21 กันยายน 2566
856
Bond Yield สหรัฐฯ พุ่งสูงสุดในรอบ 17 ปี หลัง Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย
ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาดและนักวิเคราะห์
อย่างไรก็ตามในรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot ระบุว่า เจ้าหน้าที่ Fed ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในปีนี้
ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed กล่าวว่าการที่ Fed จะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ได้อาจต้องใช้เวลาอีกนาน แม้จะมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลงมาแล้วก็ตาม
นายพาวเวล กล่าวอีกว่า ยังคงมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอยู่ในภาวะ Soft Landing แต่เส้นทางที่จะไปถึงจุดนั้นได้เริ่มแคบลงและใช้เวลานาน ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของ Fed นี่จึงเป็นเหตุผลที่ Fed จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบระมัดระวัง ตลาดคาดว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ภายในสิ้นปีนี้
หุ้นเอเชียร่วงตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนตีความคำแถลงนโยบายล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าเป็นการส่งสัญญาณให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นในระยะยาว ด้านตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆ
InnovestX Securities ระบุว่าตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ตามตลาดภูมิภาค และนโยบายการเงินของ Fed ยังคงทำให้ตลาดบอนด์ผันผวน
ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อหลังจากนี้คือการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ (21 ก.ย.) ซึ่งคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 5.5% และการการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งหากส่งสัญญาณที่จะเข้มงวดนโยบายการเงินในอนาคต อาจจะทำให้ Bond Yield และสภาพคล่องโลกอาจจะลดลงได้
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยสภาธุรกิจ แสดงความเห็นในเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กว่า ประเด็นต้องติดตามคือการประชุมในช่วงต้นเดือนพ.ย. Fed จะขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม Fed ยังคงมีนโยบายคงดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงสุดประมาณ 5.6% เป็นเวลา 1 ปีนับจากนี้ ก่อนจะลดในไตรมาสสุดท้ายในปีหน้า ซึ่งช้ากว่าคาดการณ์เดิมที่จะลดช่วงกลางปี
“ทำให้โลกต้องทนอยู่กับดอกเบี้ย Fed ที่สูงเป็นเวลาพอสมควร มาลุ้นกันว่าผลกระทบที่ตามมากับระบบการเงินและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประเทศต่าง ๆ จะเป็นอย่างไร” ดร.กอบศักดิ์ ระบุ
อย่างไรก็ตามในรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot ระบุว่า เจ้าหน้าที่ Fed ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในปีนี้
ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed กล่าวว่าการที่ Fed จะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ได้อาจต้องใช้เวลาอีกนาน แม้จะมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลงมาแล้วก็ตาม
นายพาวเวล กล่าวอีกว่า ยังคงมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอยู่ในภาวะ Soft Landing แต่เส้นทางที่จะไปถึงจุดนั้นได้เริ่มแคบลงและใช้เวลานาน ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของ Fed นี่จึงเป็นเหตุผลที่ Fed จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบระมัดระวัง ตลาดคาดว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ภายในสิ้นปีนี้
หุ้นเอเชียร่วงตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนตีความคำแถลงนโยบายล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าเป็นการส่งสัญญาณให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นในระยะยาว ด้านตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆ
InnovestX Securities ระบุว่าตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ตามตลาดภูมิภาค และนโยบายการเงินของ Fed ยังคงทำให้ตลาดบอนด์ผันผวน
ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อหลังจากนี้คือการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ (21 ก.ย.) ซึ่งคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 5.5% และการการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งหากส่งสัญญาณที่จะเข้มงวดนโยบายการเงินในอนาคต อาจจะทำให้ Bond Yield และสภาพคล่องโลกอาจจะลดลงได้
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยสภาธุรกิจ แสดงความเห็นในเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กว่า ประเด็นต้องติดตามคือการประชุมในช่วงต้นเดือนพ.ย. Fed จะขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม Fed ยังคงมีนโยบายคงดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงสุดประมาณ 5.6% เป็นเวลา 1 ปีนับจากนี้ ก่อนจะลดในไตรมาสสุดท้ายในปีหน้า ซึ่งช้ากว่าคาดการณ์เดิมที่จะลดช่วงกลางปี
“ทำให้โลกต้องทนอยู่กับดอกเบี้ย Fed ที่สูงเป็นเวลาพอสมควร มาลุ้นกันว่าผลกระทบที่ตามมากับระบบการเงินและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประเทศต่าง ๆ จะเป็นอย่างไร” ดร.กอบศักดิ์ ระบุ