16 ตุลาคม 2566
407
สงคราม อาจบานปลายและเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูง กดดันหุ้นไทยร่วงกว่า 2%
ตลาดหุ้นไทยลดลงค่อนข้างแรงตามตลาดหุ้นโลก จากความกังวลภาวะสงครามขยายตัวลุกลามไปยังพันธมิตรของแต่ละฝ่าย ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้าวันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. โดย SET Index อยู่ที่ 1,420.42 จุด ลดลง 30.33 จุด หรือลดลง -2.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 32.8 พันล้านบาท
ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส เตือนว่า สถานการณ์ในขณะนี้อาจทำให้เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดในรอบหลายสิบปี ไม่ว่าจะเป็นสงครามในยูเครนที่ยังคงดำเนินอยู่ รวมทั้งการที่กลุ่มฮามาสก่อเหตุโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อตลาดพลังงานและตลาดอาหาร การค้าโลก และความสัมพันธ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์
ฮั่วเซ่งเฮง ระบุว่าราคาทองคำผันผวนปรับขึ้น - ลง ตามปัจจัยที่เข้ามากระทบ สำหรับปัจจัยด้าน Gold Bullish ประกอบด้วย ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคาร และความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน - รัสเซีย สงครามอิสราเอล - ฮามาส คาดว่าหากมีความรันแรงขึ้นราคาทองคำจะขึ้นไปแตะ 1,950 ดอลลาร์ต่ออนซ์ในระยะใกล้
ขณะที่ปัจจัยด้าน Gold Bearish คือ แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ หรือการคงดอกเบี้ยในระดับสูงที่ยาวนานขึ้น จากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าเงินเฟ้อสูงขึ้น
ราคาทองคำ Spot ในวันศุกร์ที่ 13 ต.ค. ปรับตัวขึ้นแรง ปิดตลาดที่ 1,932 ดอลลาร์ ปรับขึ้นกว่า 63.74 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 3.41% จากวันก่อน จากสถานการณ์สงครามรุนแรงขึ้น
ราคาทองคำ Gold Spot วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.58 น. ปรับลดลงอยู่ที่ 1,916.57 โดยลดลง 10.18 ดอลลาร์หรือ -0.53% เนื่องจากคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย หรือคงดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานาน เพราะอัตราเงินเฟ้อล่าสุดยังสูงอยู่
ฮั้วเซ่งเฮง คาดการณ์อีกว่า ราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งขึ้นแตะ 100 เหรียญต่อบาร์เรล เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่า อิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) โดยบริเวณช่องแคบฮอร์มุซมีการขนส่งน้ำมันวันละ 17.2 ล้านบาร์เรลเลยทีเดียว คิดเป็นสัดส่วนกว่า 20% ของการขนส่งน้ำมันโลก
โดยยูเออี คูเวต อิหร่าน กาตาร์ บาห์เรน และอิรัก ต่างใช้เส้นทางนี้ขนส่งน้ำมัน ซึ่งถ้าเส้นทางนี้ปิดก็จะส่งผลต่ออุปทานน้ำมันโลก ขณะที่รัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย ลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปี ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดน้ำมันตึงตัว อาจทำให้บางประเทศเกิดการขาดแคลนน้ำมันได้
อย่างไรก็ตามเงินบาทกลับมาแข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยและทองคำ หลังจากที่มีดารขายอย่างหนักทำราคาหุ้นค่อนข้างถูกมากแล้ว
ค่าเงินบาทเช้านี้ (16 ต.ค.) เปิดที่ระดับ 36.19 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 36.40 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย คาดว่ากรอบเงินบาทในวันนี้ (16 ต.ค.) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.00 - 36.30 บาทต่อดอลลาร์
บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส ระบุว่าสัปดาห์นี้นักลงทุนยังติดตามสถานการณ์สงครามในอิสราเอลที่ยังมีอยู่อย่างใกล้ชิด ความรุนแรงของสงครามสะท้อนจากราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นแรงถึง 5% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา และยังมีโอกาสยืนอยู่ระดับสูงต่อ
