17 ตุลาคม 2566
472
โบรกเกอร์แนะลงทุน หุ้นหลบภัยสงคราม สร้างโอกาสท่ามกลางตลาดผันผวน
ภาวะสงครามสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน หุ้นโลกดิ่งต่อเนื่องกลัวเหตุการณ์บานปลายกลายเป็นสงครามตัวแทน ล่าสุดการสู้รบยังคงรุนแรงที่บริเวณฉนวนกาซาตอนเหนือ โดยอิสราเอลไล่บดขยี้ฮามาสอย่างหนักหวังกวาดล้างให้สิ้นซาก
ราคาทองคำ น้ำมัน ยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามภาวะสงคราม ในส่วนตลาดหุ้นแม้ภาพรวมจะปรับลดลง แต่ยังมีหุ้นที่สามารถชนะตลาดท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด และความผันผวนสูง
ท่ามกลางภาวะสงครามที่กำลังร้อนระอุ นักวิเคราะห์มองว่ายังมีหุ้นที่ได้ประโยชน์ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวได้
บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส หรือ ASPS ระบุว่าตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 1,416 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 2 ปี 11 เดือน
ปัจจัยลบทั้งภายนอกภายใน กดดันตลาดหุ้นไทยร่วงต่อเนื่อง คาดการณ์กำไรงวดไตรมาส 4/66 ที่ต่ำผิดปกติเพียง 1.72 แสนล้านบาท (ปกติอยู่ระดับ 2.5 แสนล้านบาท) อย่างไรก็ตามถ้าดู Forward P/E23F จะเหลือเพียง 15.8 เท่า อิง EPS23F ที่ 88.6 บาท/หุ้น และถ้าเป็น P/E24F จะเหลือเพียง 14.19 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย Forward P/E ในรอบ 10 ปี ที่ 18.8 เท่า
ฝ่ายวิจัยฯ ASPS แนะนำ Buy and Hold โดยสะสมหุ้น Domestic หลบความผันผวน จากปัจจัยภายนอก อาทิ WHA, ERW, CPN, CRC พร้อมกับลดความผันผวนให้พอร์ตจากประเด็นสงครามในอิสราเอล กับหุ้นน้ำมัน แนะนำ TOP
บริษัทหลักทรัพย์ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดดัชนีฯ มีโอกาส Rebound หลังจากปรับตัวลงมามาก แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ตะวันออกลางอย่างใกล้ชิด ผู้นำหลายประเทศไม่ต้องการให้การสู้รบเกิดการบานปลาย แต่ยังคงเป็นความเสี่ยงของตลาด
ราคาน้ำมันล่าสุด Brent อยู่ที่ $89.9 เหรียญ จากคาดการณ์ว่าสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสจะไม่บานปลายออกไป
อย่างไรก็ตาม ทิศทางตลาดหุ้น ขึ้นกับระดับความรุนแรงบนความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าจะไม่รุนแรง
ยังมีปัจจัยลบในประเทศของไทยเองกดดันตลาดเพิ่มเข้ามา บล.ดาโอ จึงแนะนำให้ถือ “เงินสด” ไว้ก่อน หรือควรพร้อมซื้อ/ขาย ตามสถานการณ์รายวัน จุดรับสำคัญของดัชนีฯ ยังเป็น 1420 จุด
แนะนำลงทุนหุ้นที่ราคาลงมามาก เสี่ยงจากสงครามน้อยกว่าหุ้นอื่น เช่น TIDLOR, MTC, SCB
บนสภาพตลาดแบบนี้ ยังแนะนำให้ถือ “เงินสด” ไว้ก่อน หรือพักเงินในหุ้นที่จ่ายปันผลดี สำหรับ list ของหุ้นปันผลที่เลือกยังคงเป็น PTT, SPALI, DMT
พอร์ตหุ้นวันนี้ ตัด IVL ออกและคงหุ้นที่เหลือไว้ทั้งหมด พอร์ตหุ้นประกอบไปด้วย SCB(10%), SAWAD (10%), TRUE (10%), CRC(10%), COCOCO (10%)
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการสู้รบในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์อาจขยายวงกว้าง
ล่าสุดทางเจพีมอร์แกน เชส เตือนว่าสถานการณ์ในขณะนี้อาจทำให้เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดในรอบหลายสิบปี ไม่ว่าจะเป็นสงครามในยูเครนที่ยังคงดำเนินอยู่ รวมทั้งการที่กลุ่มฮามาสก่อเหตุโจมตีอิสราเอล อาจส่งผลกระทบต่อตลาดพลังงาน ตลาดอาหาร การค้าโลก และความสัมพันธ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์
จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,400 - 1,450 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์แนะลงทุนใน 5 หุ้นเด่น จาก IAA Consensus ได้แก่ ADVANC, AOT, BBL, CPALL, SCB
ราคาทองคำ น้ำมัน ยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามภาวะสงคราม ในส่วนตลาดหุ้นแม้ภาพรวมจะปรับลดลง แต่ยังมีหุ้นที่สามารถชนะตลาดท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด และความผันผวนสูง
ท่ามกลางภาวะสงครามที่กำลังร้อนระอุ นักวิเคราะห์มองว่ายังมีหุ้นที่ได้ประโยชน์ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวได้
บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส หรือ ASPS ระบุว่าตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 1,416 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 2 ปี 11 เดือน
ปัจจัยลบทั้งภายนอกภายใน กดดันตลาดหุ้นไทยร่วงต่อเนื่อง คาดการณ์กำไรงวดไตรมาส 4/66 ที่ต่ำผิดปกติเพียง 1.72 แสนล้านบาท (ปกติอยู่ระดับ 2.5 แสนล้านบาท) อย่างไรก็ตามถ้าดู Forward P/E23F จะเหลือเพียง 15.8 เท่า อิง EPS23F ที่ 88.6 บาท/หุ้น และถ้าเป็น P/E24F จะเหลือเพียง 14.19 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย Forward P/E ในรอบ 10 ปี ที่ 18.8 เท่า
ฝ่ายวิจัยฯ ASPS แนะนำ Buy and Hold โดยสะสมหุ้น Domestic หลบความผันผวน จากปัจจัยภายนอก อาทิ WHA, ERW, CPN, CRC พร้อมกับลดความผันผวนให้พอร์ตจากประเด็นสงครามในอิสราเอล กับหุ้นน้ำมัน แนะนำ TOP
บริษัทหลักทรัพย์ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดดัชนีฯ มีโอกาส Rebound หลังจากปรับตัวลงมามาก แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ตะวันออกลางอย่างใกล้ชิด ผู้นำหลายประเทศไม่ต้องการให้การสู้รบเกิดการบานปลาย แต่ยังคงเป็นความเสี่ยงของตลาด
ราคาน้ำมันล่าสุด Brent อยู่ที่ $89.9 เหรียญ จากคาดการณ์ว่าสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสจะไม่บานปลายออกไป
อย่างไรก็ตาม ทิศทางตลาดหุ้น ขึ้นกับระดับความรุนแรงบนความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าจะไม่รุนแรง
ยังมีปัจจัยลบในประเทศของไทยเองกดดันตลาดเพิ่มเข้ามา บล.ดาโอ จึงแนะนำให้ถือ “เงินสด” ไว้ก่อน หรือควรพร้อมซื้อ/ขาย ตามสถานการณ์รายวัน จุดรับสำคัญของดัชนีฯ ยังเป็น 1420 จุด
แนะนำลงทุนหุ้นที่ราคาลงมามาก เสี่ยงจากสงครามน้อยกว่าหุ้นอื่น เช่น TIDLOR, MTC, SCB
บนสภาพตลาดแบบนี้ ยังแนะนำให้ถือ “เงินสด” ไว้ก่อน หรือพักเงินในหุ้นที่จ่ายปันผลดี สำหรับ list ของหุ้นปันผลที่เลือกยังคงเป็น PTT, SPALI, DMT
พอร์ตหุ้นวันนี้ ตัด IVL ออกและคงหุ้นที่เหลือไว้ทั้งหมด พอร์ตหุ้นประกอบไปด้วย SCB(10%), SAWAD (10%), TRUE (10%), CRC(10%), COCOCO (10%)
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการสู้รบในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์อาจขยายวงกว้าง
ล่าสุดทางเจพีมอร์แกน เชส เตือนว่าสถานการณ์ในขณะนี้อาจทำให้เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดในรอบหลายสิบปี ไม่ว่าจะเป็นสงครามในยูเครนที่ยังคงดำเนินอยู่ รวมทั้งการที่กลุ่มฮามาสก่อเหตุโจมตีอิสราเอล อาจส่งผลกระทบต่อตลาดพลังงาน ตลาดอาหาร การค้าโลก และความสัมพันธ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์
จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,400 - 1,450 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์แนะลงทุนใน 5 หุ้นเด่น จาก IAA Consensus ได้แก่ ADVANC, AOT, BBL, CPALL, SCB