบริษัทยาที่คิดค้น หรือทำวิจัยภายในประเทศ
4. Medical Tourism 1. มีโรงพยาบาลระดับโลกพร้อมผู้เชี่ยวชาญ 2. ต้นทุนทางด้านศัลยกรรม ประมาณ 20% ของประเทศที่พัฒนาแล้ว, ปรับระบบสุขภาพเพื่อรองรับผู้คนจากประเทศอื่น ๆ
ช่องทางการติดต่อ
ธนาคารกรุงเทพ
บลจ.บัวหลวง
BF Fund TRADING
Tel. 02-6746488 กด 8
ตัวแทนขายหน่วยลงทุน