ส่งผลดีต่อหุ้กลุ่มน้ำมัน แนะนำลงทุน PTT Exploration and Production (PTTEP), Thai Oil (TOP), และ PTT
ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส เตือนว่า สถานการณ์ในขณะนี้อาจทำให้เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดในรอบหลายสิบปี ไม่ว่าจะเป็นสงครามในยูเครนที่ยังคงดำเนินอยู่ รวมทั้งการที่กลุ่มฮามาสก่อเหตุโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อตลาดพลังงานและตลาดอาหาร การค้าโลก และความสัมพันธ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์
ฮั่วเซ่งเฮง ระบุว่าราคาทองคำผันผวนปรับขึ้น - ลง ตามปัจจัยที่เข้ามากระทบ สำหรับปัจจัยด้าน Gold Bullish ประกอบด้วย ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคาร และความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน - รัสเซีย สงครามอิสราเอล - ฮามาส คาดว่าหากมีความรันแรงขึ้นราคาทองคำจะขึ้นไปแตะ 1,950 ดอลลาร์ต่ออนซ์ในระยะใกล้
ขณะที่ปัจจัยด้าน Gold Bearish คือ แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ หรือการคงดอกเบี้ยในระดับสูงที่ยาวนานขึ้น จากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าเงินเฟ้อสูงขึ้น
ราคาทองคำ Spot ในวันศุกร์ที่ 13 ต.ค. ปรับตัวขึ้นแรง ปิดตลาดที่ 1,932 ดอลลาร์ ปรับขึ้นกว่า 63.74 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 3.41% จากวันก่อน จากสถานการณ์สงครามรุนแรงขึ้น
ราคาทองคำ Gold Spot วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.58 น. ปรับลดลงอยู่ที่ 1,916.57 โดยลดลง 10.18 ดอลลาร์หรือ -0.53% เนื่องจากคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย หรือคงดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานาน เพราะอัตราเงินเฟ้อล่าสุดยังสูงอยู่
ฮั้วเซ่งเฮง คาดการณ์อีกว่า ราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งขึ้นแตะ 100 เหรียญต่อบาร์เรล เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่า อิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) โดยบริเวณช่องแคบฮอร์มุซมีการขนส่งน้ำมันวันละ 17.2 ล้านบาร์เรลเลยทีเดียว คิดเป็นสัดส่วนกว่า 20% ของการขนส่งน้ำมันโลก
โดยยูเออี คูเวต อิหร่าน กาตาร์ บาห์เรน และอิรัก ต่างใช้เส้นทางนี้ขนส่งน้ำมัน ซึ่งถ้าเส้นทางนี้ปิดก็จะส่งผลต่ออุปทานน้ำมันโลก ขณะที่รัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย ลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปี ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดน้ำมันตึงตัว อาจทำให้บางประเทศเกิดการขาดแคลนน้ำมันได้
อย่างไรก็ตามเงินบาทกลับมาแข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยและทองคำ หลังจากที่มีดารขายอย่างหนักทำราคาหุ้นค่อนข้างถูกมากแล้ว
ค่าเงินบาทเช้านี้ (16 ต.ค.) เปิดที่ระดับ 36.19 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 36.40 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย คาดว่ากรอบเงินบาทในวันนี้ (16 ต.ค.) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.00 - 36.30 บาทต่อดอลลาร์
บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส ระบุว่าสัปดาห์นี้นักลงทุนยังติดตามสถานการณ์สงครามในอิสราเอลที่ยังมีอยู่อย่างใกล้ชิด ความรุนแรงของสงครามสะท้อนจากราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นแรงถึง 5% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา และยังมีโอกาสยืนอยู่ระดับสูงต่อ
ส่งผลดีต่อหุ้กลุ่มน้ำมัน แนะนำลงทุน PTT Exploration and Production (PTTEP), Thai Oil (TOP), และ PTT