หุ้นไทยดิ่งปิดที่ 1,399.35 จุด ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ผวาสงครามรุนแรง เงินเฟ้อพุ่ง

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (20 ต.ค.66) ปิดที่ 1,399.35 จุด ลดลง 23.69 จุด หรือ 1.66% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 52,983.02 ล้านบาท ภาวะการซื้อขายภาคบ่ายดัชนียังลงต่อเนืองจากภาคเช้า และดัชนีหลุดระดับ 1,400 จุด โดยระหว่างวันลงมาต่ำสุดที่ 1,397.80 จุด 

โดยมีแรงขายในหุ้น SCB หลังประกาศงบไตรมาส 3/66 ออกมาในช่วงบ่ายวันนี้ รวมถึงหุ้น IVL ที่ราคายังลงต่อเนื่องจากภาคเช้า เนื่องจากมีโรงงานบางส่วนตั้งอยู่ในอิสราเอล 

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่าราคาน้ำมันพุ่ง เงินเฟ้อเสี่ยงขยับ ความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส หนุนราคาน้ำมันดีดราว 13% และมีแนวโน้มแตะ $95 ต่อบาเรล ความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ อาจหนุนให้ Fed ขึ้นดอกเบี้ยรอบประชุมเดือน ธ.ค. แม้ปัจจุบัน Invert Yield Curveจะติดลบน้อยลง ทำให้โอกาสขยับดอกเบี้ยมีไม่มาก 

หากดอกเบี้ยปรับเพิ่มจะเป็นปัจจัยกดดันต่อการไหลออกของเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) จากตลาดหุ้นเอเชียต่อเนื่อง 

ส่วน Digital Wallet ส่อแววเลื่อน ไม่ทันใช้ 1 ก.พ. เนื่องจากไม่สามารถสรุปแหล่งที่มาของเงิน และช่องทางการจ่ายเงิน อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังย้ำชัดน่าจะทันใช้ภายในไตรมาส 1 ปีหน้า โดยจะมีการประชุมอีกครั้ง 24 ต.ค. นี้เป็น Sentimentลบต่อต่อความเชื่อมั่นระยะสั้น 

บล.เอเอสแอล ระบุว่าตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในวันนี้ มาจากความกังวล หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ส่งสัญญาณที่จะทำให้เงินเฟ้อกลับมาอยู่ในเป้าหมายที่ระดับ 2% ก่อนที่จะมีการประชุม FOMC วันที่ 31 ต.ค. ถึง 1 พ.ย. คาดแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน 

ส่งผลให้ 10 Year US Bond Yield ปรับตัวขึ้นสูงเข้าใกล้ระดับ 5% กดดันการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับสถานการณ์สงครามในตะวันออกลาง ส่อเค้าความตึงเครียดมากขึ้น

แม้ช่วงบ่าย Bond Yield จะย่อตัวลงได้บ้าง แต่มองว่ายังไม่สามารถฟื้นกลับมาได้ เนื่องจากปัจจัยในประเทศที่มีวันหยุด 3 วันมีความเสี่ยง จึงมีแรงขายลดความเสี่ยงออกมาอีก

ด้านปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์หน้า ได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ 24 ต.ค,  PMI ภาคบริการเดือน ต.ค. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน MoM เดือน ก.ย., GDP 3Q23 เทียบ QoQ,จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิว่างงานครั้งแรก และ ในวันที่ 27 ต.ค. ดัชนีราคาใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐานเดือน ก.ย. เทียบกับปีก่อน รวมทั้งความคืบหน้าเรื่องสงคราม