03 ตุลาคม 2566
653
รถ EV แข่งเดือด BYD ใกล้แซง Tesla
Tesla และ BYD เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก กลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญในการยึดตำแหน่งผู้นำรถไฟฟ้า ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในตอนนี้
ในปี 2022 ยอดขายรถยนต์ EV ของ Tesla สําหรับรถยนต์ไฟฟ้า all-battery (BEVs) ยังคงเป็นอันดับ 1 แต่ช่องว่างแคบลงอย่างรวดเร็วโดยคาดว่า BYD จะสามารถครองตลาด BEV ได้ก่อนสิ้นปี 2023
BYD รายงานยอดขายไตรมาส 3 สูงเป็นประวัติการณ์ในวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมาโดย Tesla รายงานการลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2
Tesla ลดการผลิตในไตรมาสที่ 3 ลง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการอัพเกรด และในปี 2023 นี้ Tesla ได้ลดราคาหลายครั้งเพื่อให้การส่งมอบเพิ่มขึ้น โดยรายได้จะลดลงในปีนี้
ขณะที่ BYD รายงานผลกําไร Q2 ที่โตแบบก้าวกระโดด ยังคงตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมายการขายรถยนต์ 3 ล้านคันในปี 2023
Tesla มีรถออกมาเพียง 4 รุ่น หลักโดยยอดขายส่วนใหญ่คือรุ่น Y นอกเหนือจากชุด Model 3 ที่ปรับปรุงใหม่
BYD ใช้กลยุทธ์ด้านราคา ขายรถ EV จากราคา 10,700 ถึง 150,600 ดอลลาร์ และมี โมเดลใหม่ปรับปรุงอยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน BYD จัดหาแบตเตอรี่ให้กับ Tesla ด้วย
การส่งมอบของ Tesla เหลือเพียง 435,059 คันในไตรมาสที่ 3 ลดลงจากไตรมาสที่ 2 ที่ 466,140 คัน ต่ำกว่าที่ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะส่งมอบที่ประมาณ 455,000 การผลิตร่วงลงสู่ระดับ 430,4888 ในไตรมาสที่ 3 จาก 479,700 ของไตรมาสที่ 2 ท่ามกลางการอัพเกรดโรงงานและความพยายามที่จะลดสินค้าคงคลัง
ในขณะเดียวกัน BYD ขาย EV สูงเป็นประวัติการณ์ 287,454 คันในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากยานพาหนะส่วนบุคคล 151,193 คันเป็น all-electric BEVs และ 134,710 คันเป็น plug-in hybrids สําหรับไตรมาสที่3 นี้ BYD ขายได้ 824,001 คัน รวมถึง BEV ส่วนบุคคล 431,603 คัน
ยอดขายในต่างประเทศ ของ BYD ก็เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์จำนวน 28,039 คันในเดือนกันยายน เทียบกับ 25,023 คันในเดือนสิงหาคม 18,169 คันในเดือนกรกฎาคม และ 10,536 คันในเดือนมิถุนายน การส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
BYD ครองอันดับ 1 ใน BEV ในประเทศจีนและเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับที่ 10 ของโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2023
BYD กําลังเพิ่มการผลิต EV และแบตเตอรี่ โดยมีโรงงานในจีนจํานวนมากขึ้น และกำลังสร้างโรงงาน EV ในประเทศไทยแล้ว โดยจะเริ่มการผลิตในปี 2024 ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน BYD ที่ผ่านมาประกาศว่าจะสร้างโรงงาน EV ในบราซิล และคาดว่าจะสร้างหรือซื้อโรงงานอย่างน้อยหนึ่งแห่งในยุโรป เพื่อการเข้าถึงตลาดที่มากขึ้น
ในปี 2022 ยอดขายรถยนต์ EV ของ Tesla สําหรับรถยนต์ไฟฟ้า all-battery (BEVs) ยังคงเป็นอันดับ 1 แต่ช่องว่างแคบลงอย่างรวดเร็วโดยคาดว่า BYD จะสามารถครองตลาด BEV ได้ก่อนสิ้นปี 2023
BYD รายงานยอดขายไตรมาส 3 สูงเป็นประวัติการณ์ในวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมาโดย Tesla รายงานการลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2
Tesla ลดการผลิตในไตรมาสที่ 3 ลง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการอัพเกรด และในปี 2023 นี้ Tesla ได้ลดราคาหลายครั้งเพื่อให้การส่งมอบเพิ่มขึ้น โดยรายได้จะลดลงในปีนี้
ขณะที่ BYD รายงานผลกําไร Q2 ที่โตแบบก้าวกระโดด ยังคงตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมายการขายรถยนต์ 3 ล้านคันในปี 2023
Tesla มีรถออกมาเพียง 4 รุ่น หลักโดยยอดขายส่วนใหญ่คือรุ่น Y นอกเหนือจากชุด Model 3 ที่ปรับปรุงใหม่
BYD ใช้กลยุทธ์ด้านราคา ขายรถ EV จากราคา 10,700 ถึง 150,600 ดอลลาร์ และมี โมเดลใหม่ปรับปรุงอยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน BYD จัดหาแบตเตอรี่ให้กับ Tesla ด้วย
การส่งมอบของ Tesla เหลือเพียง 435,059 คันในไตรมาสที่ 3 ลดลงจากไตรมาสที่ 2 ที่ 466,140 คัน ต่ำกว่าที่ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะส่งมอบที่ประมาณ 455,000 การผลิตร่วงลงสู่ระดับ 430,4888 ในไตรมาสที่ 3 จาก 479,700 ของไตรมาสที่ 2 ท่ามกลางการอัพเกรดโรงงานและความพยายามที่จะลดสินค้าคงคลัง
ในขณะเดียวกัน BYD ขาย EV สูงเป็นประวัติการณ์ 287,454 คันในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากยานพาหนะส่วนบุคคล 151,193 คันเป็น all-electric BEVs และ 134,710 คันเป็น plug-in hybrids สําหรับไตรมาสที่3 นี้ BYD ขายได้ 824,001 คัน รวมถึง BEV ส่วนบุคคล 431,603 คัน
ยอดขายในต่างประเทศ ของ BYD ก็เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์จำนวน 28,039 คันในเดือนกันยายน เทียบกับ 25,023 คันในเดือนสิงหาคม 18,169 คันในเดือนกรกฎาคม และ 10,536 คันในเดือนมิถุนายน การส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
BYD ครองอันดับ 1 ใน BEV ในประเทศจีนและเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับที่ 10 ของโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2023
BYD กําลังเพิ่มการผลิต EV และแบตเตอรี่ โดยมีโรงงานในจีนจํานวนมากขึ้น และกำลังสร้างโรงงาน EV ในประเทศไทยแล้ว โดยจะเริ่มการผลิตในปี 2024 ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน BYD ที่ผ่านมาประกาศว่าจะสร้างโรงงาน EV ในบราซิล และคาดว่าจะสร้างหรือซื้อโรงงานอย่างน้อยหนึ่งแห่งในยุโรป เพื่อการเข้าถึงตลาดที่มากขึ้น