28 กันยายน 2566
576
ทิสโก้แนะลดพอร์ตหุ้นโลก เพิ่มลงทุนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Tisco ESU) เปิดเผยว่า ทิสโก้ยังคงแนะนำลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นโลก และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ตราสารหนี้ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
จากการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ในปี 2567 และธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต้องกลับมาลดดอกเบี้ยลงเร็วและแรงกว่าที่คาดอาจทำให้ ผลตอบแทนรวมจากการลงทุนในพันธบัตรอาจเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 10%
ดังนั้นจึงมองว่าการลงทุนพันธบัตรสามารถคาดหวังผลตอบแทนได้สูงกว่าตลาดหุ้นโลก และช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้ดีในกรณีที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงมากกว่าคาดการณ์ในปี 2567
“ปัจจุบันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond Yield) เคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 4.5% และคาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับนี้ในระยะสั้น ก่อนจะลดลงสู่ระดับที่ 3.9-4.0% ในช่วงสิ้นปี 2566 ตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในช่วงท้ายปี
หากเป็นไปตามคาด การลงทุนในพันบัตรอายุ 10 ปี จะได้รับผลตอนแทนจากส่วนต่างของราคาอีก 2-3% เพิ่มเติมจากผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ราว 4.5% ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนรวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 6-7% ในกรอบระยะเวลาการลงทุน 1 ปี
แต่หากเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า และ Fed ต้องกลับมาลดดอกเบี้ยลงเร็วและแรงกว่าที่คาด จะส่งผลให้บอนด์ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.0% ซึ่งในกรณีนี้ผลตอบแทนรวมจากการลงทุนในพันธบัตรอาจเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 10%” นายคมศรกล่าว
ทั้งนี้ แม้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นโลกจะปรับฐานลงมาตามคาด เพราะได้รับแรงกดดันจาก Bond Yield ที่พุ่งขึ้น ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลง แต่ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ยังคงแนะนำให้นักลงทุนลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นโลก เนื่องจากเศรษฐกิจอาจชะลอตัวมากกว่าคาด
นอกจากนี้ อาจนำไปสู่การปรับลดคาดการณ์ผลกำไรของตลาดหุ้น และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ตราสารหนี้ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีอัตราผลตอบแทน (บอนด์ยิลด์) ในระดับสูง มีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ต่ำ และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจ